SHORT CUT
ความสัมพันธ์ 32 ปีที่แน่นแฟ้นของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ของไทย กับ ฮุน เซน อดีตนายกฯ กัมพูชา จากพนมเปญถึงบ้านจันทร์ส่องหล้า ที่ล่าสุดถึงกับเหมาเครื่องมาเยี่ยม
ปฏิเสธไม่ได้ว่าความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ของไทย กับ ฮุน เซน อดีตนายกฯ กัมพูชา หลังมีข่าวทักษิณ ได้รับการพักโทษเพียงไม่กี่วัน ฮุนเซน ก็ได้มีการนัดเข้าเยี่ยม ทักษิณ เดินทางเป็นการส่วนตัวมาที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ในวันที่ 21 ก.พ. 67 เป็นการยืนยันถึงความสนิทและให้เกียรติซึ่งกันและกัน
การเดินทางมาเยี่ยมทักษิณในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด เพราะหากติดตามความสัมพันธ์ของเขาทั้งคู่จะรู้ว่า ช่วงที่ ฮุน เซน ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี กัมพูชา จะเห็นข่าว ทักษิณ เดินทางไปเยือนกัมพูชาช่วงหลบหนีคดี จนเมื่อปี 2552 รัฐบาลกัมพูชา ประกาศตั้งทักษิณ เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ และมีการเผยแพร่ภาพ ฮุน เซน และ ทักษิณนั่งอยู่ข้างกัน โดย ฮุน เซน ได้ประกาศจะไม่ส่งตัวทักษิณให้ทางการไทย อีกด้วย
ที่ผ่านมา “ทักษิณ” มอง “กัมพูชา” เป็นประเทศที่เหมือนเพื่อนแท้ โดย "ทักษิณ" เคยกล่าวว่า
"ในอาเซียนมีพี่น้อง 3 คนที่รักกันคือ สุลต่านบรูไน ตน และสมเด็จฮุน เซน เพราะตลอดเวลาที่ถูกรังแก ทั้ง 2 ประเทศเปรียบเสมือนบ้านอีกหลังของผมในยามยาก”
หมุนเข็มนาฬิกากลับไปเมื่อปี 2535 สายสัมพันธ์ของทักษิณและ ฮุน เซน ก่อตัวขึ้นสมัยทักษิณ เข้าไปบุกเบิกธุรกิจสื่อสารและกิจการโทรศัพท์ในกัมพูชา และในช่วงที่ สมัยรัฐบาล นายกฯ ชวน ปี 2537-2538 ทักษิณ ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศได้กระชับความสัมพันธ์ กับรัฐบาลกัมพูชา ทั้งจัดสรรงบประมาณ จำนวน 244.699 ล้านบาท สำหรับการดำเนินโครงการความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการแก่กัมพูชา ต่ออายุโครงการไตรภาคีญี่ปุ่น - อาเซียน - กัมพูชา เพื่อช่วยเหลือกัมพูชา
ในปี 2549 ทักษิณถูกรัฐประหาร จนต้องระหกระเหิน หลี้ภัยทางการเมืองอยู่ต่างประเทศแม้จะมีข่าวเป็นระยะว่าจะกลับเข้าไทยแต่สุดท้ายก็ต้องใช้เวลากว่า 17 ปี
ในช่วงที่ ทักษิณ พเนจรอยู่ต่างแดน ก็ได้ฮุนเซนเป็นเหมือนดั่งเพื่อนแท้ ที่คอยเป็นกำลังใจโดยในปี 2552 หลัง ทักษิณ ถูกรัฐประหาร ฮุน เซน ขณะนั้นดำรงตำแหน่งนายกรับมนตรีกัมพูชา ได้เปิดบ้านพักในกรุงพนมเปญต้อนรับทักษิณระหว่างการหลบหนีคดี แต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาส่วนตัว-ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจรัฐบาลกัมพูชา พร้อมกับประกาศกร้าวไม่ส่งตัว ทักษิณ ให้กับทางการไทย หลังรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยื่นหนังสือถึงรัฐบาลกัมพูชาขอส่งตัวนายทักษิณในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน
ปี 2554 ทักษิณเดินทางเยือนกรุงพนมเปญของกัมพูชา โดยทักษิณได้รับเชิญให้มาบรรยายในหัวข้อ “อนาคตทางเศรษฐกิจในเอเชีย” รวมถึงมีการออกรอบตีกอล์ฟร่วมกันระหว่างทักษิณกับฮุน เซนด้วย ซึ่งในปีเดียวกันนี้ เป็นช่วงที่ ประเทศไทยจัดการเลือกตั้ง รัฐบาลกัมพูชาเปิดทางให้นายทักษิณ จัดเวทีขึ้นปราศรัยของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) มีกลุ่มคนเสื้อแดงจากประเทศไทยเดินทางข้ามพรมแดนไปรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก บริเวณด้านชายแดนอรัญประเทศ สระแก้ว ไฮไลท์สำคัญ ได้มีการร่วมร้องเพลง “Let it Be” แปลไทยได้ว่า ช่างแม่งมัน ของวงร็อคในตำนานอย่าง “เดอะบีเทิลส์” จนเป็นเพลงที่ติดปากกลุ่มคนเสื้อแดงในช่วงเวลานั้น
สุดท้ายน้องสาวอย่าง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชนะเลือกตั้งได้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 28 ซึ่งจุดประกายให้กับ “ทักษิณ” ที่อยากจะกลับบ้าน ด้วยการ ออกกฎหมายนิรโทษกรรม แต่อะไรก็ไม่ได้ดั่งหวังเพราะท้ายที่สุด รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ก็ถูกยึดอำนาจกลางปี 2557 ทำให้คู่พี่น้อง ชินวัตร ต้องออกพเนจรต่างแดนกันอีกครั้ง
5 สิงหาคม 2566 ก่อนหน้าที่ ทักษิณ จะเดินทางกลับประเทศไทย ทักษิณ พร้อมด้วย ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวและอดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ซึ่งหลบหนีคดีอยู่ในต่างประเทศเช่นกัน ได้บินไปร่วมงานฉลองวันคล้ายวันเกิดครบ 71 ปี ของของฮุน เซน ที่เมืองตาเขมา จ.กันดาล
กระทั้งวันที่ 22 ส.ค. 2566 ทักษิณ เดินทางกลับไทย โดยที่ผ่านมานายทักษิณ เคยประกาศกลับไทยมาแล้ว 20 ครั้ง แต่ไม่ได้เดินทางกลับมาจริง
“ฮุน เซน” เคยกล่าวไว้ว่า ตน และนายทักษิณ คือ พี่ทูนหัว (God brother) ซึ่งมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นมานาน ตั้งแต่ปี 2535 ก่อนนายทักษิณจะขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีของไทย
การเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของสมเด็จฯ ฮุน เซน สมัยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีดังนี้
ล่าสุด วันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 นี้ สมเด็จฮุนเซนฯ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานองคมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา จะเดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณ ชินวัตร ที่บ้านจันทร์ส่องหล้าในเวลา 10.30 น.และจะรับประทานอาหารกลางวันด้วยกัน ก่อนเดินทางกลับกรุงพนมเปญในช่วงบ่ายวันเดียวกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง