svasdssvasds

สุดารัตน์-พรรณิการ์-วทันยา จับมือเพื่อลดอคติทางเพศและประเทศไทยที่ดีขึ้น

สุดารัตน์-พรรณิการ์-วทันยา จับมือเพื่อลดอคติทางเพศและประเทศไทยที่ดีขึ้น

3 พลังหญิง ‘สุดารัตน์-พรรณิการ์-วทันยา’ ร่วมงาน Women in Business Success Story(s) และร่วมเสวนาในหัวข้อ Success in Empowering เพื่อลดอคติทางเพศและประเทศไทยที่ดีขึ้น

คุณหญิงสุดารัตน์ เล่าว่า อุปสรรคในการทำงานการเมืองคือ คำว่า Gender ในการเมืองไทยสมัยนั้นมีแต่คำว่า ‘หญิง-ชาย’ และยิ่งตอนที่เริ่มทำงานการเมืองอยู่พรรคพลังธรรมที่เป็นพรรคใหม่ มาแข่งขันกับพรรคเจ้าของพื้นที่อย่างพรรคประชากรไทย แม้ว่าเธอจะฝ่าฟันจนเข้ามาทำงานเป็น สส. สมัยแรกได้ แต่ก็ถูกสื่อและคนนอกมองว่าเป็นไม้ประดับ และคนไม่ได้โฟกัสที่สิ่งที่เธอทำ แต่กลับมาโฟกัสเรื่องความสวยหรือไม่สวย เธอยอมรับว่าสังคมชายเป็นใหญ่มีอยู่มาต่อเนื่องตั้งแต่ในอดีต โดยเฉพาะสังคมเอเชีย และไม่ใช่แค่การเมือง แต่ยังเป็นในทุกสาขาอาชีพที่ให้โอกาสผู้หญิงขึ้นมาเป็นผู้นำองค์กรน้อยกว่าผู้ชาย หรือแม้ตัวเธอเอง ตอนที่ขึ้นมาเป็นเลขาธิการพรรคผู้หญิงคนแรก ก็ถูกข่าวลือโจมตีว่ามีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แต่เธอก็ใช้การทำงานพิสูจน์ตัวเอง จนได้เป็นรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดตั้งแต่วัย 31 ปี

“เราจะไม่โดดเด่นด้วยหน้าตาหรือเพศ แต่เราจะโดดเด่นด้วยการทำงาน เราจะต้องอดทนและทำงานหนัก วันนี้คนที่บูลลี่เราไม่ใช่แค่ผู้ชาย แต่เป็นผู้หญิงด้วยกันเองก็มี เราต้องพิสูจน์ด้วยการทำให้คนยอมรับที่ความเป็นตัวเราและใช้ความจริงใจ คนทุกคนประสบความสำเร็จได้ไม่ว่าจะเป็น Gender ไหน”

สุดารัตน์-พรรณิการ์-วทันยา จับมือเพื่อลดอคติทางเพศและประเทศไทยที่ดีขึ้น

คุณหญิงสุดารัตน์ ลุกขึ้นยืนเพื่อให้เกียรติและกล่าวชื่มชม น.ส.พรรณิการ์ และ น.ส.วทันยา เธอกล่าวว่าแม้เธอจะอายุมากกว่า แต่เธอเคารพในพลังของคนรุ่นใหม่ เธอชื่นชมในความมุ่งมั่นทำงานตามความเชื่อและอุดมการณ์อย่างไม่ย่อท้อ ส่วน น.ส.วทันยา เป็นนักธุรกิจที่เก่งและประสบความสำเร็จ และหวังว่าวันหนึ่งเธอก็จะประสบความสำเร็จทางการเมืองไม่แพ้กัน น.ส.วทันยาเป็นคนที่สร้างพลังให้คนรอบตัวอยู่เสมอ เชื่อมั่นในความคิดและความถูกต้องและเสียงของประชาชน คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่าเธอเคารพและเรียนรู้จากทั้ง 2 คนนี้คือความคิดที่จะเปลี่ยนแปลงและความกล้าเพื่อประเทศที่ดีขึ้น

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า การบูลลี่เกิดเราก็ต้องพร้อมที่จะสู้กับมัน และเราต้องเสริมสร้างตัวเองให้มีศักยภาพมากขึ้นในทุกมิติ วันนี้โลกเปลี่ยนเร็วมากแทบจะทุกเดือน แต่เราต้องพยายามสร้างการเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่ความยั่งยืน และสิ่งสำคัญคือต้องเริ่มจากตัวเราเองโดยที่เราต้องไม่ยอมแพ้

น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า แม้ว่าเวลาเปลี่ยนและสังคมมีพัฒนาการมาก แต่การบูลลี่ก็ยังไม่หมด สมัยที่เธอเป็น สส. เธอต้องระวังการแต่งกายของเธอให้ไม่โป๊แม้กระทั่งเสื้อแขนกุดที่ชอบใส่ก็ต้องไม่ใส่ และคนก็จำไม่ได้ว่าเธอทำงานอะไร แต่โฟกัสว่าเธอใส่ชุดอะไร หรือจะตบกับใคร เป็นต้น แต่พอวันนี้ สส.หมิว สิริลภัส กองตระการพรรคก้าวไกล แต่งกายด้วยเสื้อสายเดี่ยวหรือเสื้อแขนกุดลงพื้นที่โดยที่ไม่โดนดราม่า ทำให้เธอรับรู้ได้ว่าวันนี้สังคมเปลี่ยนไปแล้ว แม้การบูลลี่ไม่หมดไป แต่จะมีคนที่เชื่อในสิทธิเสรีภาพมากขึ้นเรื่อยๆ

