หนุมานกองปราบ ซ้อนแผนจับ วีระชาติ รัศมี ลูกเขยชาดา พร้อมพวก เรียกเงินสินบน ผู้รับเหมาก่อสร้างระบบน้ำประปา เหยื่อเปิดพฤติกรรมอิทธิพลมืดคุกคาม กลั่นแกล้งหลังชนะประมูล 2 โครงการ ถูกล็อบบี้ สั่งห้ามร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้างให้ผู้เสียหาย จนไม่สามารถดำเนินงานได้ตามแผน
วันที่ 24 ต.ค. 2566 ชุดปฏิบัติการพิเศษ “หนุมาน กองปราบ” ลุยตรวจค้น 8 จุด ในจ.อุทัยธานี เพื่อกวาดล้างจับกุมขบวนการเจ้าหน้าที่รัฐ เรียกรับเงินสินบน จากผู้ประกอบการทำโครงการก่อสร้างระบบประปา ในพื้นที่ ต.ตลุกดู่ อ.ทัพทัน และ ต.หาดทนง อ.เมือง จ.อุทัยธานี
จากปฏิบัติการดังกล่าว เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ จำนวน 5 ราย โดยแบ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ 3 ราย ประกอบด้วย
ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่ จ.167-169 /2566 ตามลำดับ ลงวันที่ 22 ต.ค. 2566
ในข้อหา “ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงาน เรียกรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดโดยมิชอบ และ ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต”
ส่วนผู้กระทำผิดที่ถูกจับอีก 2 ราย เป็นประชาชนทั่วไป คือ
ในข้อหา“สนับสนุนเจ้าพนักงาน เรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์โดยมิชอบ และ ตามความผิดซึ่งหน้า
โดยจับกุม นายวีระชาติ รัศมีได้ที่บ้านพักไม่มีเลขที่ ต.ตลุกดู่ อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี ส่วน นายธนภัสสร์ กับ นายกุลธัช จับได้ที่ห้องทำงานในเทศบาลตลุกดู่ ขณะที่ นายมานพ และ นายยิ่งยง ถูกจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าธนาคาร ธกส. สาขาเมืองอุทัยธานี พร้อมของกลางเงินสดจำนวน 6 แสนบาท
สืบเนื่องจากได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้เสียหายรายหนึ่ง ซึ่งประกอบกิจการรับเหมาทำบ่อน้ำประปาว่า ก่อนหน้านี้ทางจังหวัดอุทัยธานีได้จัดทำโครงการก่อสร้างระบบท่อน้ำประปา ในพื้นที่ ต.ตะลุกดู่ และ ต.หาดทะนง โดยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการต่างๆได้ยื่นสิทธิ์ในการประมูลผ่านรูปแบบของ e–bidding หรือ วิธีประกวดราคาผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ ผู้เสียหาย จึงสนใจยื่นสิทธิ์เข้าร่วมการประมูลทั้ง 2 แห่ง
ทั้งนี้หลังจากยื่นสิทธิ์เข้าร่วมประมูลได้ไม่นาน ได้มีบุคคลปริศนาโทรศัพท์มาข่มขู่ให้ถอนตัว อ้างว่า มีผู้ใหญ่อยากได้โครงการนี้ไปทำ พร้อมเสนอเงินหลายหมื่นบาท เป็นค่าชดเชย หรือค่าเสียเวลาให้ แต่ทางผู้เสียหายไม่สนใจ จึงตอบปฏิเสธกลับไป พร้อมกับยื่นประมูลตามเดิมจนชนะการประมูลได้รับงานทั้ง 2 โครงการถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมายได้ในที่สุด
อย่างไรก็ตามหลังจากชนะการประมูลได้รับงานก่อสร้างทั้ง 2 โครงการแล้วนั้น ผู้เสียหายกลับไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างได้ เนื่องจากมีกลุ่มอิทธิพลมืดทำการล็อบบี้ สั่งห้ามร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้าง แคมป์ปูนซีเมนต์ทุกแห่งในพื้นที่ จ.อุทัยธานี ขายปูน หรืออุปกรณ์ที่ให้กับผู้เสียหาย จนเกิดปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบในการก่อสร้าง ไม่สามารถดำเนินงานจัดสร้างได้ตามแผนที่วางไว้
กระทั่งประมาณเดือนกันยายน ที่ผ่านมา นายวีระชาติ ได้เรียกผู้เสียหายมาเข้าพบ จำนวน 3 ครั้ง ก่อนยื่นข้อเสนอให้ผู้เสียหาย ยอมจ่ายเงินจำนวน 1 ล้านบาท เพื่อที่จะสามารถดำเนินการก่อสร้างโครงการทั้ง 2 แห่งได้อย่างปกติ ก่อนจะมีการเจรจาต่อรองเหลือ 6 แสนบาท โดยนัดหมายส่งมอบเงินกันในวันนี้ ที่บริเวณด้านหน้าธนาคาร ธกส. สาขา อ.เมือง จ.อุทัย
ตำรวจจึงวางแผนกระจายกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ กระทั่งเมื่อถึงเวลานัดหมาย มีนายมานพ และ นายยิ่งยง เป็นผู้เดินทางมารับเงิน เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม ก่อนนำกำลังขยายผลตามจับกุมตัว นายวีระชาติ และ พวกอีก 2 ราย พร้อมเข้าตรวจค้นบ้านพักของกลุ่มผู้ต้องหาได้ดังกล่าว
สำหรับนายวีระชาติ นั้น เป็นลูกเขยของ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยเป็นสามีของ น.ส.อัลฑริกา ไทยเศรษฐ์ บุตรสาวคนที่ 4 ของ นายชาดา
ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. รรท.ผบก.ทล กล่าวว่า ตำรวจสอบสวนกลาง ให้ความสำคัญกับคดีนี้ ไม่ปล่อยผ่าน มีการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนแน่นหนามากพอที่จะขออำนาจศาลออกหมายจับดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหา ส่วนแนวทางหลังจากนี้ จะมีการขยายผลกวาดล้างผู้มีอิทธิพลให้หมดไปจากพื้นที่
“หลังจับกุมตนได้มีโอกาสพูดคุย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พ่อตาของ นายวีระชาติ หนึ่งในผู้ต้องหา ซึ่งท่านเองก็ไม่ได้ว่า หรือขออะไร เข้าใจกระบวนการ ปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย พร้อมย้ำว่า ก่อนหน้านี้เคยเตือนแล้วว่าถ้าใครไม่หยุดก็ดูแลตัวเองกันไป ท่านก็เข้าใจ
ส่วนการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมดยังยืนกรานปฏิเสธ ขณะที่ในส่วนผู้เสียหาย ตอนนี้พบข้อมูลเพียงรายเดียว แต่หลังจากนี้ต้องขยายผลต่อเนื่องว่ามีผู้ตกเป็นเหยื่อถูกกระทำในลักษณะเดียวกันนี้เพิ่มเติมหรือไม่" พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุ
ขณะที่ พ.ต.อ.ประสงค์ กล่าวว่า สำหรับแผนประทุษกรรมนั้น จากแนวทางสืบสวนทราบว่า ตัวนายวีระชาติ จะทำหน้าที่เป็นผู้สั่งการ แล้วให้ลูกน้องแบ่งหน้าที่กันทำ โดยมี นายธนภัสสร์ กับ นายกุลธัช ทำหน้าที่คอยเกลี้ยกล่อมผู้เสียหาย นายมานพ จะทำหน้าที่เจรจาเรื่องเงิน ส่วนนายยิ่งยง เป็นการจับกุมความผิดซึ่งหน้า หลังพบว่าเดินทางมาพร้อมกับนายมานพ เพื่อมารับเงินจากผู้เสียหาย
ส่วนจะมีการให้ประกันตัวผู้ต้องหาหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างพิจารณา ขณะที่ในส่วนของผู้เสียหายนั้น ทาง ป.ป.ช. ได้รับเข้าสู่โครงการคุ้มครองพยานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง