svasdssvasds

เปิดไทม์ไลน์ เหตุวางยา “สังหารหมู่ 6 ศพ” ชาวต่างชาติในโรงแรมดังกลางกรุง

เปิดไทม์ไลน์ เหตุวางยา “สังหารหมู่ 6 ศพ” ชาวต่างชาติในโรงแรมดังกลางกรุง

เปิดไทม์ไลน์ 6 ศพ ก่อนเสียชีวิตในห้องสวีทโรงแรมดังกลางกรุง ย่านราชประสงค์ ตร.เร่งคลี่คลายคดีตลอดทั้งคืน เปิดกระเป๋าเดินทาง 8 ใบ ตรวจหาวัตถุพยาน พบ 1 ในผู้ตายเป็นช่างแต่งหน้าชื่อดังของเวียดนาม

SHORT CUT

  • เปิดไทม์ไลน์ 6 ศพ ก่อนเสียชีวิตในห้องสวีทโรงแรมดังกลางกรุง ย่านราชประสงค์ 
  • ผลตรวจชันสูตรศพเบื้องต้นผู้เสียชีวิตหมู่ในโรงแรมหรูกลางกรุง ออกมาแล้ว 2 ศพแรก พบสารไซยาไนด์ในร่างกาย 
  • การเสียชีวิตในครั้งนี้ เกิดจากบุคคล 1 ใน 6 ที่เสียชีวิต เป็นผู้กระทำโดยวางยาคนทั้งหมด ก่อนจะเสียชีวิตเป็นรายสุดท้าย

เปิดไทม์ไลน์ 6 ศพ ก่อนเสียชีวิตในห้องสวีทโรงแรมดังกลางกรุง ย่านราชประสงค์ ตร.เร่งคลี่คลายคดีตลอดทั้งคืน เปิดกระเป๋าเดินทาง 8 ใบ ตรวจหาวัตถุพยาน พบ 1 ในผู้ตายเป็นช่างแต่งหน้าชื่อดังของเวียดนาม

ความคืบหน้าเหตุการณ์สังหารหมู่ 6 ศพ ในห้องสวีท โรงแรมหรูกลางกรุง พื้นที่ สน.ลุมพินี ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย โดยเป็นนักท่องเที่ยวชาวเวียดนาม ซึ่งมีการคาดการณ์เบื้องต้นว่าเป็นการวางยาพิษ

จากนั้นเมื่อเวลา 01.00 น. ตำรวจได้นำวัตถุพยานและกระเป๋าเดินทางของผู้เสียชีวิตทั้ง 6 คน จำนวน 8 ใบ ออกจากห้องพักที่เกิดเหตุ มายังห้องประชุม สน.ลุมพินี เพื่อตรวจหาวัตถุพยาน โดยมี พ.ต.อ.ยิ่งยศ สุวรรณโณ ผกก.สน.ลุมพินี และชุดคณะทำงานสอบสวน จากนั้นได้ประชุมคณะพนักงานสอบสวนทันที มีรายงานว่า 1 ในผู้เสียชีวิต ชื่อ "phu Gia gia" เป็นช่างแต่งหน้าชื่อดังของเวียดนาม

เปิดไทม์ไลน์ เหตุวางยา “สังหารหมู่ 6 ศพ” ชาวต่างชาติ ในโรงแรมดังกลางกรุง

 

 

