เล่นมือถือในโรงหนัง เรื่องปกติ-ไม่ผิด ไม่อยากถูกรบกวน ก็ดูหนังที่บ้านไป ?

แน่นอนว่า ใครก็ตามที่ควักเงินเข้าไปในโรงหนัง ย่อมต้องการบรรยากาศที่สงบ เพื่อให้มีสมาธิจดจ่อกับการดูหนัง แต่เมื่อมนุษย์มาอยู่รวมๆ กัน ความสงบก็เกิดขึ้นได้ยาก ในโรงหนังจึงเต็มไปด้วยคนที่มีพฤติกรรมรบกวนผู้อื่นอยู่เสมอ เช่น กินขนมเสียงดัง เตะเบาะทุกนาที หรือคุยกันตลอดทั้งเรื่อง จนคนนั่งข้าง ดูไม่รู้เรื่องกันเลยก็มี

แต่พฤติกรรมสุดคลาสสิกที่รบกวนคนอื่นในโรงหนังของยุคนี้ คงไม่พ้นการควักมือถือขึ้นมาไถเล่น หรือเอามาถ่ายภาพอัดวิดีโอลง Story ระหว่างหนังฉายแบบไม่แคร์สายตาใครเลยก็มี ทั้งๆ ที่ก่อนหนังฉายก็มีข้อความระบุว่าให้งดใช้เครื่องมือสื่อสารขึ้นเตือนทุกครั้ง

แม้ปัญหามารยาทการใช้มือถือขณะดูหนังในโรงจะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ก็มีการหยิบมาพูดกันอยู่เรื่อยๆ ซึ่งไม่นานมานี้ ทาง ‘โรงหนัง HOUSE SAMYAN’ ก็เจอปัญหานี้ จนออกมาโพสต์ขอร้อง ใน x กันเลยทีเดียว โดยในโพสต์ระบุว่า ‘ขอร้องได้ไหม ชีวิตไม่ต้องติด content ขณะกำลังดูหนัง ไม่ถ่าย ไม่ใช้โทรศัพท์ เสพความรู้สึกตรงหน้าขณะหนังกำลังฉาย หนังจบเมื่อไหร่เรายินดีที่คุณจะพรั่งพรูมันให้คนอื่นได้รับรู้ผ่านช่องทางของคุณโดยไม่รบกวนคนอื่น ทั้งตัวคุณ ทั้งเพื่อนร่วมโรง จะได้ดูหนังอย่างมีความสุขไปด้วยกัน/ด้วยรัก’

การที่องค์กร หรือคนในสังคม ต้องออกมาย้ำเรื่องนี้อยู่เรื่อยๆ นั้น สะท้อนว่า สังคมเรามีการอบรมเรื่องมารยาทในโรงหนังน้อยไปหรือเปล่า หรือการเล่นมือถือในโรงหนังควรเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนต้องรับให้ได้ และถ้าใครหากอยากดูหนังแบบสงบๆ ก็อย่าไปโทษคนอื่นเลย แต่ควรโทษตัวเองดีกว่าว่า “ทำไมไม่นั่งดูหนังอยู่ที่บ้านแทนล่ะ?”

ทำไมหลายคน ชอบใช้มือถือในโรงภาพยนตร์

ต้องยอมรับว่า หลายปีที่ผ่านมานี้ พฤติกรรมการชมภาพยนตร์ของคนส่วนใหญ่เปลี่ยนไปมาก ซึ่งเป็นผลพวงของระบบสตรีมมิ่งที่สะดวกสบาย และกระแสการเสพติดคลิปสั้นจาก แพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ โดยเฉพาะ TIKTOK ก็ทำให้คนเป็นโรครอคอยอะไรไม่ได้ จะทำอะไร ก็ต้องบอกคนอื่นทันที จนเป็นเทรนด์การใช้ชีวิตที่ใครไม่ทำก็ตกยุคสมัย

ในส่วนของระบบสตรีมมิ่ง ไม่ว่าจะเป็น Netflix , Amazon Prime และ Disney+ นั้น ล้วนทำให้เกิด ปรากฏการณ์ดูหนัง 2 จอ ซึ่งก็คือ คนคนหนึ่งมักรับชมภาพยนตร์หน้าจอหลักเช่น ทีวี หรือแล็ปท็อป ขณะเดียวกันก็เปิดจอที่สองในมือถือไปด้วย

เหตุผลที่ต้องเล่นมือถือไปด้วยดูหนังไปด้วยก็มีตั้งแต่ หนังน่าเบื่อ จนต้องหันไปดูอย่างอื่น หรือหนังสนุกจนต้องค้นดูชื่อผู้กำกับและนักแสดง หรือก็แค่เปิดมือถือมาแชทคุยเรื่องงานด่วน แต่ไม่ว่าเราจะเปิดมือถือด้วยเหตุผลอะไร สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือพฤติกรรมการดูหนังที่บ้านทำให้เราเสพติดการใช้ 2 หน้าจอพร้อมกันจนเป็นเรื่องปกติ

เมื่อระบบสตรีมเอื้อให้คนมีอิสระที่จะทำอะไรระหว่างดูหนังก็ได้ บวกกับการระบาดของ COVID-19 ที่ทำให้คนทั่วโลกเลี่ยงการเข้าโรงหนัง ก็ยิ่งทำให้หลายครอบครัวดูหนังที่บ้านด้วยกันมากขึ้น และล้านก็เป็นสถานที่ส่วนตัวที่สมาชิกทุกคนไม่จำเป็นต้องเคร่งเรื่องมารยาท จะคุยกันเมื่อถึงฉากสนุก หรือเล่นมือถือสลับกับดูหนัง ก็ไม่มีใครว่า ต่างจากโรงหนังที่มีกฎเกณฑ์ชัดเจน

แต่น่าเสียดาย เพราะเมื่อโรงหนังกลับมาเป็นที่นิยมหลังปัญหา COVID-19 คลี่คลาย คนส่วนใหญ่กลับ แยกแยะความแตกต่างระหว่าง ‘สถานที่สาธารณะ’ และ ‘สถานที่ส่วนตัว’ ได้ยากขึ้น ทำให้ภาพคนเล่นมือถือในโรงภาพยนตร์ ไม่ว่าจะแค่ถ่ายรูป หรือแชทคุยกับคนที่อยู่นอกโรงเป็นพันลี้ ก็เป็นสิ่งที่เห็นได้ทั่วไปในสมัยนี้

คนสมัยนี้ ‘หิวคอนเทนต์’ ต้องบอกคนอื่นว่าทำอะไรเสมอ?

ในปี 2023 Oppenheimer คือภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จ ในการปลุกกระแสเรียกคนกลับคืนสู่โรงภาพยนตร์ได้ มากที่สุด นับตั้งแต่สิ้นสุดการระบาดของ COVID-19 เนื่องจากใครๆ ก็อยากมาดูระเบิดปรมาณูบนจอยักษ์ จุดนี้ดึงดูดคนทุกกลุ่มที่ชื่อชอบกระแสมาจากทุกทิศ ช่วงเวลาที่หนังฉายจึงมีคนเอามือถือมาเซลฟี่ตัวเอง และถ่ายภาพฉากที่ ตัวละคร ‘ออพ เพนไฮเมอร์ (รับบทโดย คิลเลียน เมอร์ฟี)’ นั่งแก้ผ้า จนกลายเป็นมีมเต็มโลกออนไลน์ และยังถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมในการชมภาพยนตร์ร่วมกับผู้อื่นอีกด้วย

จริงๆ แล้ว พฤติกรรมเหล่านี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับการ ใช้มือถือขณะดูคอนเสิร์ต เนื่องจากปัจจุบัน แค่มาดูความบันเทิงเฉยๆ แล้วกลับไปคุยกับคนที่บ้านเหมือนในอดีตนั้น ไม่เพียงพอต่อความกระหายในชีวิตอีกต่อไป เพราะตอนนี้ใครๆ ก็อยากบอกให้คนอื่นรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรแบบเรียลไทม์ โดยเฉพาะบรรดาอินฟลูเอนเซอร์ ที่ยิ่งมีคนเห็นชีวิตตัวเองมากเท่าไรก็ยิ่งดีเท่านั้น ไม่เว้นแม้แต่ขณะดูหนัง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

• ซีรีส์ Harry Potter สร้างใหม่ทำไม? หรือ Harry Potter ฉบับหนัง 7 ภาค ยังดีไม่พอ ! 
• Netflix หนังใหม่เดือน ก.ย. 67 วาไรตี้-ซีรีส์-โรแมนซ์ สนุกครบรสตลอดทั้งเดือน 
• House of the Dragon จะจบอย่างไร และจะมีทั้งหมดกี่ซีซั่น?