“สมศักดิ์ เทพสุทิน ” ปัดเอี่ยว ออกระเบียบขังนอกคุกเอื้อพี่โทนี่ “ทักษิณ ชินวัตร” แจงยิบไขประเด็นลาออก รมว.ยุติธรรม ก่อนระเบียบบังคับใช้ ย้ำ “ทักษิณ” ต้องรักษาตัวโรคเครียดไม่ให้เรื้อรัง แนะนักข่าวลองเข้าคุก จะได้รู้ชีวิตขาดอิสรภาพมันเครียด
สมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ชี้แจงเพื่อให้สังคมเกิดความเข้าใจภายหลังปรากฏชื่อของตนเองเข้าไปเกี่ยวข้องกับการออกระเบียบกรมราชทัณฑ์ ถึงการคุมขังนอกเรือนจำว่า พระราชบัญญัติราชทัณฑ์ได้มีผลใช้บังคับปี 2560 และเมื่อมีการเลือกตั้ง 2562 ตนเองได้ออกกฎกระทรวง เพื่อจำแนกผู้ต้องขัง พฤติกรรม และการรักษาพยายาม รวมถึงการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย ภายหลังยังมีนักวิชาการ และกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หรือ กสม. ได้มาหารือถึงการกำหนดสถานที่คุมขังนอกเรือนจำแก่นักโทษ หรือผู้ต้องขัง ซึ่งตนเห็นด้วย จึงได้มอบหมายผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม พิจารณาเรื่องดังกล่าว แต่ยังไม่ทันเสร็จสิ้น ตนเองก็ได้ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีไปแล้ว ซึ่งระเบียบราชทัณฑ์ก็ได้ออกตามมาไม่นานนี้ และมีการพาดพึงถึงตนเองว่า มีการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ต้องขังรายใดรายหนึ่งหรือไม่ พร้อมยืนยันว่า กระบวนดังกล่าวเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมสากล การกำหนดสถานที่คุมขังอื่นที่ไม่ใช่เรือนจำ จึงเป็นเรื่องที่ประเทศสากลดำเนินการ และกฎหมายให้สามารถดำเนินการได้ ตามเกณฑ์จำแนกผู้ต้องขัง
ส่วนนายทักษิณ จะเข้าเกณฑ์ระเบียบกรมราชทัณฑ์ดังกล่าวหรือไม่นั้น นายสมศักดิ์ มองว่า เข้าเกณฑ์ เพราะโทษไม่เกิน 4 ปี และไม่ได้เป็นบุคคลที่อยู่ในข่ายอันตรายของสังคม ไม่ได้เป็นนักโทษฆ่า ข่มขืน ดังนั้น ในระบบสากล จึงสามารถอยู่ในที่คุมขังได้ และมีอัตราโทษเหลือน้อยมาก
นายสมศักดิ์ ยังชี้แจงกรณีที่มีการตั้งข้อสงสัยที่นายสมศักดิ์ได้ย้ายกลับพรรคเพื่อไทย เพราะการดำเนินการระเบียบฉบับนี้ โดยปฏิเสธว่า ไม่ใช่ เพราะหากตนต้องการจะกลับเข้าพรรคเพื่อไทยจริง ๆ ตนเองจะดำเนินการให้เสร็จสิ้น ตั้งแต่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีแล้ว แต่ตนไม่ได้คิด และต้องการให้เป็นไปตามครรลอง ที่มีผู้เห็นความไม่เป็นธรรมในระบบสากล แต่กลับไปเข้าทางของคนที่มีโทษน้อย และไม่ได้เป็นอันตรายต่อสังคม เป็นบุคคลที่เป็นประโยชน์กับสังคม จึงเป็นโอกาสของประเทศ และโชคดีที่มีกรณีสำคัญนี้ ทำให้ประชาชนสนใจ