เปิดไทม์ไลน์ก่อนพบผู้เสียชีวิตวันที่ 15 ก.ค.67 ห้อง 502 villa

  • เวลา 10:14:13 น. เด็กรับผ้าเดินเข้าห้อง
  • เวลา 10:15:37 น. เด็กรับผ้าออกมาจากห้อง
  • เวลา 11:20.31 น.มีเด็กรับผ้าเอาเสื้อคลุมมาส่ง 
  • เวลา 11:20:54 น. เด็กรับผ้าเดินกลับมาจากบริเวณหน้าห้อง
  • เวลา 12:00:36 น. Mr. Tran dinh phu เดินออกมาจาก ถือถุงพลาสติกสีขาว
  • เวลา 13:01:09 น. พนักงานทำความสะอาด เดินออกจากห้อง 501 เข้าห้อง 502(ที่เกิดเหตุ)
  • เวลา 13:13:04 น.พนักงานทำความสะอาดเอาผ้าปูที่นอนออกมาจากห้อง 502 
  • เวลา 13:15:57 น. พนักงานทำความสะอาดถือผ้าปู เข้าห้อง 502
  • เวลา 13:29:20 น. พนักงานทำความสะอาดเดินออกจากห้อง 502
  • เวลา 13:30:44 น. พนักงานทำความสะอาดถือผ้าเข้าห้อง 502
  • เวลา 13:36:19 น. พนักงานทำความสะอาดถือจานผลไม้ออกมาจากห้อง
  • เวลา 13:37:39 น. พนักงานทำความสะอาดถือจานผชไม้เข้าไป
  • ​​​​​​​เวลา 13:40:25 น. พนักงานทำความสะอาดเดินออกมาห้อง พร้อมอุปกรณ์ทำความสะอาด
  • ​​​​​​​เวลา 13:52:44 น. Room service มารอหน้าห้อง 2 คน
  • ​​​​​​​เวลา 13:53:36 น. Room service นำอาหารมาเสริฟ 3 ถัง
  • ​​​​​​​เวลา 13:58:18 น. Room service ออกจากห้อง​​​​​​​เวลา 14:04:33 น. Mrs. Thi nguyen phuong ถือลากกระเป๋าเดินทางสีขมพูเดินเข้าไป
  • ​​​​​​​เวลา 14:05:26 น. MR. Pham hong thanh สวมเสื้อกางเกงขาว ลากกระเป๋าเดินทางสีดำ เดินเข้าห้อง
  • ​​​​​​​เวลา 14:09:41 น. Mrs. Thi nguyen thuong lan สวมเสื้อสีชมพู ลากกระเป๋าเดินทางสีชมพูเดินเข้าห้อง
  • ​​​​​​​เวลา 14:09:56 น. Mr. Hung dang van สะพายกระเป๋าสีดำแดง มือซ้ายถือกระเป๋าดำ มือขวาถือกระเป๋าเทา เดินเข้าห้อง
  • ​​​​​​​เวลา 14:11:29 น. Mrs.sherine chong/Mrs. Thi nguyen/Mr. Hong pham thanh/ Mr. Hung dang van เดินออกมาจากห้อง (Mrs. Thi nguyen phuong lan อยู่ห้องคนเดียว)

เปิดไทม์ไลน์ก่อนพบผู้เสียชีวิตวันที่ 15 ก.ค.67 ห้อง 502 villa

 

  • เวลา 14:13:38 น. Mr. Hung dang van เดินกลับเข้าห้อง 502
  • เวลา 14:14:20 น. Mr. Hung dang van เดินออกมาจากห้อง
  • เวลา 14:15:04 น. Mr. Hung dang van เดินกลับมาที่ห้องถือถุงพลาสติก / Mr. Dinh tran phu ลากกระเป๋าเดินทางสีดำเดินตามมา แล้วส่งกระเป๋าเดินทางให้ Mr.Hung ดันกระเป๋าเดินทางเข้าห้อง และทั้งสองเดินออกมา

เปิดไทม์ไลน์ก่อนพบผู้เสียชีวิตวันที่ 15 ก.ค.67 ห้อง 502 villa

  • เวลา 14:17:43 น. Mr. Hung เดินกลับเข้าห้อง
  • เวลา 14:17:51 น. เริ่มทยอยเดินเข้าห้อง 502 โดย Mr.Dint/Mrs.sherine/Mrs. Thi nguyen/Mr. Hong Pham
  • เวลา 14:17:52 น. ทุกคนอยู่ภายในห้อง

เปิดไทม์ไลน์ก่อนพบผู้เสียชีวิตวันที่ 15 ก.ค.67 ห้อง 502 villa

มีรายงานว่านายตำรวจระดับสูงที่เข้าไปอำนวยการสืบสวนสอบสวนในที่เกิดเหตุ นำโดย พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางกลับจากโรงแรมช่วงเวลาประมาณ 24.00 น.

