‘นายกฯ อิ๊งค์’ ร้องโอ้! ดราม่าไม่สนใจคนใต้ ลั่นสามีก็เป็นคนใต้ น้ำตาคลอแจง ไม่ได้ละเลย เป็นนายกฯ ของคนทั้งประเทศ ต้องรักษาสัญญา ขอดูสถานการณ์ก่อนลงพื้นที่ หวั่นกระทบคนทำงาน ย้ำมาตรการความช่วยเหลือต้องถึง สำคัญกว่าต้องไปปรากฎตัว
วันที่ 1 ธ.ค. 2567 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ ว่า ตั้งแต่เกิดเหตุมีรองนายกฯและรัฐมนตรีจำนวนสี่ท่านลงพื้นที่ไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนมาตรการช่วยเหลือต่างๆได้มีการพูดคุยกับทางธนาคารซึ่งจะมีการปรับเหตุการณ์ช่วยเหลือในพื้นที่น้ำท่วมภาคเหนือไปใช้ภาคใต้ด้วย ขณะที่อุปกรณ์เครื่องมือช่วยเหลือต่างๆ รวมถึงอุปกรณ์ของกระทรวงกลาโหมก็นำไปช่วยในพื้นที่ภาคใต้หมด
ส่วนตนเองจะขอดูเหตุการณ์ก่อนว่าจะสามารถลงพื้นที่ไปได้เลยหรือไม่ เพราะหากลงพื้นที่ไป เจ้าหน้าที่ที่ทำงานอยู่ในพื้นที่ก็จะต้องมาต้อนรับ ตามระบบ แต่หากสามารถไปได้เลยก็จะลงพื้นที่เลย
เมื่อถามว่าจะชี้แจงอย่างไรเพื่อให้ประชาชนเข้าใจว่านายกรัฐมนตรีไม่ได้ละเลยคนในพื้นที่ภาคใต้หลังมีกระแสดราม่า นางสาวแพทองธาร ถึงกับร้องโอ้ว และเปลี่ยนสีหน้า ก่อนจะกล่าวว่า
ถ้าพูดถึงคำว่าละเลยตนเองมีสามีเป็นคนใต้ ครอบครัวสามีเป็นคนใต้ ถ้าละเลยคนใต้หรือไม่รักคนใต้ จะแต่งงานกับคนใต้ไม่ได้ คือไม่ใช่ วันที่เกิดน้ำท่วม ทั้งรองนายกฯ และรัฐมนตรี ลงพื้นที่ ไปประสานงาน และแจกจ่ายงานทั้งหมดทันที ตั้งแต่กลางคืน เราทำทุกอย่าง แต่แพลนวันนี้เราแพลนไว้เป็นเดือน พืชที่จะฟื้นฟูภาคเหนือทั้งเชียงใหม่ และเชียงราย พร้อมแล้วสำหรับการท่องเที่ยว นี่คือแพลนทั้งหมด เพื่อให้เห็นว่าเที่ยวเชียงใหม่แล้วสามารถมาต่อที่เชียงรายได้
เพราะฉะนั้นจำเป็นที่จะต้องมาเหมือนกัน ซึ่งเรามีทั้งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีหลายคน เราส่งไปช่วยทั้งหมดไม่ได้แปลว่าไม่ไปจังหวัดนี้ คนนี้ แปลว่าไม่สนใจมองแบบนี้ไม่ได้เลย แต่ละคนมีหน้าที่ที่รับผิดชอบมากมาย ต้องแบ่งงานกันทำ ไม่ใช่ว่าเกิดเหตุทั้งประเทศแล้วตนเองต้องลงไปครบทุกที่ ต้องไปทั้งหมดทุกโอกาสมันก็จะยาก แต่เราไม่ได้ละเลย ทันทีที่เกิดเรื่องเราส่งคนไป ต้องมีหน่วยงานที่รับผิดชอบ ต้องมีเครื่องมือ ซึ่งในส่วนของภาคใต้ต้องบอกว่ารัฐบาลขยับได้เร็ว และช่วยเหลือได้เร็วมาก
ขอให้เปิดใจในเรื่องนี้ เราเป็นคนเหนือแต่งงานกับคนใต้ และคนที่ทำงานด้วยหลายคนก็เป็นคนใต้ มันไม่ใช่เลยที่ต้องมีดราม่า และไม่จำเป็นเลย ไม่ว่าจะเป็นภาคไหนก็เป็นคนไทยเหมือนกัน วันนี้บอกแล้วว่าวันนี้จะเป็นนายกรัฐมนตรีของคนทั้งประเทศ ต้องรักษาคำสัญญานั้น
ส่วนจะลงพื้นที่ภาคใต้ในสัปดาห์หน้าหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอดูความเหมาะสม ไม่ว่าจะเกิดภัยอะไรกับจังหวัดไหนก็ตามตนเองอยากไปหมด ถ้าทำได้ไปแน่นอน แต่อย่างน้อยความช่วยเหลือต้องไปถึงก่อน นี่คือสิ่งสำคัญที่สุด สำคัญกว่าคนหนึ่งจะไปปรากฏตัว ปรากฏหน้าที่ไหน แต่มาตรการความช่วยเหลือต้องถึงทุกจังหวัดที่เกิดภัยแบบนี้
หลังเกิดกระแสดราม่าในโซเชียลว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่ลงพื้นที่ไปช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมชายแดนภาคใต้ แต่กลับเดินกับครอบครัวอยู่ที่เชียงใหม่-เชียงราย ซึ่งเป็นช่วงที่มีการประชุมครม.สัญจร ล่าสุดมีรายงานว่า นายกฯ มีกำหนดการเตรียมลงพื้นที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสงขลา และจังหวัดปัตตานี เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจติดตามสถานการณ์น้ำ และเร่งรัดการเยียวยา และฟื้นฟูพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ในสัปดาห์หน้า ซึ่งในวันจันทร์ที่ 2 ธ.ค.จะมีการประชุม ศปช.เพื่อวางกำหนดการ และจุดที่จะลงไปติดตามตรวจเยี่ยม โดยวางไว้เบื้องต้นว่านายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่ในวันศุกร์ที่ 6 ธ.ค.นี้
นายกฯ แพทองธาร ได้สั่งการไปยัง นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ให้ประสานหน่วยงานต่างๆ เพื่อเร่งรัดให้การช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะจุดที่ขาดแคลนเครื่องมือ และได้ประสานกระทรวงกลาโหมให้ทหารเข้าไปช่วยเหลือประชาชน โดยต้องการให้เร่งรัดขั้นตอนการเยียวยาให้เกิดความรวดเร็ว ไม่ให้ประชาชนต้องรอนาน
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ตั้งใจจะลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ตั้งแต่เกิดน้ำท่วมในช่วงแรกแล้ว แต่ติดภารกิจการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ที่วางกำหนดการไว้ก่อนหน้าแล้ว และหากไปในช่วงสถานการณ์น้ำท่วมหนัก จะเป็นภาระแก่เจ้าหน้าที่ที่เข้าไปช่วยเหลือประชาชนต้องมาคอยต้อนรับ โดยตลอดช่วงที่เกิดสถานการณ์น้ำท่วม นายกฯได้ติดตามและสั่งการนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมกองทัพ ลงไปช่วยประชาชนอย่างเต็มที่ ล่าสุดรัฐบาลได้มีการสั่งเบิกงบภัยพิบัติให้กับพื้นที่ภาคใต้ เพื่อเร่งช่วยเหลือประชาชน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง