ดราม่า! งบปรับภูมิทัศน์ทำเนียบฯ 138 ล้านบาท นายกฯ แจงคุ้มค่า อย่าบิดเบือน!

จากกรณีที่สำนักนายกรัฐมนตรี​ ประกาศสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เรื่องรายการจัดซื้อจัดจ้างของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ประเภทงบรายจ่าย หมวดงบลงทุนที่จะดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ลงไว้เมื่อวันที่​ 1 มี.ค.2567 จำนวน 12 รายการ​ รวมวงเงิน​ 138 ล้านบาท ประกอบด้วย

1. จ้างเปลี่ยนกระจกหน้าต่างห้องทำงาน ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า วงเงิน 302,300 บาท ด้วยวิธีเฉพาะเจาะจง ช่วงเวลาดำเนินการ ธ.ค.2566

2. จ้างปรับปรุงสนามหญ้าบริเวณหน้าตึกไทยคู่ฟ้า วงเงิน 498,352 บาท วิธีเฉพาะเจาะจง เดือน ก.พ.2567 

3. ซื้อครุภัณฑ์คอมพิวเตอร์ 3 รายการ วงเงิน 4,317,600 บาท ประกาศเชิญชวนทั่วไป เดือน มี.ค.2567

4. ซื้อรถบรรทุก (ดีเซล) ปริมาตรกระบอกสูบไม่ต่ำกว่า 2,900 ซีซี 1 คัน วงเงิน 1,160,000 บาท ประกาศเชิญชวนทั่วไป

5. จ้างพัฒนาปรับปรุงประสิทธิภาพเว็บไซต์รัฐบาลไทย (www.thaigov.go.th) จำนวน 1 งาน ราคา 5 ล้านบาท ประกาศเชิญชวนทั่วไป เดือน มี.ค.2567 

6. จ้างทอพรมทอมือ เส้นใยขนแกะ 100% พร้อมติดตั้ง 9 ผืน วงเงิน 10,557,200 บาท ประกาศเชิญชวนทั่วไป เดือน มี.ค.2567

7. จ้างพัฒนาระบบสำนักงานดิจิทัล (Digital Office) 1 ระบบ วงเงิน 11,739,200 บาท ประกาศเชิญชวนทั่วไป เดือน เม.ย.2567 

8. ซื้อระบบบริหารจัดการ DNS, DHCP และ IP Address Management พร้อมติดตั้ง 1 ระบบ วงเงิน 8,560,000 บาท ประกาศเชิญชวน เดือน เม.ย.2567

 

9. จ้างพัฒนาระบบบริหารจัดการผู้ใช้งานแบบรวมศูนย์ (Single Sign-on) 1 ระบบ วงเงิน 3,164,100 บาท ประกาศเชิญชวน เดือน เม.ย.2567 

10. ซื้อครุภัณฑ์ในการพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security) พร้อมติดตั้ง 1 ระบบ 58 ล้านบาท ประกาศเชิญชวนทั่วไป เดือน เม.ย.2567

11. จ้างติดตั้งระบบดูดอากาศตรวจจับควัน แบบระบุตำแหน่งได้ ของอาคารตึกไทยคู่ฟ้า 1 ระบบ วงเงิน 32,100,000 บาท ประกาศเชิญชวนทั่วไป เดือน เม.ย.2567

12. จ้างปรับปรุงรั้วริมคลองหลังตึกไทยคู่ฟ้า 1 งาน วงเงิน 2,869,000 บาท ประกาศเชิญชวนทั่วไป เดือน เม.ย.2567

ทั้งนี้การประกาศรายการจัดซื้อจัดจ้างของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ประเภทงบรายจ่าย หมวดงบลงทุน ที่จะดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ.2567 เป็นไปตามแนวทางของสํานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สํานักงาน ปปช.) ที่ได้กําหนดแนวทางการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดําเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment : ITA) การเปิดเผยข้อมูลสาธารณะ Open Data Integrity and Transparency Assessment (OIT) ให้หน่วยงานของรัฐแสดงรายการการจัดซื้อจัดจ้างหรือการจัดหาพัสดุ

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า ข่าวเรื่องการใช้งบประมาณ 138 ล้านบาท ในการปรับภูมิทัศน์ทำเนียบรัฐบาล ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันมากนั้น เรื่องนี้นายกรัฐมนตรีควรลงมาตรวจสอบและชี้แจงการใช้งบประมาณดังกล่าวเอง เพราะรัฐมนตรีบางคนชี้แจงไม่ตรงประเด็น

เหตุที่การใช้งบ 138 ล้านบาท ควรถูกตรวจสอบตามที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ เพราะเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2567 คณะรัฐมนตรีได้ลงมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ที่นายกฯ ได้มีการขอให้ปรับลดงบประมาณรายจ่ายประจำที่ไม่จำเป็นไว้ด้วย 

 

การที่รัฐบาลใช้เงิน 138 ล้านบาทดังกล่าว จึงไม่สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีเสียเอง ทั้งนี้แม้จะเป็นงบประมาณที่อาศัยรัฐธรรมนูญ มาตรา 141 คือใช้งบประมาณปี 2566 ไปพลางก่อน เพราะวันนี้ สภาผู้แทนราษฎรยังพิจารณางบประมาณปี 2567 ไม่แล้วเสร็จ แต่การใช้งบปี 2566 ไปพลางก่อน ก็ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ไปพลางก่อน ตามหนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร 0702/ว152 วันที่ 31 ส.ค. 2566 ซึ่งได้รับอนุมัติจากนายกรัฐมนตรีแล้ว 

นายเรืองไกร กล่าวว่า สำนักงบประมาณได้กำหนด “หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ไปพลางก่อน”  ไว้ในข้อ 2.1 ซึ่งระบุว่า