แหล่งข่าวจากชุดสืบสวนนครบาล และทีมพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

สรุปรายงานข้อสันนิษฐานในเบื้องต้นได้หลายประเด็น ดังนี้ 

  • ผู้ก่อเหตุน่าจะอยู่ในกลุ่มผู้ตายด้วย เพราะจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดอย่างละเอียด ไม่มีคนลอบเข้า-ออกจากห้องหลังจากคนกลุ่มนี้เข้าไปในห้อง แต่ประเด็นนี้ยังสรุป 100% ไม่ได้ เพราะอาจมีซอกมุมที่กล้องจับภาพไม่ถึง  
  • ค่อนข้างชัดเจนว่าการเสียชีวิตเกิดจากการวางยาพิษ หรือถูกทำให้เสียชีวิตด้วยยาพิษ 
  • ตรวจสอบประวัติผู้เสียชีวิตทั้งหมดในเบื้องต้น ไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวทางการเมือง ทั้งในเวียดนามและในสหรัฐ 
  • เรื่องสาเหตุและแรงจูงใจ จึงต้องรอรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมอีกระยะหนึ่ง เพื่อความชัดเจน

สารพัดปมสุดประหลาด เอฟบีไอขอร่วมสอบสวนด้วย

ข้อสังเกตและความแปลกประหลาดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีดังนี้ 

  • คนกลุ่มนี้เดินทางมาจากเวียดนาม แต่คนละเที่ยวบิน และเข้าห้องพักคนละเวลากัน 
  • ข้อมูลการจองห้องพัก จองสำหรับ 7 คน แต่เช็กอิน 5 คน และเสียชีวิต 6 คน 
  • ทั้งหมดเสียชีวิตในห้องพักของคนเวียดนามสัญชาติอเมริกัน ในลักษณะเรียกให้ไปรวมตัวกัน แล้วฆาตกรรม 
  • ตำรวจได้ข้อมูลพาสปอร์ต หรือหนังสือเดินทางทั้งหมดแล้ว กำลังตรวจสอบปูมหลังของแต่ละคน แต่เบื้องต้นชัดเจนว่าไม่ได้มาท่องเที่ยว และไม่ได้มาทำธุรกิจ เนื่องจากเข้าเช็กอินที่โรงแรมวันอาทิตย์ที่ 14 ก.ค. และกำหนดเช็กเอาต์ วันจันทร์ที่ 15 ก.ค. คาดว่าเสียชีวิตเวลาราวๆ หลัง 4 โมงเย็นของวันที่ 15 ก.ค. เพราะมีการใช้โทรศัพท์ครั้งสุดท้ายเวลาประมาณก่อน 16.00 น. ส่วนอาหารทั้งหมดสั่งมารับประทานตั้งแต่วันที่ 15 และมีร่องรอยการดื่มน้ำชา กาแฟ 
  • คนทั้งหมดไม่ได้มาประเทศไทยเพื่อเสียชีวิต ไม่ได้ตั้งใจมาตายในไทย แต่น่าจะมีการทำให้ตาย 
  • เอฟบีไอ หรือเจ้าหน้าที่จากหน่วยสอบสวนกลางสหรัฐ ได้เข้ามาร่วมตรวจสอบยังโรงแรมที่เกิดเหตุ ทั้งที่ตำรวจไทยไม่ได้แจ้งหรือร้องขอ โดยอ้างเหตุผลว่าเนื่องจากมีชาวอเมริกันเสียชีวิตด้วย และเจ้าหน้าที่เอฟบีไอต้องการขอดูที่เกิดเหตุ แต่ฝ่ายไทยยังไม่อนุญาต  

แหล่งข่าวระดับสูงจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ไม่ใช่ประเด็นที่ว่ามาท่องเที่ยวในไทยแล้วไม่ปลอดภัย เพราะคนกลุ่มนี้นัดมาพบกัน แล้วก่อเหตุในห้องปิด ไม่ได้มีคนเข้าไปทำร้าย หรือประสงค์ต่อทรัพย์ ฉะนั้นจึงฝากให้ทุกฝ่ายช่วยกันสื่อสารเพื่อไม่ให้กระทบกับการท่องเที่ยวประเทศไทย 

3 ประเด็นสันนิษฐาน แต่ยังไม่มีใครกล้าฟันธง

สำหรับมูลเหตุเบื้องหลัง หรือแรงจูงใจในการก่อเหตุจนทำให้เกิดการสังหารหมู่นั้น ยังไม่มีข้อสรุปจากตำรวจผู้รับผิดชอบคดี ทั้งฝ่ายสืบสวนและสอบสวน แต่มีการตั้งประเด็นที่เป็นข้อสงสัยไว้หลายประการ เช่น 

