ดราม่า! พลทหารซักกางเกงใน กห.ลั่นยกเลิก "ทหารรับใช้" แล้ว

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกกระทรวงกลาโหมฝ่ายการเมือง กล่าวถึงคลิปพลทหารซักชุดชั้นในที่บ้านพักนายทหาร โดยพบว่า พลทหารในคลิป เป็นพลทหารที่เคยประจำการอยู่ที่จังหวัดจันทบุรี ของกองทัพเรือ และปลดประจำการไปแล้วเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และเมื่อสืบค้นประวัติ ปรากฏว่า อดีตพลทหารคนดังกล่าว ได้ไปทำงานอยู่ที่จังหวัดนครปฐม

วันนี้ (12 มี.ค.) กองทัพเรือ จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปขอข้อมูลว่า เหตุใดจึงมีการเผยแพร่คลิปลักษณะนี้ และเกิดที่ไหน อย่างไร เพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการพิจารณาของคณะกรรมการฯ เพื่อดำเนินการ ตรวจสอบว่าเหตุเกิดที่ไหน เพราะคลิปลักษณะเช่นนี้ในการทหารต่างประเทศ บางครั้งก็เป็นการสร้างให้เกิดการเกลียดชังกับหน่วยงานต่อต้านอะไรต่างๆ ได้ แต่ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ต้องดำเนินการตามระเบียบ

ซึ่งนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กล่าวในที่ประชุมว่า กระทรวงกลาโหม ไม่มีนโยบายที่ชัดเจนเป็นเอกสารว่า ห้ามกองทัพ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำพลทหารไปรับใช้ทั้งภรรยา และบุตร ตามกฎหมายในอดีต แต่เมื่อปี 2566 ได้ประกาศยกเลิกไปหมดแล้ว

นายจิรายุ ยังเตือนไปยังผู้บังคับบัญชา ที่มีพลทหารไปดูแล จะต้องดูแลให้ดี เพราะหากดูแลไม่ดี และพลทหารออกมาตำหนิติเตียนผ่านสื่อ ผู้บังคับบัญชา จะต้องรับผิดชอบ พร้อมยอมรับว่า พลทหารรับใช้มีจริง เพราะทุกกระทรวง และกรม เช่น ตำรวจ ก็มีตั้งแต่พลตำรวจจนถึงกระทั่งนายสิบ และนายร้อย ที่อยากจะไปเดินถือกระเป๋าให้กับผู้บังคับบัญชา และพร้อมทำทุกอย่าง ขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชานั้นจะดูแล

นายจิรายุ ยังเห็นว่า ภาพที่ปรากฎ ที่มีพลทหารไปทำข้าว หรือจัดอาหารนั้น อาจมองได้ 2 มุม เพราะในกองทัพ มีองคาพยพหลากหลาย บางคนฝึกหนัก 3 เดือน แล้วอยากจะไปฝึกโรงครัว ไม่ต้องการไปฝึกหนักอีก เพื่อเป็นเชฟหลังปลดประจำการ หรือหลายคนอยู่ในโรงนอน ก็รับจัดที่นอนให้เพื่อน เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยเพราะจะมีการตรวจเช็ค เมื่อปลดประจำการก็ไปทำงานโรงแรมได้

ดังนั้น ผู้บังคับบัญชาต้องดูแล ต้องให้ได้ความรู้ ความสามารถ เพราะถ้าผู้บังคับบัญชาดูแลไม่ดี ก็จะกลายเป็นบูมเมอแรง สะท้อนกลับไปสู่ผู้บังคับบัญชาได้อย่างที่เป็นข่าว ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเมื่อใด ก็ต้องดำเนินการตามระเบียบวินัยทางการทหารต่อไป หากพบว่ามีความผิดก็ต้องถูกลงโทษ ตั้งแต่ตักเตือน ภาคฑัณฑ์ กักขัง หรือให้ออกจากราชการ

ด้าน พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการ รมว.กลาโหม ได้ไปบรรยายพิเศษประเด็น "สถานการณ์ความมั่นคงในปัจจุบันและนโยบายรัฐบาลในการปรับปรุงกองทัพ" ในการประชุมเชิงวิชาการเพื่อร่วมกำหนดอนาคตกองทัพบกในปี 2580  (RTA 5.0 Conference) กล่าวตอนหนึ่งในการบรรยายว่าปัจจุบันกระทรวงกลาโหมได้รับเรื่องร้องเรียนเป็นจำนวนมาก ล่าสุดเอาพลทหารไปซักกางเกงในให้คุณนาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น ซักชุดชั้นในของตัวเอง ก็ไม่น่าจะทำอยู่แล้ว แต่นี่ให้ไปซักของภรรยา ทางกลาโหมก็รับหน้า แต่โชคดีไม่ใช่ของกองทัพบก 

และหวังว่ากองทัพบกจะไม่มี หากมีไปบอกให้เลิกทำก่อนที่ความเดือดร้อนจะมาถึงผบ. ทบ. เป็นเรื่องที่ไม่น่าทำเช่นเดียวกับธุรกิจส่วนตัวที่เอาทหารไปเฝ้าคลีนิค ปั๊มน้ำมัน ต้องเลิก ขออนุญาตผบ. ทบ.ทำต่อไปมีโอกาสจะเดือดร้อน

ด้านนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีอดีตพลทหารสังกัดกองทัพเรือ ออกมาแฉเรื่องต้องซักชุดชั้นในให้กับนายทหารรระดับสูง ว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องเสียหาย ก็สั่งตรวจสอบแล้ว และขอความร่วมมือไปยังคนที่ถูกกระทำดังกล่าว ได้ช่วยมาให้ข้อมูล ว่ามันเกิดขึ้นที่หน่วยไหน บ้านใครนายทหารคนไหน เพราะเรื่องนี้ก่อนที่ตนจะเป็นรัฐมนตรี  รัฐมนตรีคนก่อน รู้สึกว่าเขายกเลิกและได้กำชับไม่ให้ทำ ใครเอาทหารไปรับใช้ และไปทำนอกเหนือภารกิจหน้าที่ของราชการ มันทำไม่ได้ พอตนเข้ามารับตำแหน่ง ก็ยืนยันนโยบายนี้ และได้บอกกับจเรทหาร ให้กวดขันเรื่องนี้เป็นพิเศษ ซึ่งทางจเรทหารได้รายงานว่า เหตุการณ์นี้พบน้อยลง แต่ก็ยังไม่หมดซะทีเดียว

ดังนั้นเรื่องที่โผล่มาเข้าใจว่า เป็นส่วนที่เหลือน้อยแล้ว แม้เหลือน้อยเราก็ไม่อยากให้เหลือเลย วันนี้เราก็จะเดินหน้าต่อไปและขอความร่วมมือ หากพลทหารโดนเหตุการณ์แบบนี้ หรือถูกผู้บังคับบัญชาสั่งให้ทำแบบนี้ ไม่ต้องกลัววันนี้มีโทรศัพท์มือถือมีโซเชียล สามารถส่งได้ และแสดงหลักฐานมาได้ ยืนยันว่าจะได้รับความคุ้มครองแน่นอน อย่างน้อยที่สุดตัวผมเองก็จะคุ้มครอง และสังคมก็จะคุ้มครองแน่ สังคมจะไม่ไปเข้าข้างผู้บังคับบัญชาที่ทำแบบนั้น 

เมื่อถามว่ามี เพจในโซเชียลออกมาโพสต์กฏยกเลิกเสนาบดีกระทรวงกลาโหม ที่มีการยกเลิกไปกว่า 100 ปี มองว่า เรื่องนี้เป็นการโจมตีก่อนที่จะมีการเกณฑ์ทหารหรือไม่ นายสุทินกล่าวว่า ตนก็สงสัยอยู่ เรื่องนี้ทำให้กระทบต่อคนที่คิดจะสมัครเป็นทหาร ตนก็เคยพูดตลอดว่ามันเป็นปัจจัยลบ คือเรื่องการนำทหารไปรับใช้ การฝึกโหด และเรื่องของเงินเดือน ซึ่งเราก็กวดขันและกำชับแต่ก็ยังมีเรื่องนี้ออกมาเรื่อยๆ ถ้ามีคนที่มีเจตนาทำให้นโยบายนี้ไม่สำเร็จ ก็ถือว่าใช้ไม่ได้ แต่เจตนาหรือไม่เจตนาก็มีผล ตนก็ขอร้องว่า ถ้าเป็นผ้าขาวพื้นใหญ่ แล้วมีจุดดำเล็กนิดเดียว เราก็ต้องไปช่วยกันแก้และขยายความ แต่ไม่ใช่ไปปกป้อง ตนไม่เห็นด้วย

เมื่อถามว่าจะสามารถเอาผิดทหารระดับนายพลที่กระทำผิดได้  นายสุทินกล่าวว่าเอาผิดได้ทั้งนั้นแหละทุกระดับ เพราะหนึ่งคือผิดวินัย เพราะฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามนโยบายผู้บังคับบัญชา และสองผิดอาญาก็ต้องโดนด้วย เพราะไปบังคับ ขู่เข็ญให้ไปทำในเรื่องที่นอกเหนือ สั่งการโดยมิชอบ ด้วยข้อราชการ ดังนั้นนายพลหรือไม่นายพล ก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายทั้งหมด

และถ้าเป็นกรณีที่พลทหารสมัครใจจะไปรับใช้ นายสุทินกล่าวชี้แจง เรื่องนี้มีในอดีต คือผลบริการที่มีความจำเป็น สำหรับนายทหารชั้นผู้ใหญ่สำหรับสถานการณ์รบหรือการศึก มันก็ต้องอาจจะมีบริการไปช่วยดูแลผู้ใหญ่ ดูแลเรื่องประสานงานเหมือนกับว่าเป็นเลขาส่วนตัว แต่ก็ต้องทำภารกิจที่เป็นงานเป็นหน้าที่จริงๆ แต่จะเลยเถิดไปไกลขนาดนั้นไม่ได้ ซึ่งระเบียบนี้เขามีการสังคายนาหรือยกเลิกไปแล้ว 

ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านออกมาโจมตีประเด็นดังกล่าว  นายสุทินตอบว่า ก็ได้ทีไง ตนจึงอยากบอกว่าขอให้ฝ่ายค้านติงมาก็พองาม ก็เป็นประโยชน์ แต่ถ้าถึงขยายผลให้มันเป็นผลเสียต่อนโยบาย หรือเสียภาพพจน์เจตนา ทำให้ภาพพจน์องค์กรเสียหาย 

เมื่อถามว่ากองทัพกำลังโดนไอโออยู่หรือไม่ นายสุทินกล่าวว่าเป็นไปได้อยู่เหมือนกัน ก็กำลังตรวจสอบอยู่เมื่อเช้าตนได้สั่งการให้มีการตรวจสอบ IP อยู่