svasdssvasds

เรียนอาชีวะในสหรัฐฯ เป็นที่นิยม : คน Gen ใหม่ เลือกเรียนสายอาชีพ มากขึ้น

เรียนอาชีวะในสหรัฐฯ เป็นที่นิยม : คน Gen ใหม่ เลือกเรียนสายอาชีพ มากขึ้น

เชื่อหรือไม่ รายงาน Human Capital Report 2016 ระบุถึงสัดส่วนของแรงงาน ฝีมือของประเทศสวีเดน, เยอรมนี, สิงคโปร์ และฟินแลนด์ มีค่าเฉลี่ยอยู่ ที่ 48 เปอร์เซ็นต์ หรือเกือบครึ่ง ส่วนส่วนไทยมีเพียง14.4 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น ตัวเลขนี้สะท้อนอะไรบ้าง ?

ตัวเลข ไม่เคยโกหกใครอยู่แล้ว , โดยในแต่ละปี ผู้จบการศึกษาระดับอาชีวศึกษาถือเป็น แรงงานฝีมือ เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานเป็นอย่างมาก แต่ระบบการศึกษาของไทยกลับผลิตออกมาได้น้อย สวนทางกับผู้จบการศึกษาในระดับปริญญาตรีที่ผลิตออกมามากเกินความต้องการ 
.
สถิติเหล่านี้ มันสะท้อนว่า การเรียนสายอาชีพ เพื่อที่จะส่งต่อ ให้เป็น "แรงงาน" อาจยังไม่ได้รับการยอมรับ หรือให้คุณค่าเทียบเท่ากับการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย อันเป็นเป้าหมายอันดับต้นๆ ของผู้ที่อยู่ในระบบการศึกษา ที่มุ่งหวังจะประสบความสำเร็จในชีวิต ได้ทำงานในอาชีพที่ดี 

การเรียนสายอาชีพจึงมักถูกมองว่าเหมาะสำหรับคนที่ไม่มีศักยภาพเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยได้ และภาพนี้ ก็ยังเป็น "ภาพจำ" ของสังคมอยู่ 

ขณะที่ ในภาพของเชิงสังคม อีกหนึ่งภาพจำของเด็กอาชีวะ ที่สำคัญที่สุดเกี่ยวกับนักเรียนอาชีวะในสังคมไทย ก็คือความรุนแรงจากการ ยกพวกตีกัน ของนักเรียนอาชีวะในกรุงเทพและปริมณฑล (ปัญหานี้จะพบได้น้อยกว่าในสถาบันอาชีวะตามต่างจังหวัด) หลายครั้ง สื่อมักประโคมข่าวเหตุการณ์ความรุนแรงของนักเรียนอาชีวะ(ส่วนน้อยที่ก่อความรุนแรง) ให้ดูน่ากลัวเกินจริง และรัฐก็มักจะออกมาตรการควบคุมเด็กอาชีวะอย่างเข้มงวดในแต่ละครั้งที่มีข่าวแล้วก็หายไปเมื่อเรื่องเงียบ วนเวียนซ้ำๆ มาหลายยุคหลายสมัย  หรือแม้กระทั่ง ภาพยนตร์ 4 Kings และ 4 Kings 2 ที่กำลังเป็นกระแส ก็ถูกตราหน้าไปก่อนจากสังคมว่าส่งเสริมความรุนแรง ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว หนังพูดถึงเรื่อง ภาพสะท้อนของคนชั้นล่าง คนชายขอบของสังคมที่ไม่ได้รับการยอมรับ

เรียนอาชีวะในสหรัฐฯ เป็นที่นิยม : คน Gen ใหม่ เลือกเรียนสายอาชีพ มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นในไทย ในประเด็นการเรียนสายอาชีพนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่เดินสวนทางกับที่สหรัฐฯ เพราะ คนเจนฯใหม่ในสหรัฐอเมริกา เลือกอนาคตชีวิต หันมาเรียน ‘สายอาชีพ’ หลังจากตลาดต้องการ ‘แรงงานทักษะฝีมือ’ มากขึ้น

สำหรับ ตลาดการเรียนสายอาชีพ หรือ สายอาชีพ ในสหรัฐฯ ถือว่ามีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะในช่วงหลังจากโควิด-19  

โดย ผู้กำหนดนโยบาย ผู้บริหารวิทยาลัยชุมชน และภาคธุรกิจในหลายท้องถิ่นของสหรัฐฯ ร่วมมือกันทำทุกอย่าง เพื่อผลักดันโครงการริเริ่มที่เน้นด้านการศึกษาสายอาชีพ ตั้งแต่แรงจูงใจด้านค่าเล่าเรียน การฝึกงานที่ได้รับค่าจ้าง ไปจนถึงการฝึกอบรมอาชีพระยะสั้น 

เรียนอาชีวะในสหรัฐฯ เป็นที่นิยม : คน Gen ใหม่ เลือกเรียนสายอาชีพ มากขึ้น

โดยข้อมูล ณ ต้นปี 2022 มีวิทยาลัยชุมชนอยู่ 1,042 แห่งทั่วประเทศ เปิดสอนในหลากหลายสาขาเพื่อตอบสนองความต้องการของนักศึกษา ท่ามกลางปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ที่มีไม่พอต่อความต้องการ

โดย คนรุ่นใหม่ในสหรัฐฯ หันมาเรียน สายอาชีพ มากขึ้น จากตัวเลขสถิติที่บ่งชี้ออกมา ,โดย ศูนย์ข้อมูลกลางนักศึกษาแห่งชาติของสหรัฐฯ (National Student Clearinghouse - NSC) รายงานข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาของนักศึกษาในสหรัฐฯ ชี้ว่า ตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิปี 2021-2022 จำนวนนักศึกษาในมหาวิทยาลัยรัฐที่มีหลักสูตร 4 ปี ลดลงถึง 3.4 เปอร์เซ็นต์ สวนทางกับหลักสูตรสายอาชีพบางหลักสูตรที่เติบโตขึ้นมากถึง 19.3 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

การเรียนการสอนในมหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ กำลังถูกท้าทายจากรูปแบบการแสวงหาความรู้ใหม่ๆ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในภาคธุรกิจและเทคโนโลยี ความรู้และทักษะทางวิชาชีพที่ได้รับจากหลักสูตรมหาวิทยาลัยอาจไม่ตอบโจทย์ ผู้คนจึงเริ่มหันมาเลือกเรียนหลักสูตรสายอาชีพระยะสั้นแทน ซึ่งตอบสนองต่อทั้งผู้เรียนและตลาดแรงงานในขณะนั้น 

ตัวเลขที่ยกมานี้สะท้อนถึงปรากฏการณ์ที่คนรุ่นใหม่ คนเจนฯใหม่ในสหรัฐฯ เริ่มสนใจการศึกษาในระดับอุดมศึกษาน้อยลง  โดยพิสูจน์ได้จากจำนวนนักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียนลดลงอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับหลักสูตรสายอาชีพที่มีผู้เรียนเพิ่มมากขึ้นแทน เพราะหลักสูตรวิชาชีพเสนอการสอนทักษะสำหรับงานเฉพาะด้าน เช่น ช่างไฟฟ้า, ช่างซ่อมรถ, ช่างซ่อมคอมพิวเตอร์ และวิชาสายอาชีพอื่นๆ ซึ่งมีการมองกันว่าการเรียนในลักษณะนี้ ทำให้ผู้เรียนเห็นภาพอนาคตด้านอาชีพชัดเจนกว่าการเรียนในมหาวิทยาลัย

หากจะย้อนไปในอดีต , ในสหรัฐฯ เอง ก็มี ความคิด ผู้คนก็มีค่านิยมดังเช่นอีกหลายประเทศ ที่การเรียนสายอาชีพอาจยังไม่ได้รับการยอมรับ หรือให้ค่าเท่ากับการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย อันเป็นเป้าหมายอันดับแรกๆ ของผู้ที่อยู่ในระบบการศึกษา ที่มุ่งหวังจะประสบความสำเร็จในชีวิต ได้ทำงานในอาชีพที่ดี การเรียนสายอาชีพจึงมักถูกมองว่าเหมาะสำหรับคนที่ไม่มีศักยภาพเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยได้  

แต่สุดท้าย สหรัฐฯ ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ และถือว่า เป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะสำคัญ 

แต่อย่างไรก็ตาม การสร้างสมดุลระหว่างความต้องการของนักศึกษาสายอาชีพและนายจ้างนั้น เป็นศิลปะที่ละเอียดอ่อน เพราะพบว่าบางหลักสูตรเอนเอียงเข้าข้างนายจ้างมากเกินไป และนักศึกษาที่ออกไปทำงานในสถานประกอบการระหว่างเรียนนั้น ก็มักได้ผลประโยชน์เพียงเล็กน้อย หรือแทบไม่ได้เลย ขณะที่ผู้เรียนจบสายอาชีพก็ยังเสี่ยงต่อ ‘งานหนัก-ค่าแรงต่ำ’ ซึ่งผู้จบสายอาชีพในงานที่มีรายได้ต่ำ ก็ยังมีอัตราการเลิกจ้างที่สูงด้วย

ที่มา statista.com stateline.org 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related