svasdssvasds

“เศรษฐา ทวีสิน ” หนักใจเศรษฐกิจไทยปี’67 ลุยแก้ไขค่าไฟแพง ค่าแรงขั้นต่ำ

“เศรษฐา ทวีสิน ” หนักใจเศรษฐกิจไทยปี’67 ลุยแก้ไขค่าไฟแพง ค่าแรงขั้นต่ำ

“เศรษฐา ทวีสิน ” นายกรัฐมนตรีหนักใจเศรษฐกิจไทยปี’67 ไปไม่ถึงฝันตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา พร้อมเดินหน้าแก้ไขปัญหาค่าไฟแพง ค่าแรงขั้นต่ำ ช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน “SUSTAINABILITY FORUM 2024”  ในหัวข้อ “Clean Energy for Thailand Economy through Sustainability” จัดโดย"กรุงเทพธุรกิจ" วันนี้ (13 ธ.ค.) ว่า รัฐบาลได้มีการการเตรียมพร้อมเรื่องพลังงานเป็นเรื่องสำคัญในอนาคตอันใกล้ เพื่อให้อัตราค่าไฟฟ้าที่เหมาะสมและแข่งขันได้ก็เป็นเรื่องที่รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญ

 

ทั้งนี้ค่าไฟฟ้าจะเดินหน้าทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และให้ค่อยเป็นค่อยไป และในงวดใหม่เดือน ม.ค.-เม.ย.2567 ทางนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และรมว.พลังงาน จะผลักดันให้อยู่ที่ระดับ 4.10 บาทต่อหน่วยให้ได้ ซึ่งตัวเลขนี้ตนได้หารือกับนายกุลิศ สมบัติศิริ อดีตปลัดกระทรวงพลังงาน และที่ปรึกษาของนายกฯบอกว่าตัวเลขนี้น่าจะเป็นไปได้ ก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด ซึ่งวันนี้จะมีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่กระทรวงพลังงาน คณะกรรมการกำกับ กิจการพลังงาน ปตท. และ กฟผ.

“เศรษฐา ทวีสิน ” หนักใจ เศรษฐกิจไทยปี’67 ลุยแก้ไขค่าไฟแพง ค่าแรงขึ้นต่ำ

ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี’67 นายเศรษฐา กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยปีหน้าน่าหนักใจ เพราะเศรษฐกิจยังอยู่ในช่วงวิกฤต เรื่องค่าแรงที่ยังต่ำอยู่ ซึ่งมีความห่วงใยเรื่องค่าแรงขั้นต่ำมาตลอด แต่ไม่ได้ห่วงใยเพราะจะกระทบการลงทุน เพราะมองว่าการลงทุนควรให้ความสำคัญในเรื่องของพลังงานสะอาดมากกว่า และยังต้องให้ความสำคัญ เรื่องการเจรจาทางด้าน FTA สนธิสัญญาการค้า เรื่อง Infrastructure Development ต่างๆ เรื่องที่ต้องมี Single Windows Single form ตามชายแดนต่างๆ เพื่อส่งเสริมการค้า และต้องให้ความมั่นใจ ว่ามีบุคลากรแรงงานที่พร้อมที่จะให้ต่างชาติเข้ามาลงทุน

“เศรษฐา ทวีสิน ” หนักใจเศรษฐกิจไทยปี’67 ลุยแก้ไขค่าไฟแพง ค่าแรงขั้นต่ำ

พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ประเทศไทยมีเป้าหมายในการเพิ่มพลังงานสะอาด (Green energy)และพลังงานทดแทน (Renewable Energy) จาก 28% ในปัจจุบันเป็น 50% ของกำลังกา ผลิตไฟฟ้าทั้งหมดของประเทศเพื่อที่จะใช้เป็นเครื่องมือในการดึงดูดการลงทุน ซึ่งขณะนี้บริษัทขนาดใหญ่มีความต้องการที่จะใช้พลังงานพลังงานสะอาดในการผลิตเพื่อจะบรรลุเป้าหมายในการลดคาร์บอนไดออกไซด์ของแต่ละบริษัท

อย่างไรก็ตามปัจจุบันประเทศไทยถือว่ามีความได้เปรียบในเรื่องนี้มากเมื่อเทียบกับทุกประเทศในอาเซียน เพราะเรามีความเสถียรของไฟฟ้าสูงที่สุด มีความพร้อมเรื่องของสายส่งไฟฟ้า และมีความพร้อมในการลงทุนเรื่องพลังงานสะอาดของภาคเอกชน โดยเฉพาะในเรื่องของโซลาร์เซลล์ที่สามารถที่จะทำได้โดยเฉพาะในเรื่องของโซลาร์เซลล์ที่สามารถที่จะทำได้ก่อนทันทีอีกเป็นจำนวนมาก

ส่วนปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ที่เกินค่ามาตรฐานในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ว่า ตนทราบดีและก็เป็นห่วงได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาสั่งการว่าจะทำอย่างไรต่อไป ซึ่งปัญหานี้ก็เกิดขึ้นทุกปีเราไม่ได้นิ่งนอนใจ ก่อนหน้านี้รัฐบาลได้มีการคิกออฟ รณรงค์หยุดเผาป่า แต่ก็ต้องเข้าใจว่าช่วงเวลานี้มีปัญหา PM 2.5 เกินค่ามาตรฐานแต่ก็ย้ำว่าเราไม่ได้นิ่งนอนใจจะหาวิธีการจัดการต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

related