ส่วนกรณีที่มีการตั้งคำถามถึงระเบียบกรมราชทัณฑ์ใหญ่กว่าคำพิพากษาของศาลหรือไม่นั้น นายสมศักดิ์ ยืนยันว่า ระเบียบดังกล่าวไม่ได้มีอำนาจใหญ่กว่าศาล เพราะการบริหารโทษนั้น มี 5 ประเภทได้แก่ ริบทรัพย์ ปรับ กักขัง จำคุก และประหาร แต่กรมราชทัณฑ์มีเพียงการบริหารโทษจำคุก และประหาร แต่การจำคุกไม่ได้บริหารเฉพาะในเรือนจำเท่านั้น เพราะที่ตนได้ดำเนินการไว้ ครอบคลุมถึงการบริหารโทษ การรักษาพยายาม และการรักษาก่อนปล่อย รวมถึงสถานที่คุมขังด้วย ซึ่งเท่าที่ทราบจะมีนักโทษที่น้อยกว่า 4 ปี เข้าเกณฑ์กว่า 10,000 คน แต่เพียงเหตุการณ์ของนายทักษิณนั้น เกิดมาพ้องต้องกัน และเป็นโอกาสดีที่จะนำกรณีดังกล่าวนี้ มาอธิบายต่อสาธารณะ เพราะเป็นบุคคล VIP และประชาชนให้ความสนใจติดตาม แต่ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการดำเนินการเพื่อเอื้อประโยชน์ให้ใครเป็นการเฉพาะ
สมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงระยะเวลาการรักษาตัวที่โรงพยาบาลของนักโทษว่า ระยะเวลาการรักษาตัวในโรงพยาบาล จะต้องพิจารณาตามความเห็นของแพทย์ และเป็นอำนาจของผู้บัญชาการเรือนจำ ปลัดกระทรวง และรัฐมนตรีตามขั้นตอน และเมื่อพิจารณาตามความเห็นของแพทย์แล้ว ก็พบว่า เป็นเรื่องธรรมดา และในกรณีลักษณะนี้ ในเดือนธันวาคม มีผู้ที่ต้องพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลมากกว่า 30 วันขึ้นไป เกือบ 150 คน ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาก็มีจำนวนมาก แต่ไม่ได้ปิดเผย แต่นายทักษิณ เป็นบุคคลสาธารณะที่สังคมจับจ้อง จึงเป็นข่าว และถือเป็นเรื่องที่ดีมาก เพื่อจะได้ทำความเข้าใจกับสาธารณะ
ส่วนกรณีที่ ทักษิณ ชินวัตร เมื่ออยู่ต่างประเทศมีสุขภาพแข็งแรงมาก แต่เมื่อกลับถึงไทยจะเข้าเรือนจำแล้วกลับป่วยหนักนั้น สมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เห็นว่า ผู้สื่อข่าวไม่เคยถูกจำคุก จึงควรต้องไปลองสัก 2-3 วัน ก็จะทราบว่า ชีวิตจะเครียด เพราะเสียอิสรภาพ สูญเสียสิ่งต่าง ๆ ที่เคยมี จึงต้องลองเข้าสัก 1-2 คืน ก็จะนอนไม่หลับ คนอายุมากความดันขึ้น ป่วย และเป็นความเสี่ยง ผู้บัญชาการเรือนจำ หรืออธิบดี จึงนำไปกักขังในพื้นที่ที่ตนดูแล เพื่อความปลอดภัยของผู้ต้องขัง และผู้ที่ไม่เคยติดคุก จะต้องไปลองสัก 1-2 คืน ก็จะทราบว่า ทำให้เกิดความเครียด และเป็นต้นเหตุของโรคต่าง ๆ ฉะนั้น เมื่อมีระเบียบตามกฎหมายแล้ว ก็ควรดำเนินการให้ครบถ้วน
ส่วนกรณีที่ "พี่โทนี่" พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลใกล้ครบ 120 วันแล้ว มีเพียงสภาวะเครียดอย่างเดียวหรือไม่นั้น นายสมศักดิ์ ย้ำว่า โรคเครียด เป็นต้นเหตุของโรคอื่น ๆ เช่น ความดัน เบาหวาน และจะนอนไม่หลับ เมื่อนอนไม่พอแล้ว ก็จะป่วยโรคอื่น ๆ ต่ออย่างภูมิแพ้ รวมถึงยังมีฝุ่น PM2.5 ด้วย ซึ่งบางวันก็ทำให้ไอ ก็มีโอกาสเป็นไปได้ เพราะปัจจุบัน โรคภัยไข้เจ็บมาก และยิ่งผู้ที่อยู่ในเรือนจำด้วย จึงน่าเห็นใจ
นายสมศักดิ์ ยังย้ำถึงสาเหตุโรคเครียดของนายทักษิณใช่หรือไม่ที่ยังคงทำให้ต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลว่า ไม่สามารถถามเช่นนั้นได้ เพราะตนเพียงยกตัวอย่างว่า โรคเครียด เป็นเหตุให้เกิดโรคอื่น ๆ ได้มากมายตามหลักวิชการ
ส่วนจะมีโอกาสเปิดเผยโรคของนายทักษิณหรือไม่นั้น นายสมศักดิ์ ชี้แจงว่า เป็นหน้าที่ของราชทัณฑ์