ครม.ไฟเขียวกฎหมายจราจรใหม่ ให้อำนาจ ตำรวจสันนิษฐานผู้ขับขี่เมาสุราเกินค่ากำหนดได้ และสามารถตรวจได้เพิ่มเติมจากของเสียอื่นๆ จากร่างกายได้ เช่น ปัสสาวะ
เมาแล้วขับเป็นเรื่องที่รณรงค์กันมายาวนาน แม้กฏหมายจะแรงแค่ไหนก็ยังคงมีเหตุให้เห็นตามข่าวบางเคสรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมีการตั้งด่านตรวจเป่าแอลกอฮอล์ยามค่ำคืน เพื่อลดอุบัติเหตุและเอาผิดกับพวกนักดื่มที่ไม่มีความรับผิดชอบ แต่กระนั้นแล้วก็ยังมีพวกหัวหมอไม่ยอมเป่าแอลกอฮอล์ ซึ่งผู้ขับขี่ที่ฝ่าฝืนไม่ยอมเป่าแอลกอฮอล์จะถูกสันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้นั้นขับขี่รถในขณะเมาสุรา แม้ไม่ยอมทดสอบก็ตาม
ล่าสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เสนอคณะรัฐมนตรี เห็นชอบร่างกฎกระทรวงที่ออกตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก อุบัติเหตุที่เกิดจากการดื่มสุรา ซึ่งเดิมต้องใช้วิธีการเป่า หรือให้ผู้ขับขี่ยินยอมในการตรวจเลือด ซึ่งร่างกฎกระทรวงนี้ ได้เปลี่ยนหลักการใหม่ ให้สามารถตรวจได้เพิ่มเติมจากของเสียอื่น ๆ จากร่างกายได้ เช่น ปัสสาวะ และในกรณีที่ผู้ขับขี่มีพฤติการณ์เชื่อได้ว่าดื่มสุรา และมีปริมาณแอลกอฮอลเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารใช้อำนาจเข้าข้อสัณนิษฐานได้ในการดำเนินคดี และเมื่อมีการจับกุมผู้ขับขี่ เจ้าหน้าที่จะต้องรับส่งผู้ขับขี่ไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจพิสูจน์ปริมาณแอลกอฮอลภายใน 3 ชั่วโมง เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริง โดยคณะรัฐมนตรี ได้เห็นชอบ และกฤษฎีกา ตรวจสอบความถูกต้องก่อนบังคับใช้
ข้อมูลจาก : กรมการขนส่งทางบก