svasdssvasds

เศรษฐกิจไทยจะเป็นยังไงต่อไปเมื่อ ‘Temu’ แอปช้อปปิ้งสัญชาติจีนตีตลาดไทย?

เศรษฐกิจไทยจะเป็นยังไงต่อไปเมื่อ ‘Temu’ แอปช้อปปิ้งสัญชาติจีนตีตลาดไทย?

ดราม่าสนั่น! ‘Temu’ แอปช้อปปิ้งสัญชาติจีนบุกไทย ราคาถูกใจผู้บริโภค แต่เป็นฝันร้ายของร้านค้าปลีกรายย่อย อนาคตเศรษฐกิจไทยจะเป็นอย่างไร เมื่อเงินบาทหลั่งไหลออกไปประเทศจีน

SHORT CUT

  • Temu แอปช้อปปิ้งสัญชาติจีนบุกตีตลาดไทย
  • ขายสินค้าราคาถูก ส่งตรงจากโรงงานจีนไม่ผ่านคนกลาง ของไม่ตรงปกคืนเงินได้ใน 90 วัน
  • หากผู้ประกอบการในไทยไม่สามารถสู้ราคาสินค้าจากจีนได้ อาจปิดกิจการ ผลกระทบต่อกันเป็นห่วงโซ่อาหาร

ดราม่าสนั่น! ‘Temu’ แอปช้อปปิ้งสัญชาติจีนบุกไทย ราคาถูกใจผู้บริโภค แต่เป็นฝันร้ายของร้านค้าปลีกรายย่อย อนาคตเศรษฐกิจไทยจะเป็นอย่างไร เมื่อเงินบาทหลั่งไหลออกไปประเทศจีน

แอ้ปพลิเคชั่นช้อปปิ้งออนไลน์ ในประเทศไทยถึงกับสั่นสะเทือน เมื่อ ‘Temu’ เว็บไซต์ E-Commerce สัญชาติจีนแท้ๆ บุกตีตลาดที่ประเทศไทย พร้อมจุดแข็งราคาถูก เนื่องจากนำสินค้าจากโรงงานจีนส่งตรงมาถึงผู้บริโภคโดยตรง ไม่ผ่านร้านค้าคนกลาง ใช้เวลาขนส่งเพียงแค่ 5 วัน หากสินค้าไม่ตรงปก สามารถคืนสินค้าได้ใน 90 วัน หรือเลือกรับเงินคืนส่วนหนึ่ง และไม่ต้องคืนสินค้าก็ได้

Temu

ถูกใจผู้บริโภคแต่ผู้ประกอบการรายย่อยกุมขมับ

ข้อดีของสินค้าราคาถูกคือเป็นที่พึงพอใจของผู้บริโภค ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย แต่คุณภาพนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ข้อเสียนั้นมีมากมาย จนเกิดเป็นคำถามที่ว่าอนาคตเศรษฐกิจไทยจะเป็นอย่างไรต่อไป ผู้ประกอบการรายย่อย ร้านโชห่วย แผงลอย จะสามารถทำกิจการต่อไปได้ไหม เพราะไม่สามารถสู้ราคาสินค้าจากประเทศจีนได้ เนื่องจากโรงงานจีนส่วนใหญ่ผลิตครั้งละเป็นจำนวนมาก และมีต้นทุนที่ต่ำ ทำให้สามารถขายได้ในราคาถูก แต่สินค้าจากประเทศไทยไม่สามารถทำได้แบบนั้นได้ ทำให้มีต้นทุนสูงกว่า หากจะนำสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาขาย ก็ต้องเสียภาษีอีกเช่นกัน

Temu

แต่นี่คือสิทธิของผู้บริโภค?

แน่นอนว่าผู้บริโภคมีสิทธิที่จะเลือกซื้อสินค้า แต่ในภาพรวมเศรษฐกิจ หากคนไทยหลั่งไหลไปซื้อสินค้าจากแอปจีน ก็จะส่งผลกระทบใหญ่ถึงผู้ประกอบการในไทย อาจถึงขั้นปิดกิจการ ทำให้มีคนตกงาน และหางานได้ยากยิ่งขึ้น ทุกอย่างจะสร้างผลกระทบต่อกันเป็นห่วงโซ่อาหาร ถ้าหากว่าล้ม ก็จะล้มตามกันเป็นโดมิโน

 

Temu

แล้วแอปช้อปปิ้งรายอื่นในไทยไม่สร้างผลกระทบเหรอ?

คนไทยหลายคนอาจคิดว่าแค่ไม่โหลดมาใช้ก็สิ้นเรื่อง คนอเมริกาก็คงจะคิดแบบนี้เช่นกัน แต่ Temu ทำการตลาดในสหรัฐอเมริกาช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ ทำให้ผู้บริโภคหันมาซื้อของราคาถูกจากแอป Temu มากขึ้นเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ใช้เวลาเพียงแค่ปีเศษ Temu ก็ครองตลาดออนไลน์ของอเมริกาไปมากถึง 17% จนเจ้าถิ่นอย่าง AMAZON ถึงกับสั่นสะเทือน 

เมื่อเทียบกับประเทศไทยแล้ว สถานการณ์คงไม่ต่างกัน แต่ที่ผ่านมานั้นแอปช้อปปิ้งเจ้าดังของประเทศไทยหลายๆ เจ้า มีสัดส่วนร้านค้าคนไทยอยู่เยอะพอสมควร แต่ Temu คือ แอปช้อปปิ้งสัญชาติจีนแท้ๆ และขายแต่ของจากประเทศจีนเท่านั้น ไม่มีการเปิดบริษัทนิติบุคคลในประเทศไทย นั่นแปลว่าเงินจากการขายของให้คนไทย จะออกนอกประเทศ 100% และรัฐบาลไทยก็ไม่สามารถเรียกเก็บภาษีได้แม้แต่บาทเดียว

related