ตำรวจลับจีนแฝงตัวทั่วโลก พบในอิตาลีมากที่สุด สถานีลับเหล่านี้ทำหน้าที่เป็น ‘ศูนย์บริการชาวจีนโพ้นทะเล’ เพื่อบังหน้า แต่เบื้องหลังคือคุกคามพวกเขา และบีบบังคับให้กลับประเทศ ส่วนไทยยังไม่พบอย่างเป็นทางการ
จากกรณีที่มีกระแสว่าทางการไทย เตรียมให้ตำรวจจีนมาลาดตระเวนตามเมืองท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อส่งเสริมความปลอดภัย และยกระดับความมั่นใจนักท่องเที่ยวจีนให้สูงขึ้น ทำเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์มากมายเช่น ตำรวจไทยไม่มีคุณภาพใช่ไหม หรือเราเป็นเมืองขึ้นของจีนไปแล้ว ไปจนถึงตั้งคำถามว่านี่คือการชักศึกเข้าบ้านหรือไม่?
เมื่อเรื่องนี้ได้รับความสนใจจากหลายฝ่ายมากขึ้น ทำให้ 'ชัย วัชรงค์' โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ต้องออกมาชี้แจงว่า ไม่ได้มีความตั้งใจให้ตำรวจจีนมาลาดตระเวนในไทย แต่เป็นการให้ตำรวจจีนมาทำงานร่วมกัน เพื่อให้ได้ข้อมูลเบาะแสจีนเทา และฝากว่าขออย่าวิพากษ์วิจารณ์จนเกินเหตุ
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้คงต้องตามดูกันต่อไปว่าจะออกมาแบบไหน และถ้าดึงตำรวจจีนมาร่วมงานจริงๆ จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนให้กลับมาเที่ยวไทยได้มากแค่ไหน
ทั้งนี้ เรื่องที่มีตำรวจจีนออกไปปฏิบัติงานต่างประเทศ เคยเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจระดับโลกมาแล้ว โดยในช่วงปลายปี 2022 หน่วยงานต่างๆ ของชาติตะวันตกออกมาเปิดเผยว่า จีนได้เปิดสถานีตำรวจที่เปิดทำการอย่างผิดกฎหมายกระจายอยู่ 100 แห่งทั่วโลก
เมื่อถูกแฉแบบนี้ ทางการจีนจึงออกมาโต้ว่าสถานีดังกล่าวไม่ได้เป็นของตำรวจ แต่เป็นเพียงศูนย์อำนวยความสะดวกชาวจีนที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศ แต่ Safeguard Defenders องค์กรสิทธิมนุษยชนจากสเปนได้แฉว่า สถานีตำรวจลับเหล่านี้ได้ดำเนินการข่มขู่ชาวจีนในต่างแดนเพื่อปิดปากคนที่เห็นต่างทางการเมือง และบีบบังคับให้พวกเขาเดินทางกลับประเทศอีกด้วย
ทั้งนี้ นานาชาติได้เริ่มทำการปิดสถานีตำรวจลับเหล่านี้ไปหลายแห่งแล้ว โดยในปี 2022 สหรัฐได้ทำการปิดสถานีตำรวจลับใจกลางเมือง ‘นิวยอร์ก’ ที่มีหลักฐานว่าข่มขู่ชาวจีนในสหรัฐที่สนับสนุนประชาธิปไตยซึ่ง แมทธิว โอลเซน อัยการสูงสุดจากแผนกความมั่นคงแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีนี้ว่า "รัฐบาลจีนล้ำเส้นจนไม่สามารถยอมรับได้ และเราต้องปกป้องเสรีภาพของประชาชนที่อยู่ในประเทศเรา ให้รอดพ้นการข่มเหงจากเผด็จการ"
ส่วนประเทศอื่นๆ อย่าง เนเธอร์แลนด์และไอร์แลนด์ได้สั่งปิดตำรวจลับของจีนที่ยืนยันได้หลายแห่งไปแล้ว นอกจากนี้ สาธารณรัฐเช็ก เยอรมนี โปรตุเกส สเปน สวีเดน และสหราชอาณาจักรกำลังดำเนินการเช่นเดียวกัน
แต่ที่น่าสนใจคือกรณีของเยอรมนี เพราะนอกจากจะค้นพบสถานีตำรวจลับจีนใน แฟรงเฟิร์ตแล้ว กระทรวงมหาดไทยของเยอรมันยังเปิดเผยว่าอีกว่า เวียดนามก็เข้ามาปฏิบัติการลักษณะนี้เหมือนกัน โดยจากรายงานระบุว่า มีผู้ลี้ภัยชาวเวียดนามถูกสายลับจากฮานอยลักพาตัวกลางวันแสกๆ เพื่อนำตัวกลับไปรับโทษที่เวียดนาม
ส่วนในทวีปแอฟริกาก็มีรายงานลักษณะนี้เช่นกัน แต่นักข่าวไนจีเรียที่พยายามเปิดโปงเรื่องนี้กับถูกข่มขู่จากกลุ่มปริศนาตลอดเวลา
อย่างไรก็ตาม Safeguard Defenders ได้กระตุ้นให้ “รัฐบาลของนานาประเทศต่างประเทศ ให้ความสำคัญกับปัญหานี้อย่างจริงจัง เนื่องจากไม่เพียงเป็นการปกป้องชาวจีนในต่างแดน แต่ยังเป็นการปกป้องหลักประชาธิปไตยในประเทศตัวเองด้วย”
นอกจากนี้ องค์กร สิทธิมนุษยชนจากสเปนระบุอีกว่า ยังมีสถานีตำรวจลับที่ยังไม่ถูกค้นพบซ่อนอยู่อีกมากในหลายประเทศทั่วโลก และจากข้อมูลเผยว่าระหว่างปี 2021 -2022 ตำรวจลับจีนได้ชักชวนชาวจีนโพ้นให้กลับประเทศสำเร็จมากถึง 230,000 คน
Safeguard Defenders รายงานว่า อิตาลีคือมีสถานีตำรวจลับจีนมากที่สุดในโลก เพราะประเทศนี้เป็นบ้านของพลเมืองจีน 330,000 ตามสถิติปี 2021
ย้อนกลับไปปี 2015 อิตาลีลงนามทวิภาคีกระทรวงความมั่นคงสาธารณะกับจีน ส่งผลให้นับแต่นั้น ตำรวจอิตาลี และจีน ออกลาดตระเวนในเมืองท่องเที่ยวด้วยกัน ทั้งในโรง มิลาน และเมืองอื่นๆ
แต่หลังจากนั้นมีการค้นพบ สถานีตำรวจที่ไม่ได้รับอนุญาต แต่แอบเปิดทำการถึง 11 แห่ง ซึ่งมากที่สุดในบรรดาในชาติยุโรป ที่เฉลี่ยมีแค่ 2-3 แห่งเท่านั้น
โดยสถานีเหล่านี้มีลักษณะข่มขู่พลเมืองจีนที่เห็นต่างทางการเมืองในพื้นที่ เหมือนที่ปรากฏเป็นข่าวทั่วยุโรป ทำให้อิตาลีต้องยกเลิกการเข้านำ "ตำรวจจีน" เข้าประเทศแล้ว
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข่าวว่าพบสถานีตำรวจลับจีนในไทยอย่างเป็นทางการ แต่ที่แน่นอนคือไทยเต็มไปด้วยทุนจีนสีเทามากมายที่ปราบยังไงก็ไม่หมด ทำให้มีโอกาสสูงที่ตำรวจไทยกับตำรวจจีนอาจต้องทำงานร่วมกันจริง ๆ ในอนาคตมากกว่านี้ ซึ่งก็ต้องรอดูกันว่ารัฐบาลไทยจะมีแนวทางอะไรต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สรุปให้ นายกฯ เล็งดึง "ตำรวจจีน" ลาดตระเวนในไทย ปราบจีนสีเทา นทท.จีนอุ่นใจ
เปิดสถิติ "คืนภาษีมูลค่าเพิ่ม" ให้นักท่องเที่ยว 7 ปีย้อนหลัง 1 หมื่นล้านบาท
เจาะเทรนด์ท่องเที่ยว 2567 ชอบไปเที่ยวแบบเซอร์ไพรส์ และฮีลใจลืมแฟนเก่า