สุดารัตน์-พรรณิการ์-วทันยา จับมือเพื่อลดอคติทางเพศและประเทศไทยที่ดีขึ้น

การทำงานการเมือง สส. หลายคนมักตัดสินใจผ่านผลประโยชน์และมุ้ง แต่สิ่งที่เธอประทับใจคือ การพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 โครงการเหมืองตะกั่วที่ จ.พัทลุง ที่หากเกิดขึ้นจะกระทบระบบนิเวศน์และความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่พรรคก้าวไกลไม่สนับสนุน สามารถยุติได้ด้วยเสียงโหวตข้ามขั้วจากฝั่งรัฐบาลด้วยเสียงของ มาดามเดียร์ วทันยา และทำให้ทุกวันนี้ธรรมชาติและน้ำตกที่พัทลุงยังคงสวยมากและไม่ถูกทำลายด้วยเหมืองตะกั่ว

น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า ต่อไปนี้เราจะไม่ต้องอดทน แต่เราต้องโวยวายมันออกมาและสู้จนกว่ามันจะเปลี่ยนไปเป็นสิ่งที่เราเชื่อ และได้ประเทศที่เราต้องการ แต่ท่ามกลางการโวยวายเราต้องมีความหวังว่าจะเปลี่ยนแปลงไปในสิ่งที่ดีกว่า และเชื่อว่าเพื่อนมนุษยจะเปลี่ยนไปได้ ไม่เช่นนั้นการโวยวายจะเป็นการระบายอารมณ์ แต่ไม่ใช่การเปลี่ยนเปลี่ยน เราต้องเชื่อว่าประเทศจะดีกว่านี้ดีได้ 

สุดารัตน์-พรรณิการ์-วทันยา จับมือเพื่อลดอคติทางเพศและประเทศไทยที่ดีขึ้น

น.ส.วทันยา กล่าวว่า วงการสื่อ หรือวงการฟุตบอลก็เป็นโลกของผู้ชาย ตอนที่มาทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลและพาไปแข่งซีเกมส์ครั้งแรกของประวัติศาสตร์ประเทศไทย เธอก็ถูกเพ่งเล็งมาก แต่เธอก็ตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ จนได้แชมป์ซีเกมส์ ทำให้เธอได้พิสูจน์ว่า “ศักยภาพและคุณค่าของคนๆ หนึ่งอยู่ที่ความเป็นมนุษย์” พอข้ามมาที่วงการการเมือง แทนที่คนจะมองเรื่องความตั้งใจหรืองานที่เราทำ แต่คนก็ยังมองไปที่บริบทภายนอกมากกว่า ล่าสุดที่เธอลงสมัครหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้ได้พบว่าลึกๆ แล้วยังมีกำแพงกั้นความเป็นผู้หญิงของเธอ แต่เธอยังเชื่อว่าเพศไม่ได้ลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ แต่ขอให้เรามีความมุ่งมั่น เชื่อว่าทุกคนทุกเพศ ชายหญิง หรือผู้มีความหลากหลายทางเพศก็มีโอกาสประสบความสำเร็จได้

สุดารัตน์-พรรณิการ์-วทันยา จับมือเพื่อลดอคติทางเพศและประเทศไทยที่ดีขึ้น

น.ส.วทันยา ยังกล่าวว่า ผู้หญิงที่เข้ามาทำงานการเมืองคงรู้สึกไม่ต่างกันว่าเราต้องใช้ความพยายามมากเพื่อจะต่อสู้กับอคติ การเป็นเพศหญิงไม่ได้มีอภิสิทธิ์แต่ต้องรับความกดดันมากกว่า เธอชื่นชม น.ส.พรรณิการ์ ว่าแม้จะถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองซึ่งเป็นโทษที่เกินไป แต่ยังคงมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงานการเมืองต่อไป ขอเป็นกำลังใจให้ ขณะเดียวกันคุณหญิงสุดารัตน์เข้ามาทำงานการเมืองก่อน ต้องเจอกับแรงกดดันเหล่านี้มาก่อน วันนี้คุณฆญิงเป็นไอดอลให้เธอและอีกหลายคนว่าผู้หญิงสามารถขึ้นมาทำงานในโลกการเมือง โลกของผู้ชาย ได้ไม่แพ้ใคร ยิ่งตอนนี้ออกมาตั้งพรรคใหม่ กล้าออกจากพื้นที่ปลอดภัย มาทำงานที่ท้าทาย ยิ่งเป็นความกล้าหาญที่เป็นแบบอย่างของหลายคน แต่พวกเธอเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่วันนี้โลกที่หมุนไปทำให้มีการยอมรับมากขึ้น ลดอคติทางเพศและวัย และสร้างความเท่าเทียมทางเพศอย่างแท้จริง อยากให้ทุกคนเชื่อมั่นในคุณค่าของตัวเอง อย่าให้อะไรมาตีตราคุณค่าในตัวเรา

สุดารัตน์-พรรณิการ์-วทันยา จับมือเพื่อลดอคติทางเพศและประเทศไทยที่ดีขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related