svasdssvasds

เปิดประตูนรกวันฮาโลวีน อยากไปอยู่ขุมของศาสนาไหน เลือกเลย รับคนบาปไม่อั้น !

เปิดประตูนรกวันฮาโลวีน อยากไปอยู่ขุมของศาสนาไหน เลือกเลย รับคนบาปไม่อั้น !

เปิดประตูสู่นรกศาสนาหลักของโลก แต่ละขุมมีลักษณะเป็นอย่างไร อยากไปอยู่ขุมของศาสนาไหน เลือกเลย นรกรับคนบาปไม่อั้น !!

SHORT CUT

  • ถ้างานปาร์ตี้ฮาโลวีนในโลกความจริงมันยังไม่สะใจพอ ขอเชิญให้ทุกท่านรองลงมาสัมผัสกิจกรรมสนุกๆ ในขุมนรกเหล่านี้กัน
  • นรกตามความเชื่อศาสนาพุทธ  มีทั้งหมด 8 ขุมใหญ่ ที่ตั้งซ้อนทับเป็นชั้นๆ เรียงจากชั้นบนสุดลงไปยังชั้นล่างสุด โดยแบ่งจากโทษเบาสุดไปจนถึงโทษหนัก มีวิธีลงโทษสัตว์นรกมากมายจนเกินจินตนาการ 
  • นรกในศาสนาคริสต์เป็นที่ถกเถียงกันอย่างดุเดือด เพราะไม่มีมนุษย์คนใดเคยไปเยี่ยมเยียนและกลับมาพร้อมกับความรู้เกี่ยวกับสถานที่นั้นด้วยตนเอง แต่วิญญาณที่ไปนรกอาจอยู่ในนั้นแบบไร้ชีวิต ไร้การรับรู้ไปตลอดกาล

เปิดประตูสู่นรกศาสนาหลักของโลก แต่ละขุมมีลักษณะเป็นอย่างไร อยากไปอยู่ขุมของศาสนาไหน เลือกเลย นรกรับคนบาปไม่อั้น !!

หากพูดถึง ‘ฮาโลวีน’ ยุคนี้ หลายคนต้องนึกถึงงานรื่นเริง ปาร์ตี้ชุดแฟนซี งานขบวนพาเหรด กิจกรรมเล่าเรื่องผี และที่ขาดไม่ได้คือ ปาร์ตี้ชุดแฟนซีผีสุดมันที่เป็นไฮไลท์ของเทศกาลนี้เลยก็ว่าได้

แต่ในอดีตสาเหตุที่ทุกอย่างของวันฮาโลวีนเกี่ยวกับผี  มีที่มาจากเทศกาล ‘Samhain’ ของชาวเคลต์ ซึ่งเป็นชนเผ่าโบราณอาศัยอยู่ในบริเวณยุโรปตะวันตก โดยชาวเคลต์เชื่อว่าวันที่ 31 ตุลาคมเป็นวันสิ้นสุดของฤดูร้อนและเริ่มต้นฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่โลกของคนตายและโลกของคนเป็นเชื่อมต่อกัน หรือพูดง่ายๆ คือเป็นวัน ที่ ‘ประตูนรก’ เปิดนั่นเอง 

แม้ ‘ฮาโลวีน’ จะมีอิทธิพลในวัฒนธรรมของศาสนาคริสต์มากที่สุด แต่เมื่อฮาโลวีน กลายเป็น เทศกาลที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกปัจจุบันเรียบร้อยแล้ว ทางทีม SPRiNG จึงอยากขอเปิดประตูนรกจากความเชื่อของทุกศาสนาในวันนี้เสียเลย

ถ้างานปาร์ตี้ฮาโลวีนในโลกความจริงมันยังไม่สะใจพอ ขอเชิญให้ทุกท่านรองลงมาสัมผัสกิจกรรมสนุกๆ ในขุมนรกเหล่านี้กัน โดยแต่ละที่มีการทรมานสัตว์นรก หรือวิญญาณคนบาปกันแบบไม่หยุดพัก ไม่เว้นแม้แต่วันหยุดนักขัตฤกษ์ ซึ่งอาจจะถูกใจคนที่กำลังเบื่อการฉลองฮาโลวีนแบบเดิมๆ อยู่พอดี

