svasdssvasds

ชัยชนะของ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ อาจเป็นจุดจบของขบวนการ Woke ที่มากเกินไป ?

ชัยชนะของ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ อาจเป็นจุดจบของขบวนการ Woke ที่มากเกินไป ?

ถึงเวลาจุดจบของขบวนการ Woke ที่ยัดเยียดเกินไปหรือยัง ? เมื่อ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ มีนโยบายต่อต้านความหลากหลายแทบทุกมุม

SHORT CUT

  • กมลา แฮร์ริส สนับสนุนให้ชาวอเมริกันให้ "ตื่นรู้อยู่เสมอ" เช่นเดียวกับไบเดน ทว่าชัยชนะของ โดนัลด์ ทรัมป์ ก็ตอกย้ำแล้วว่า คนอเมริกันอาจไม่ได้ต้องการแบบนั้น
  • ผู้สนับสนุนทรัมป์ประกอบด้วยคริสเตียนผิวขาว 80% คริสเตียนละติน 70% และคริสเตียนผิวดำมากกว่า 10% ซึ่งทั้งหมดต้องการยึดมั่นในค่านิยมคริสเตียนดั้งเดิม 
  • ทรัมป์ต้องการยกเลิกกฎหมาย Title IX ของรัฐบาลไบเดน ที่ระบุว่า ห้ามการเลือกปฏิบัติต่อบุคคลใด ๆ บนพื้นฐานของเพศ ตั้งแต่วันแรกที่ดำรงตำแหน่ง 

ถึงเวลาจุดจบของขบวนการ Woke ที่ยัดเยียดเกินไปหรือยัง ? เมื่อ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ มีนโยบายต่อต้านความหลากหลายแทบทุกมุม

ที่ผ่านมาในสมัยของพรรคเดโมแครต มีนโยบายที่มุ่งเน้นการสนับสนุนความเท่าเทียมและการยอมรับความหลากหลายทางวัฒนธรรมมาตลอด เพราะภายในพรรคเองก็มีความหลากหลายทางเชื้อชาติอย่างชัดเจน โดยมีสมาชิกมาจากกลุ่มเชื้อชาติและชาติพันธุ์ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น ชาวผิวดำ, ชาวลาติน, ชาวเอเชีย, และกลุ่มชาติพันธุ์อื่น ๆ

มีรายงานที่อ้างว่า สหรัฐฯ ยุคไบเดน ได้มีคำสั่งไปยัง กระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ (HHS) ให้จ่ายเงินกว่า 400 ล้านดอลลาร์ในโครงการที่เกี่ยวข้องกับความหลากหลายและ ความเท่าเทียม ตามนโยบาย DEI เพื่อกระจายแนวคิดนี้ไปทั่วประเทศ

ผลพวงจากนโยบายนี้ อาจมีส่วนทำให้สื่อบันเทิงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ภาพยนตร์ซีรีส์ ดนตรี และวงการเกม ดำเนินตามนโยบาย DEI ด้วย จึงเป็นที่มาของประเด็นดราม่านับไม่ถ้วนบนโลกอินเทอร์เน็ต เพราะเมื่อความ ‘ตื่นรู้’ หรือภาษาง่ายๆ ที่คนสมัยนี้เข้าใจ คือ WOKE เข้ามาเปลี่ยนแปลงผลงานศิลปะต่างๆ จนไม่เหมือนเดิม ก็ย่อมทำให้ผู้บริโภคไม่พอใจเป็นธรรมดา และเมื่อผู้นำชาติอันดับ 1 ของโลกมีแนวคิดแบบนี้ จึงทำให้หลายประเทศทั่วโลกเดินตามอุดมการณ์นี้ไปด้วย

เมื่อ กมลา แฮร์ริส เข้ามาลงชิ่งตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2024 เธอก็สนับสนุนให้ชาวอเมริกันให้ "ตื่นรู้อยู่เสมอ" เช่นเดียวกับไบเดน ทว่าชัยชนะของ โดนัลด์ ทรัมป์ ก็ตอกย้ำแล้วว่า คนอเมริกันส่วนใหญ่อาจไม่ได้ต้องการแบบนั้น

ชัยชนะของ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ อาจเป็นจุดจบของขบวนการ Woke ที่มากเกินไป ? PHOTO REUTERS

ชาวอเมริกันไม่ต้องการ WOKE ?

แม้ชาวอเมริกัน จำนวนมากที่ลงคะแนนเสียงให้ทรัมป์อาจไม่ได้สนับสนุนเขาโดยตรง แต่คะแนนเสียงของพวกเขาอาจบอกเป็นนัยว่า คนอเมริกันขอปฏิเสธอุดมการณ์ "ตื่นรู้" และแนวคิดเสรีนิยมสุดโต่งที่มาจาก กมลา แฮร์ริส และพรรคเดโมแครต จึงทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้สำหรับชาวอเมริกันคือการลงคะแนนเสียงเพื่อ "ทำให้ประเทศอเมริกายิ่งใหญ่ขึ้นอีกครั้ง" และเราก็เห็นผลแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น กลุ่มที่เคร่งศาสนาคริสต์ มองว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งนี้ เป็นเหมือนการต่อสู้ทางจิตวิญญาณระหว่างความดีและความชั่ว ซึ่งกลุ่มศาสนาที่สนับสนุนทรัมป์ใช้ประโยชน์จากตรงนี้พยายามฟื้นฟูค่านิยมของคริสเตียน และอนุรักษนิยมให้กับประเทศ ดังนั้นเมื่อทรัมป์รอดจากลอบสังหาร 2 ครั้ง และได้รับชัยชนะ จึงเหมือนเป็นประสงค์ของพระเจ้า ที่พาเขาเข้าทำเนียบขาวอย่างแท้จริง

PHOTO REUTERS

Woke หรือตื่นรู้ คืออะไร ?

