svasdssvasds

ราชกิจจาฯ ประกาศขึ้นค่าแรงขั้นต่ำมีผล 1 ม.ค. 67 กทม. ได้ 363 บาท

ราชกิจจาฯ ประกาศขึ้นค่าแรงขั้นต่ำมีผล 1 ม.ค. 67 กทม. ได้ 363 บาท

ราชกิจจานุเบกษา ประกาศขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ มีผล 1 ม.ค. 67 ภูเก็ตได้สูงสุด 370 บาท กรุงเทพ-สมุทรปราการ-นครปฐม-นนทบุรี-ปทุมธานี-สมุทรสาครได้ 363 บาท

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง เรื่อง อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ (ฉบับที่ 12) ระบุว่า ด้วยคณะกรรมการค่าจ้างได้มีการประชุมศึกษาและพิจารณาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอัตราค่าจ้างที่ลูกจ้างได้รับอยู่ ประกอบกับข้อเท็จจริงอื่นตามที่กฎหมายกําหนด เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2566 และมีมติเห็นชอบให้กําหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเพื่อใช้บังคับแก่นายจ้างและลูกจ้างทุกคน

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 79 (3) และมาตรา 88 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2551 คณะกรรมการค่าจ้าง จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 ให้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง เรื่อง อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ (ฉบับที่ 11) ลงวันที่ กันยายน พ.ศ. 2565

ข้อ 2 ให้กําหนดอัตราค่าจ้างขั้นเป็นเงินวันละสามร้อยเจ็ดสิบบาท ในท้องที่จังหวัดภูเก็ต

ข้อ 3 ให้กําหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสามร้อยหกสิบสามบาท ในท้องที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดนครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร

ข้อ 4 ให้กําหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสามร้อยหกสิบเอ็ดบาท ในท้องที่จังหวัด ชลบุรี และระยอง

ขอ 5 ให้กําหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสามร้อยห้าสิบสองบาท ในท้องที่จังหวัด นครราชสีมา

ข้อ 6 ให้กําหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสามร้อยห้าสิบเอ็ดบาท ในท้องที่จังหวัด สมุทรสงคราม

ข้อ 7 ให้กําหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสามร้อยห้าสิบบาท ในท้องที่จังหวัด ขอนแก่น ฉะเชิงเทรา เชียงใหม่ ปราจีนบุรี พระนครศรีอยุธยา และสระบุรี ลพบุรี

ข้อ 8 ให้กําหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสามร้อยสี่สิบเก้าบาท ในท้องที่จังหวัดลพบุรี

ขอ 9 ให้กําหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสามร้อยสี่สิบแปดบาท ในท้องที่จังหวัด นครนายก สุพรรณบุรี และหนองคาย

ข้อ 10 ให้กําหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสามร้อยสี่สิบเจ็ดบาท ในท้องที่จังหวัด กระบี่ และตราด

ข้อ 11 ให้กําหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสามร้อยสี่สิบห้าบาท ในท้องที่จังหวัด กาญจนบุรี จันทบุรี เชียงราย ตาก นครพนม บุรีรัมย์ ประจวบคีรีขันธ์ พังงา พิษณุโลก มุกดาหาร สกลนคร สงขลา สระแก้ว สุราษฎร์ธานี และอุบลราชธานี

ข้อ 12 ให้กําหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสามร้อยสี่สิบสี่บาท ในท้องที่จังหวัดชุมพร เพชรบุรี และสุรินทร์

ข้อ 13 ให้กําหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสามร้อยสี่สิบสามบาท ในท้องที่จังหวัด นครสวรรค์ ยโสธร และลําพูน

ข้อ 14 ให้กําหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสามร้อยสี่สิบสองบาท ในท้องที่จังหวัด กาฬสินธุ์ นครศรีธรรมราช บึงกาฬ เพชรบูรณ์ และร้อยเอ็ด

ข้อ 15 ให้กําหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสามร้อยสี่สิบเอ็ดบาท ในท้องที่จังหวัด ชัยนาท ชัยภูมิ พัทลุง สิงห์บุรี และอ่างทอง

ข้อ 16 ให้กําหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสามร้อยสี่สิบบาท ในท้องที่จังหวัดกําแพงเพชร พิจิตร มหาสารคาม แม่ฮ่องสอน ระนอง ราชบุรี ลําปาง เลย ศรีสะเกษ สตูล สุโขทัย หนองบัวลําภู อํานาจเจริญ อุดรธานี อุตรดิตถ์ และอุทัยธานี

ข้อ 17 ให้กําหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสามร้อยสามสิบแปดบาท ในท้องที่จังหวัด ตรัง น่าน พะเยา และแพร่

ข้อ 18 ให้กําหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสามร้อยสามสิบบาท ในท้องที่จังหวัด นราธิวาส ปัตตานี และยะลา

ข้อ 19 เพื่อประโยชน์ตามข้อ 2 ถึงข้อ 18 คําว่า “วัน” หมายถึง เวลาทํางานปกติ ของลูกจ้างซึ่งไม่เกินชั่วโมงทํางานดังต่อไปนี้ แม้นายจ้างจะให้ลูกจ้างทํางานน้อยกว่าเวลาทํางานปกติเพียงใดก็ตาม

(1) เจ็ดชั่วโมง สําหรับงานที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพและความปลอดภัยของลูกจ้าง ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2541) ออกตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541

(2) แปดชั่วโมง สําหรับงานอื่นซึ่งไม่ใช่งานตาม (1)

ข้อ 20 ห้ามมิให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างเป็นเงินแก่ลูกจ้างน้อยกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ

ข้อ 21 ประกาศคณะกรรมการค่าจ้างฉบับนี้ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2567 เป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2566

นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน ประธานกรรมการค่าจ้าง

ราชกิจจาฯ ประกาศขึ้นค่าแรงขั้นต่ำมีผล 1 ม.ค. 67 กทม. ได้ 363 บาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

related