svasdssvasds

ก้าวไกลจะเจออะไรต่อไป : ศาลรัฐธรรมนูญฟัน หาเสียง แก้ ม.112 ล้มล้างการปกครอง

ก้าวไกลจะเจออะไรต่อไป : ศาลรัฐธรรมนูญฟัน หาเสียง แก้ ม.112 ล้มล้างการปกครอง

วิเคราะห์ ความเป็นไปได้ และแนวทางที่อาจจะเกิดขึ้น เมื่อ เมื่อศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย ฟันว่า การหาเสียง แก้ มาตรา112 ของพรรค ในช่วงเลือกตั้ง 2566 เป็นการเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง

นับเป็นเรื่องราวที่ช็อกแวดวงการเมือง เมื่อศาลรัฐธรรมนูญ  วินิจฉัย คดี “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และ พรรคก้าวไกล” หาเสียงแก้ ม.112 ในช่วงการเลือกตั้ง 2566 เป็นการ เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง จากคำร้องของ  ธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายอิสระ โดยในอดีตที่ผ่านมา โดยเขาเป็นที่รู้จักในฐานะทนายความของ สุวิทย์ ทองประเสริฐ หรืออดีตพระพุทธะอิสระ ได้ ยื่นคำร้องต่อ อัยการสูงสุด และ ศาลรัฐธรรมนูญ ในช่วงมิถุนายน 2566  และมีการสืบความตามมา จนกระทั่งมีคำตัดสินในวันนี้ 

และ เมื่อ ผลคำตัดสินจากศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินออกมาออกมาในรูปแบบนี้  กล่าวคือ “พิธา และพรรคก้าวไกล”  เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง และต้องหยุดการกระทำ 

ผลที่ตามมา หลังจากนี้ ของพรรคก้าวไกล และ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรค  คือ อาจจะมีการยื่นศาลรัฐธรรมนูญต่อตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92 (1) และ (2) ที่กำหนดให้ ก.ก.ต.มีอำนาจยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองนั้นได้  และอาจจะนำไปสู่การตัดสิทธิสมัครรับเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลต่อไปได้ในอนาคต 

ก้าวไกลจะเจออะไรต่อไป เมื่อศาลรัฐธรรมนูญฟัน หาเสียง แก้ม.112 ล้มล้างการปกครอง

• 44 สส. ก้าวไกล อาจโดนเอาผิดมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง

โดย 44 ส.ส. พรรคก้าวไกล เสนอแก้ ม.112 นำโดย “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ส่อโดนร้องป.ป.ช.ให้เอาผิดมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง อันมีโทษตัดสิทธิการเมืองตลอดชีวิต

ผลกระทบกรณีหนึ่งที่จะตามมาคือ อาจมีผู้นำคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ไปยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อเอาผิดจริยธรรมร้ายแรง นายพิธา และ ส.ส.พรรคก้าวไกล จำนวน 44 คน ที่ยื่นร่างแก้ไขกฎหมายดังกล่าว 

โดยโทษตามความผิดจริยธรรมร้ายแรงคือ ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไม่เกิน 10 ปี และ ไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ 

สำหรับรายชื่อ ส.ส. ที่ลงชื่อเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ...) เกี่ยวกับการแก้ไขมาตรา 112 เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2564 เป็น ส.ส.พรรคก้าวไกลทั้งหมด จำนวน 44 คน ประกอบด้วย

1. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล 
2. นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
3. นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
4. น.ส.ญาณธิชา บัวเผื่อน ส.ส.จันทบุรี
5. น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ
6. นายกัญจน์พงศ์ จงสุทธนามณี ส.ส.บัญชีรายชื่อ
7. น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
8. พ.ต.ต.ชวลิต เลาหอุดมพันธ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
9. นายนิติพล ผิวเหมาะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
10. นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม.
11. นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม.
12. นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ
13. นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก
14. นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ
15. นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
16. นายปริญญา ช่วยเกตุ คีรีรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
17. นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ
18. นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.กทม.
19. น.ส.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
20. น.ส.สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ส.ส.นครปฐม
21. นายวรภพ วิริยะโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
22. นายคำพอง เทพาคำ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
23. นายสมเกียรติ ถนอมสินธุ์ ส.ส.กทม.
24. นายทองแดง เบ็ญจะปัก ส.ส.สมุทรสาคร
25. นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา
26. นายจรัส คุ้มไข่น้ำ ส.ส.ชลบุรี
27. นายสุเทพ อู่อ้น ส.ส.บัญชีรายชื่อ
28. นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
29. นายอภิชาติ ศิริสุนทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ
30. นายองค์การ ชัยบุตร ส.ส.บัญชีรายชื่อ
31. พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
32. นายณัฐพล สืบศักดิ์วงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
33. นายศักดินัย นุ่มหนู ส.ส.ตราด
34. นายมานพ คีรีภูวดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ
35. นายวาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อ
36. น.ส.วรรณวิภา ไม้สน ส.ส.บัญชีรายชื่อ
37. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ
38. นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
39. นายทวีศักดิ์ ทักษิณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
40. นายสมชาย ฝั่งชลจิตร ส.ส.บัญชีรายชื่อ
41. นายสมเกียรติ ไชยวิสุทธิกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ
42. นายวุฒินันท์ บุญชู ส.ส.สมุทรปราการ
43. นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ
44. นายสุรวาท ทองบุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ

•  เปิดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เคสฟันก้าวไกล - พิธา 

ศาลรัฐธรรมนูญ วินิฉัยว่า ผู้ถูกร้องที่ 1 (พิธา) และผู้ถูกร้องที่2 (พรรคก้าวไกล) มีพฤติการณ์ในการใช้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นต่างๆ เพื่อการเรียกร้องให้มีการทำลายการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยซ่อนเร้นผ่านการนำเสนอร่างกฎหมายแก้ไข ม.112 และใช้เป็นนโยบายพรรค มีลักษณะดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นขบวนการ 

หากยังปล่อยให้ ผู้ถูกร้องทั้ง 2 กระทำการต่อไป ย่อมไม่ไกลเกินเหตุที่จะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงเป็นการใช้สิทธิ์หรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรค 1 ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญสั่งการให้ผู้ถูกร้องทั้ง 2 เลิกการกระทำ เลิกการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา และการสื่อความหมายโดยวิธีอื่น เพื่อให้มีการยกเลิก ม.112 อีกทั้งไม่ให้มีการแก้ไข ม.112 ด้วยวิธีการซึ่งไม่ใช่กระบวนการทางนิติบัญญัติโดยชอบต่อไปในอนาคตด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related