หากอยากไป ก็จงสะสมกรรมชั่วไว้ให้มากๆ ตอนยังมีชีวิต ถ้าไม่อยากไปคนเดียวก็ชวนเพื่อนให้ทำชั่วด้วย แล้วลงนรกไปพร้อมกัน เพราะแต่ละขุมรับคนบาปแบบไม่อั้น

นรกในศาสนาพุทธ  ภาพนรกศาสนาพุทธ เครดิตภาพ burmese XIXth artist

นรกในศาสนาพุทธ

‘นรก’ หรือ ‘นรกภูมิ’ ในศาสนาพุทธนั้นคือ ดินแดนหนึ่งที่เชื่อกันว่าผู้ที่ทำบาปตอนยังเป็นมนุษย์เมื่อเสียชีวิตแล้วจะต้องไปเกิดในนรก และถูกลงโทษตามคำพิพากษาของมัจจุราช โดยตาม “ไตรภูมิพระร่วง” นรกภูมิเป็นดินแดนหนึ่งในกามภพอันเป็นหนึ่งในภพทั้งสาม คือ กามภพ รูปภพ และอรูปภพ รวมเรียกว่า "ไตรภพ" หรือ "ไตรภูมิ"

นรกตามความเชื่อศาสนาพุทธ แตกต่างจากวัฒนธรรมตะวันตกตรงที่ ไม่ใช่สถานที่เอาไว้กักขังวิญญาณบาปแบบ ชั่วนิรันดร์ แต่เป็นสถานที่ลงโทษ วิญญาณบาป จนกว่าจะชดใช้ความผิดหมด และกลับไปเกิดใหม่ตามแต่กรรม แต่ก็ใช้ลงโทษนานมาก ในแบบที่เวลาบนโลกมนุษย์เทียบกันไม่ติด โดยนรกขั้นต่ำ 1 วันในขุมนรก เท่ากับ 9- ล้านปี บนโลกมนุษย์ ส่วนหลุมที่ลึกที่สุด 1 วัน เท่ากับ 4,320 ปีบนโลกมนุษย์กันเลยทีเดียว (ขึ้นอยู่กับแต่ละขุม)

นรก มีทั้งหมด 8 ขุมใหญ่ ที่ตั้งซ้อนทับเป็นชั้นๆ เรียงจากชั้นบนสุดลงไปยังชั้นล่างสุด โดยแบ่งจากโทษเบาสุดไปจนถึงโทษหนักสุดดังนี้

  1. สัญชีวนรก สัตว์นรกในขุมนี้จะไม่มีวันตาย เมื่อถูกลงโทษรับบาดเจ็บหรืออาจถึงตาย แต่จะไม่ตายเพราะจะมีลมเย็นพัดสัตว์ที่ตายให้ฟื้นขึ้นได้เสวยทุกขเวทนาต่อไป
  2. กาลสูตรนรก สัตว์นรกในขุมนี้จะถูกตีเส้นบนตัวด้วยเส้นเหล็กเผาไฟเหมือนสายบรรทัด ผ่าหรือดีดกายสัตว์ให้แตกออก
  3. สังฆาฏนรก ในส่วนแรกนี้จารึกไม่ได้กล่าวถึง แต่จะมีกล่าวถึงในส่วนที่เป็นรายละเอียดของนรกขุมต่างๆ
  4. โรรุวนรก นรกขุมนี้จะเต็มไปด้วยเสียงร้องของสัตว์นรกที่เจ็บปวดทรมาน
  5. มหาโรรุวนรก นรกขุมนี้จะเต็มไปด้วยเสียงร้องของสัตว์นรกที่เจ็บปวดทรมานยิ่งกว่าโรรุวนรก
  6. ตาปนรก นรกขุมนี้มีไฟลุกท่วม
  7. มหาตาปนรก นรกขุมนี้มีไฟลุกท่วมยิ่งกว่าตาปนรก
  8. มหาอเวจีนรก นรกขุมนี้มีไฟลุกท่วมร้อนแรงไม่มีวันดับ สำหรับบาปหนักสุดเช่น ฆ่าบิดามารดา ฆ่าพระอรหันต์ 

นรกในศาสนาอิสลาม

นรกในศาสนาอิสลาม

‘ญะฮันนัม’ หรือ ‘นรก’ เป็นสถานที่ที่อัลลอฮ์สร้างขึ้นเพื่อลงโทษผู้กระทำความชั่วในปรโลก ชาวมุสลิมเชื่อว่าญะฮันนัมมีทั้งหมด 7 ขุม เช่นเดียวกับสวรรค์ทั้ง 7 ขั้นในศาสนาอิสลาม นรกของความเชื่อนี้เน้นการลงโทษทั้งทางร่างกาย และจิตวิญญาณ เป็นสถานที่กักขัง คนที่ไม่ได้ทำการละหมาด ปฏิเสธคำสอนของอัลกุรอาน และทำบาอื่นๆ ที่ขัดกับหลักศาสนา

ผู้ที่ตกลงมาจะถูกไฟนรกแผดเผาชั่วนิรันดร์ หรือจนกว่าพระอัลลอฮ์จะทรงให้อภัย

ญะฮันนัม 7 ขุมมีดังนี้

  1. ‘ญะฮันนัม (Jahannam) ’ นรกชั้นที่ 1
  2. ใบหน้าของคนบาปจะถูกเผา และไฟจะกัดกินเนื้อของพวกเขา
  3. ‘ลาดาห์ (Ladah) ’ นรกชั้นที่ 2
  4. สำหรับผู้คนที่ไม่เชื่อในอัลลอฮ์ ระดับนี้ไฟจะกัดกินอวัยวะต่างๆ ทีละส่วนทั้งภายนอกและภายใน และจะทำลายร่างกายในที่สุด
  5. ‘ซะการ์ (Saqar) ’ นรกชั้นที่ 3
  6. ไฟจะกัดกินเข้าไปในเนื้อของคนบาป
  7. ‘อัลฮุตามะห์ (Al-Hutamah) ’ นรกชั้นที่ 4
  8. ไฟที่นี่จะเผาคนบาปจนถึงกระดูกและเผาหัวใจและอวัยวะภายใน
  9.  ‘ญาฮีม (Jaheem) ’ นรกชั้นที่ 5
  10. เต็มไปด้วยถ่านหินร้อน ๆ ก้อนใหญ่
  11. 6. ‘ซาอีร์ (SA’ EER) นรกชั้นที่ 6
  12. ไฟในนรกนี้ยังคงลุกโชนอยู่ตลอดเวลา เพิ่มเติมคือมีปราสาทนรกไว้กักขังคนชั่ว ความเจ็บปวดที่นี่ไม่อาจจินตนาการได้
  13. 7. ‘อัล-เฮาวิยะห์ (Al-Hawwiyah) ’ นรกชั้นที่ 7 ขุมสุดท้าย
  14. มีภูเขาบดทับร่างคนบาป เต็มไปด้วยไฟที่โอบล้อมอย่างใกล้ชิด เหมือนแม่โอบกอดลูกชาย

นรกในศาสนาคริสต์

นรกในศาสนาคริสต์

สำหรับคริสเตียนส่วนใหญ่ นรกเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตหลังความตาย และเมื่อเสียชีวิต (ร่างกายและวิญญาณแยกจากกัน) วิญญาณจะถูกส่งไปทนทุกข์ทรมานเนื่องจากพวกเขาไม่กลับใจในช่วงชีวิตและไม่ยอมรับพระเยซู

ในศาสนาคริสต์ไม่มีใครบรรยายถึงนรก ไปมากกว่า ‘พระเยซู’ พระบุตรของพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งในพระคัมภีร์มีการพูดถึงนรกไว้ดังนี้

  • พระเจ้าบอกเราว่า นรกคือสถานที่แห่ง “ความดำมืด” ( 2 เปโตร 2:17)
  • เป็นสถานที่แห่ง “ความมืดอันน่ากลัว” ที่ได้ยินเพียง “การร้องไห้และขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน” ( มัทธิว 25:30)
  • เป็น “ทะเลสาบที่เผาไหม้ด้วยไฟและกำมะถัน” ( วิวรณ์ 21:8)
  • นรกเป็นเหมือนคุกที่ถูกพันธนาการชั่วนิรันดร์ ซึ่งไม่มีความหวังที่จะหลุดพ้นได้ ( ยูดาห์ 6)
  • เป็นเตาเผาแห่งความทรมานที่รู้สึกได้ซึ่งไฟไม่เคยดับ ( มัทธิว 13.49-50)
  • เป็นสถานที่แห่งความทุกข์ทรมานแสนสาหัส ( มาระโก 9.47-48)
  • นรกคือสถานที่แห่งความกระหายอันแสนทรมานที่ไม่อาจดับได้ ( ลูกา 16.22-24)

อย่างไรก็ตาม นรกในศาสนาคริสต์เป็นที่ถกเถียงกันอย่างดุเดือด เพราะไม่มีมนุษย์คนใดเคยไปเยี่ยมเยียนและกลับมาพร้อมกับความรู้เกี่ยวกับสถานที่นั้นด้วยตนเอง และในคัมภีร์ไบเบิลฉบับแปลเก่า ๆ บางฉบับแปลคำที่ใช้ในภาษาเดิมว่า “นรก” (ภาษาฮีบรู “เชโอล” ; ภาษากรีก “ฮาเดส”) บางฉบับอาจใช้คำว่า “แดนคนตาย” แต่จริง ๆ แล้วคำนี้หมายถึง “หลุมศพ” คัมภีร์ไบเบิลชี้ให้เห็นว่าคนที่อยู่ใน “หลุมฝังศพ” ไม่มีชีวิต ความคิด หรือความรู้สึกใด นรกจึงไม่มีการทรมานอย่างเป็นทางการ ไม่มีเสียงกรีดร้อง คัมภีร์ไบเบิล สดุดี 31:17; (ฉบับมาตรฐาน) บอกว่า “ขอให้คนอธรรมอับอาย ขอให้เขานิ่งเงียบงันแดนคนตาย” — 115:17,

กล่าวโดยสรุปคือ ในศาสนาคริสต์ วิญญาณที่ไปนรกอาจอยู่ในนั้นแบบไร้ชีวิต ไร้การรับรู้ไปตลอดกาล เหมือนพวกเขากำลังหลับอยู่

นรกในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู

นรกในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู

ตามความเชื่อในศาสนานี้ นรกเป็นสถานที่ของพระยม เทพเจ้าแห่งความตาย และเป็นสถานที่ไว้ทรมานคนบาปด้วยวิธีโหดร้ายมากมาย

อย่างไรก็ตามในโลกของ พราหมณ์-ฮินดู แนวคิดเรื่องชีวิตหลังความตายมีมากมาย ขึ้นอยู่กับคัมภีร์แต่ละเล่ม บางเล่มกล่าวถึงนรก 4 ขุม ในขณะที่บางเล่มระบุมีมากถึง 28 ขุม ส่วนเรื่องเวลาในนรกไม่มีระบุไว้แน่ชัด แต่ที่แน่นอน เมื่อดวงวิญญาณชดใช้กรรมจนหมด จึงกลับมาเกิดใหม่ เป็นสิ่งมีชีวิตที่ต่ำกว่าหรือสูงกว่า ขึ้นอยู่กับคุณธรรมของแต่ละคน

โดยนรกทั้ง 28 ขุม ประกอบไปด้วย ตมีสระ อันธาตมิสระ เวรวะ มหารอุรวะ กุมภีกะ กาลาสุตรา อสิปัทวานะ สุกรมุขา อันธกุปะ คริมิโภชนะ สัมทัมสะ ตัตตสุรมี วัชรกันตกะสัลมาลี ไวตะระนี ปูโยดา พระปราณโรธา วิสาสนา ลลัพักษะ สรเมยทาน อวิจิ อายหพนะ กษัตริย์กษรคาทา รักโสคณาโภชนะ สุลปรต ทันฑสูกะ อวาตะนิโรธนะ ปรยวรรตนะ และสุจิมุกะ

ทุกขุมจะมีวิธีลงโทษแตกต่างกันไป คล้ายกลับนรกจากไตรภูมิพระร่วงในศาสนาพุทธ หรือกล่าวคือ ไตรภูมิพระร่วงก็ได้อิทธิพลมาจากความเชื่อของศาสนาพราหมณ์-ฮินดูเช่นกัน

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ, JW.ORGzamzam,Times of India
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

 

 

 

related