• 2.1 ให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณรายจ่ายให้หน่วยรับงบประมาณใช้จ่ายหรือก่อหนี้ผูกพัน ภายใต้กรอบวงเงินของแต่ละแผนงานและรายการตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 รวมถึงรายการโอนเปลี่ยนแปลงตามกฎหมาย ดังนี้

1. งบประมาณรายจ่ายงบกลาง 
2. งบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณ
3. งบประมาณรายจ่ายบูรณาการ
4. งบประมาณรายจ่ายบุคลากร
5. งบประมาณรายจ่ายสำหรับทุนหมุนเวียน
6. งบประมาณรายจ่ายเพื่อการชำระหนี้ภาครัฐ

นายเรืองไกร กล่าวว่า จากหลักเกณฑ์ข้อ 2.1 จึงควรตรวจสอบว่า การใช้งบประมาณ 138 ล้านบาท นั้นอยู่ภายใต้กรอบวงเงินของแต่ละแผนงานและรายการตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 และไม่เข้าข่ายรายการโอนเปลี่ยนแปลงตามกฎหมาย ตามข้อ 2.1 (1) – (6) หรือไม่ 

นายเรืองไกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี จึงควรตรวจสอบการใช้งบประมาณ138 ล้านบาท ในการปรับภูมิทัศน์ทำเนียบรัฐบาลทุกรายการ (รวม 12 รายการ) ว่า เป็นไปตามแนวมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2567 หรือไม่ และเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ไปพลางก่อน หรือไม่  

นายเรืองไกร กล่าวว่า หากการใช้งบประมาณ 138 ล้านบาท ไม่ชอบ นายกรัฐมนตรีและผู้ที่เกี่ยวข้อง จะเข้าข่ายต้องรับผิดชอบตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือไม่ และกรณีดังกล่าวเป็นการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำที่จำเป็น เกิดความคุ้มค่า เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและประเทศโดยรวม อย่างไร หรือไม่ และรายการทั้งหมดของเงิน 138 ล้านบาทอยู่ภายใต้กรอบวงเงินของแต่ละแผนงานและรายการตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 จริงหรือไม่ 

นายเรืองไกร กล่าวว่า วันนี้ตนจึงส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS ไปถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ตรวจสอบงบประมาณดังกล่าวแล้ว

ด้าน น.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายบริหาร ชี้แจงกรณีมีการวิจารณ์ต่อแผนงานงบประมาณของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะเรื่อง งบประมาณลงทุน เรื่อง ระบบ IT และการปรับปรุงซ่อมแซมสถานที่นั้น 

เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง ขอยืนยันว่า ระบบ Cyber Security สำหรับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ นั้น เป็นไปตามแผนงานดิจิทัล ที่ได้จัดทำโครงการมาตั้งแต่ ปี 2565 และมาผ่านงบประมาณ ปี 2567 เพื่อเป็นระบบป้องกันการคุกคามทางไซเบอร์ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญทั้งในด้านความมั่นคงและความปลอดภัยของระบบฐานข้อมูลรัฐบาล และเป็นไปตามแผนงานดิจิทัล ที่รอบคอบและรัดกุม

สำหรับอุปกรณ์ที่ติดตั้ง จะติดตั้งเป็นชุด จำนวน 2 ชุด เพื่อให้มีความเสถียรภาพ หากชุดใดชุดหนึ่งเสีย อุปกรณ์อีกชุด สามารถทำงานทดแทนได้ทันที เพื่ออุดช่องโหว่ไม่ให้เกิดความเสียหายที่ยากเกินจะแก้ไข

สำหรับงบประมาณปรับปรุงสถานที่ เป็นไปตามระยะเวลาของการใช้งานที่ต้องมีการเปลี่ยนและปรับปรุงของสถานที่ราชการ โดยเฉพาะทำเนียบรัฐบาล ที่สถานที่สำคัญในการบริหารและภาพลักษณ์ของประเทศ รวมทั้ง หลายอาคารได้ขึ้นทะเบียนของกรมศิลปากร ที่จะต้องเป็นไปตามข้อ ระเบียบในการปรับปรุงซ่อมแซมด้วย ทั้งนี้ ในการดำเนินการของบประมาณ เป็นไปตามระเบียบ เหตุผลความจำเป็น และกรอบวงเงินที่ผ่านการพิจารณาอย่างถี่ถ้วน

ล่าสุดนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีปรากฏภาพการปรับปรุงสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล จนเกิดกระแสวิจารณ์ว่าใช้งบประมาณสูงถึง 138 ล้านบาท ว่าอาจจะเป็นข้อมูลที่บิดเบือน เพราะ 138 บาทล้านบาท ไม่ใช่เพียงแค่การปรับปรุงสนามหญ้า แต่ครอบคลุมถึงระบบไอที ระบบรักษาความปลอดภัย ระบบคอมพิวเตอร์และอีกหลายระบบที่ต้องปรับปรุง ยืนยันทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย และระเบียบข้อบังคับที่ถูกต้อง ซึ่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหารได้ชี้แจงไปแล้ว

ส่วนการวิจารณ์ว่าใช้งบประมาณมากจนเกินไป และถูกตั้งคำถามว่าใช้งบประมาณอยู่ในกรอบหรือไม่  นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า การเอารูปสนามหญ้าที่มีรถไถมาโชว์แล้วบอกว่าใช้งบประมาณ 138 ล้านบาท อาจจะเป็นจำนวนที่มาก

ดังนั้นต้องดูระบบอื่นๆ และดูในรายละเอียด ก่อนย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลพยายามทำให้ถูกต้องตามกฎระเบียบทุกอย่าง และ คำนึงถึงการใช้งบประมาณทุกบาททุกสตางค์อย่างมีประสิทธิภาพ