กระแสปมร้อน นำเข้า "ตำรวจจีน" มาลาดตระเวนในไทย ดูแลนักท่องเที่ยวจีน รังสิมันต์ โรม-ผบ.ตร. ประสานเสียง ไม่เห็นด้วย เตือนจะกระทบหลายมิติ โดยเฉพาะความมั่นคง รวมถึงอาจละเมิดอธิปไตยไทยด้วย เชื่อตำรวจไทยมีศักยภาพเพียงพอ
จากกรณีที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้หารือมาตรการรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยวร่วมกับ น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในส่วนของตลาดนักท่องเที่ยวจีนนั้น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะได้มีการพูดคุยกับสถานทูตจีนในวันที่ 15 พ.ย. 2566 ที่จะทำโครงการลาดตระเวน โดยจะนำตำรวจจีนมาที่เมืองไทย ในสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นเมืองหลัก ซึ่งโครงการนี้คล้ายกับที่เคยมีการทำในยุโรปแล้ว เช่น อิตาลี
แต่ยังไม่ลงรายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนและเมือง เมื่อโครงการนี้ออกมาจะทำให้เห็นความพร้อมในการยกระดับรับนักท่องเที่ยวในเรื่องความปลอดภัย และมั่นใจว่าโครงการนี้ จะช่วยทำให้ตัวเลขการท่องเที่ยวจีนช่วง 2 เดือนสุดท้าย เป็นไปตามเป้าเดิม ที่กำหนดไว้ที่ 4-4.4 ล้านคน
ส่วนเหตุผลความจำเป็นที่ต้องให้ตำรวจจีนเข้ามาประเทศไทยนั้น เพราะเราต้องการให้ตำรวจจีนเห็นการทำงานของประเทศไทยว่า เรายกระดับเรื่องความปลอดภัยอย่างไรบ้าง ให้เขาเป็นกระบอกเสียงส่งต่อให้กับนักท่องเที่ยวจีน เพราะคนจีนกลัวตำรวจมาก ถ้าตำรวจของเขามา จะสร้างความมั่นใจให้กับเมืองไทย ก็จะช่วยยกระดับความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวจีนอีกขั้นหนึ่ง
หลังกระแสตำรวจจีนที่เกิดขึ้นได้มีการออกมาวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง ทั้งการทำหน้าที่ของตำรวจไทย ที่ต้องนำเข้าตำรวจจีน รวมถึงเรื่องอธิบไตยและศักดิ์ศรีของชาตินั้นๆ
ต่อมาช่วงเย็นวันที่ 13 พฤศจิกายน 2566 นายรังสิมันต์ โรม ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร พาคณะฯ เข้าประชุมร่วมกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เพื่อสอบถามกรณีที่มีกระแสข่าวว่า จะมีการประสานงานให้ตำรวจจีนเข้ามาดูแลนักท่องเที่ยวจีนในประเทศไทย
แนวคิดดังกล่าวไม่มีทางเกิดขึ้น ได้รับการยืนยันแล้วว่า ทุกฝ่ายไม่เห็นด้วย กับการนำตำรวจจีนเข้ามาในราชอาณาจักร เพราะมีผลกระทบในหลายมิติ หากเริ่มต้นนำตำรวจจีนเข้ามาในประเทศไทยในวันนี้ อนาคตก็จะต้องให้ตำรวจจากชาติอื่นๆ เข้ามาด้วย และตำรวจไทยก็จะไม่มีบทบาทหน้าที่อย่างเหมาะสม
จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่เราต้องช่วยกันพัฒนาศักยภาพของตำรวจไทยให้เข้มแข็งมากขึ้น เพื่อให้สามารถดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนรวมถึงนักท่องเที่ยวได้ ส่วนกระแสข่าวที่เกิดขึ้นนั้นเป็นความเข้าใจผิดในการสื่อสาร เพื่อให้เกิดความชัดเจน คณะกรรมาธิการ จะจัดทำหนังสือขอให้รัฐบาลชี้แจงประเด็นดังกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษรอีกครั้ง เพื่อให้เกิดความชัดเจนกับทุกฝ่ายในการปฏิบัติ
ด้าน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ไม่เห็นด้วย กับการนำตำรวจจีนเข้ามาดูแลนักท่องเที่ยวจีนในไทย เพราะเป็นการละเมิดอำนาจอธิปไตยของไทย และตำรวจไทยมีศักยภาพในการดูแลประชาชนและนักท่องเที่ยวเพียงพอ แต่กรณีที่เกิดขึ้นในอิตาลีนั้น เชื่อว่าเกิดจากปัญหาด้านการสื่อสารทางภาษา จึงมีการนำตำรวจจีนมาช่วย
แต่สำหรับประเทศไทยไม่ได้มีปัญหาดังกล่าว ยืนยันว่าแนวคิดดังกล่าวไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะเป็นเรื่องความมั่นคงของประเทศ และยืนยันว่า แนวคิดดังกล่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ได้เป็นผู้เสนอ หรือร้องขอไปยังรัฐบาล เชื่อว่า เป็นความเข้าใจผิดในการสื่อสาร
โดยยอมรับว่าก่อนหน้านี้เคยมีการพูดคุยกันในประเด็นการจัดตั้งศูนย์ประสานงานกับทางการจีน เพราะเมื่อเกิดเหตุอาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับจีน ก็จำเป็นที่จะต้องมีการประสานข้อมูลคนร้ายและข้อมูลคดีกัน และที่ผ่านมา มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีการกำหนดผู้ประสานงาน ซึ่งมักจะเป็นตำรวจจีนที่ดูแลสถานทูตจีนประจำประเทศไทย อาจทำให้เกิดความสับสนขึ้น