คำว่า "woke" เริ่มได้รับความนิยมเมื่อประมาณ 15 ปีที่แล้ว และยังคงพัฒนาความหมายมาโดยตลอด ตามพจนานุกรม Oxford English Dictionary คำว่า "woke" ในสมัยใหม่หมายถึง "ผู้ตระหนักรู้" หรือ "ผู้ได้รับข้อมูลครบถ้วน" ในแง่การเมืองหรือวัฒนธรรม

เดิมที คำนี้หมายถึงการสนับสนุนกลุ่มคนผิวดำ กลุ่มสตรีนิยมและการต่อต้านการกดขี่ ซึ่งเป็นการรณรงค์ที่น่าชื่นชม อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คำศัพท์นี้ได้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่แย่ลง ในสื่อต่างๆ และถูกตีความเป็นแนวคิดสุดโต่งของฝ่ายซ้ายจัด การแบ่งแยกทางเพศ การกีดกันคนขาวและผู้ชาย การยึดกลุ่มของตัวเองเป็นศูนย์กลางของโลก และการกีดกันผู้ที่เห็นต่างอย่างก้าวร้าว ไปจนถึงจุดยืนต่อต้านศาสนา

ทั้งนี้ เป็นที่สังเกตว่า ผู้สนับสนุนทรัมป์ประกอบด้วยคริสเตียนผิวขาว 80% คริสเตียนละติน 70% และคริสเตียนผิวดำมากกว่า 10% ซึ่งทั้งหมดต้องการยึดมั่นในค่านิยมคริสเตียนซึ่งเป็นรากฐานของประเทศ ซึ่งทรัมป์ยังบอกกับชาวคริสเตียนว่า พวกเขาจะ "มีอำนาจในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน" และยังรับปากว่า จะปราบปรามการยอมรับอัตลักษณ์ทางเพศในโรงเรียนและในสังคมอีกด้วย

โดนัลด์ ทรัมป์  มีจุดยืนเรื่องความหลากหลายอย่างไร 

ที่ผ่านมาอุดมการณ์ของทรัมป์เอง ก็แสดงให้เห็นว่า เขามีความแน่วแน่มากในการมีเป้าหมายจำกัดสิทธิของบุคคลข้ามเพศ หลังได้รับการเลือกตั้งดังนี้

  • ทรัมป์ต้องการให้ บริการต่างๆ สำหรับคนข้ามเพศที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ (ทั้งคนที่แปลงและไม่ได้แปลงเพศ) เป็นเรื่องผิดกฎหมายในระดับประเทศ
  • ทรัมป์ต้องการให้ สำนักงานอาหารและยา (FDA) ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเกี่ยวกับความเสี่ยงจากการใช้ฮอร์โมนสำหรับคนข้ามเพศ
  • ทรัมป์ต้องการยุติ “โปรแกรมทั้งหมดที่ส่งเสริมแนวคิดเรื่องเพศและการเปลี่ยนแปลงทางเพศในทุกช่วงวัย
  • ทรัมป์ต้องการตัดเงินทุนของรัฐบาลกลางที่มอบโรงเรียนที่เปิดกว้างต่อความหลากหลายมากเกินไป รวมถึงโรงเรียนใดๆ ก็ตามยัดเยียดทฤษฎีการเมืองที่ไม่เหมาะสม
  • ทรัมป์ต้องการห้าม นักกีฬา ข้ามเพศเข้าแข่งขันในทีมที่มีอัตลักษณ์ทางเพศตรงกับตัวเอง
  • ทรัมป์ต้องการให้ “รัฐสภาผ่านร่างกฎหมายที่ทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ รับรองว่า มีแค่เพียงเพศชายและหญิงเท่านั้น และต้องกำหนดไว้ตั้งแต่แรกเกิด”
  • ทรัมป์ต้องการยกเลิกกฎหมาย Title IX ของรัฐบาลไบเดน ที่ระบุว่า ห้ามการเลือกปฏิบัติต่อบุคคลใด ๆ บนพื้นฐานของเพศ ทั้งในโรงเรียนและมหาลัยวิทยาลัย

อย่างไรก็ตาม ยังต้องรอดูว่าคำสัญญาและนโยบายของทรัมป์จะบรรลุวิสัยทัศน์ของผู้แทนราษฎรหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ชัยชนะของเขาน่าจะเป็นการส่งสัญญาณว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ต้องการนำประเทศกลับไปสู่ความเป็นอนุลักษณ์นิยมมากกว่าแต่ก่อน 

ที่มา : GLAAD

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

 

 

related