  • เป็นการไล่ล่า หรือตามเก็บกันของกลุ่มเห็นต่างทางการเมืองหรือไม่ 
  • เป็นปฏิบัติการของสายลับที่เกี่ยวกับการจารกรรมใดๆ หรือไม่ 
  • ทั้งหมดอาจเป็นเครือญาติกัน แล้วมีความขัดแย้งกันเรื่องมรดก หรือผลประโยชน์ จนนำมาสู่การสังหารหมู่หรือไม่

พบสาร "ไซยาไนด์" 2 ใน 6 ศพ 

มีรายงานจากชุดสืบสวนนครบาล ระบุว่า ผลตรวจชันสูตรศพเบื้องต้นผู้เสียชีวิตหมู่ในโรงแรมหรูกลางกรุง ออกมาแล้ว 2 ศพแรก พบสารไซยาไนด์ในร่างกาย 

ทางแพทย์นิติเวช รพ.จุฬาลงกรณ์ จะเปิดแถลงข่าวเรื่องนี้ในเวลา 13.00 น. ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

ตำรวจยืนยัน 1 ใน 6 ศพ เป็นคนวางยา "มื้อสังหาร"

ทางด้านของ บิ๊กจ๋อ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้การสืบนครบาล เปิดเผยว่า จากการ สอบปากคำญาติของผู้ตาย มีหนี้สินเกิดขึ้นหลักหลายล้านบาท และคาดว่าทำให้เสียชีวิตจากประเด็นนี้ ส่วนจะประเด็นนี้อย่างเดียวหรือไม่ ต้องตรวจสอบ / ยืนยันคนที่ทำให้เสียชีวิตคือ 1 ในกลุ่มคนตาย

นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า สาเหตุที่คาดว่าผู้ก่อเหตุเป็น 1 ใน 6 ผู้เสียชีวิต เนื่องจากการสอบปากคำแม่บ้าน พนักงานของโรงแรมแล้ว ไม่พบพิรุธและแรงจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้ 

สำหรับ ปมสังหารหมู่อาหารมื้อสุดท้าย เจ้าหน้าที่มีการสันนิษฐานว่า หลังจากทราบข้อมูลผู้เสียชีวิต 6 คน มีการจองมา 7 คน แต่เช็คอิน 5 คน แต่พบศพ 6 ราย (เนื่องจากเป็นสามี - ภรรยากัน) ทางสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองตรวจสอบ หาเบาะแสบุคคลที่ 7 พบแล้ว คาดว่า เป็นน้องสาวของ 1 ใน 6 คนที่เสียชีวิต

ตอนนี้ได้ทราบชื่อทั้งหมด 7 คนแล้ว และคนที่ 7 คนนี้ ได้บินกลับประเทศไปตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา เบื้องต้น สันนิษฐานว่าน่าจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิต

มีรายงานอีกว่า การเสียชีวิตในครั้งนี้ เกิดจากบุคคล 1 ใน 6 ที่เสียชีวิต เป็นผู้กระทำโดยวางยาคนทั้งหมด ก่อนจะเสียชีวิตเป็นรายสุดท้าย โดยมีสาเหตุมาจากปัญหาหนี้สินที่มีการหลอกให้ร่วมลงทุนเกี่ยวกับธุรกิจก่อสร้าง

อย่างไรก็ตามทางกองพิสูจน์หลักฐานยังไม่สรุปว่าการวางยาครั้งนี้คือสารไซยาไนด์ ซึ่งอาจมีความคล้าย แต่มีฤทธิ์แรงกว่าเพราะมีผลทำให้เสียเฉียบพลัน

จากการสอบปากคำญาติพบว่ามีเป็นหนี้สินเกิดขึ้นหลักหลายล้านบาท และคาดว่าทำให้เสียชีวิตจากประเด็นนี้ ส่วนจะประเด็นนี้อย่างเดียวหรือไม่ ต้องตรวจสอบยืนยันคนที่ทำให้เสียชีวิตคือ 1 ในกลุ่มคนตาย

ในประเด็นธุรกิจและหนี้สินนั้น จากข้อมูลเบื้องต้น พบว่า ผู้ตายทั้ง 6 คน มีความเกี่ยวข้องกันทางธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศเวียดนาม มีการลงทุน และยืมเงินกันแต่ไม่ได้คืน โดยมีข้อสันนิษฐานว่า 1 ใน 6 ของผู้ตายเป็นผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ ก่อนจบชีวิตตัวเองลงในห้องที่เกิดเหตุ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related