ส่องดูตัวตนวัฒนธรรมของ อิสราเอล : หน่วยมอสซาด ในโลกภาพยนตร์ , ผ่านหนัง มิวนิค Munich ของ สตีเวน สปีลเบิร์ก , การลักพาตัว อดอล์ฟ ไอช์มันน์ ขึ้นศาล ในหนัง Operation Finale แล้วเกิดอะไรขึ้นกับ Mossad ทำไมไม่อาจหยุดยั้งฮามาสโจมตีแบบสายฟ้าแลบได้
การโจมตีอิสราเอลของกลุ่มฮามาส ในวันที่ 7 ตุลาคม 2566 ถือเป็นเป็นการโจมตีครั้งเลวร้ายสุดในดินแดนอิสราเอล นับตั้งแต่ สงครามยมคิปปูร์ (Yom Kippur) เมื่อปี 1973 หรือเมื่อ 50 ปีที่แล้วเลย เพราะแม้จะมีความพยายามร่วมกัน ชินเบต (Shin Bet) และ มอสซาด (Mossad) ซึ่งเป็นหน่วยข่าวกรองและความมั่นคงของอิสราเอล ที่มีชื่อเสียงทั้งสองแห่ง แต่ก็ไม่อาจต้านทานความรุนแรงได้เลย
การโจมตี-ความสูญเสียนี้ สร้างแผลครั้งใหญ่ให้กับอิสราเอล ไม่เฉพาะชีวิตของประชาชนผู้บริสุทธิ์ แต่ยังรวมถึง ความน่าเชื่อถือ ของมอสซาด ซึ่งสร้างชื่อจากการปฏิบัติภารกิจมาแล้วมากมายทั้งในอิสราเอลและทั่วโลก และทันทีที่ถูกรุกใส่ อิสราเอลก็โต้ตอบทันทีอย่างรุนแรง จน 1 สัปดาห์ผ่านมา มีรายงานการใช้ ฟอสฟอรัสขาวแล้ว แม้ กองทัพอิสราเอลจะยังปฏิเสธก็ตาม
แต่หากเราลองย้อนกลับไปในวันเริ่มต้นของวันปะทะรอบใหม่ ถือเป็นเรื่องน่าแปลกประหลาดใจมากและแทบเป็นไปไม่ได้เลย ที่อิสราเอล จะไม่รู้ล่วงหน้ากับการโจมตีของกลุ่มฮามาสครั้งนี้ แต่ทุกอย่างมันก็ได้เกิดขึ้นแล้ว มีประชาชนที่ถูกจับ ถูกฆ่า ไปแล้ว และคงต้องใช้เวลานานหลายเดือนในการสืบสวนเพื่อปะติดปะต่อสิ่งที่กองกำลังป้องกันของอิสราเอล (IDF) และมอสซาดรู้ แล้วเพราะอะไร ทำไม หน่วย Mossad หน่วยข่าวกรองอิสราเอล จึงยับยั้งไม่ได้
คำถามสำคัญที่ตามมาคือ เกิดอะไรขึ้นกับ มอสซาด (Mossad) หน่วยข่าวกรองอิสราเอล ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหน่วยสืบราชการลับเบอร์ต้นๆ ของโลก แล้วทำไมไม่อาจเบรกกลุ่มฮามาสที่โจมตีทั้งทางอากาศ-ภาคพื้นดินแบบสายฟ้าแลบได้
ก่อนอื่นต้องอธิบายก่อนว่า หน่วย Mossad เป็นภาษาฮีบรู แปลว่า สถาบัน เป็นหน่วยงานด้านข่าวกรองและปฏิบัติการพิเศษของอิสราเอล ก่อตั้งขึ้นในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปลายปี 1949 ในวันที่ 13 ธันวาคม 1949 ในยุคของ เดวิด เบนกูเรียน นายกฯคนแรกของอิสราเอล ที่กำลัง ต้องการหน่วยงานกลางช่วยประสานงานและปรับปรุงความร่วมมือระหว่างหน่วยงานความมั่นคงที่มีอยู่ ได้แก่ หน่วยข่าวกรองทหาร (AMAN), สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ (ชินเบต) และคณะกรมการเมือง (Political Bureau)
เดวิด เบนกูเรียน กล่าวถึงเป้าหมายของมอสซาดในเวลานั้นว่า
“สำหรับอิสราเอล ซึ่งตั้งแต่ก่อตั้งมาก็ถูกศัตรูล้อมโจมตีมาโดยตลอด หน่วยสืบราชการลับถือเป็นแนวป้องกันด่านแรก เพราะอิสราเอลต้องเรียนรู้ให้ดีว่า จะรับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวเราได้อย่างไร”
เดวิด เบนกูเรียน แต่งตั้งที่ปรึกษาหน่วยปฏิบัติการพิเศษกระทรวงการต่างประเทศชื่อ ‘รูเวน ชิโลอาห์’ ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการมอสซาดเป็นคนแรก เพราะชิโลอาห์คนนี้นี่เองที่เป็นผู้เสนอแนวคิดการก่อตั้งมอสซาดกับนายกฯ เบนกูเรียน
มีนาคม 1951 มีการปรับโครงสร้าง มอสซาด Mossad ใหม่อีกครั้ง โดยให้ไปควบรวมอยู่ในสำนักนายกฯ และให้ขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรีอิสราเอลแต่เพียงผู้เดียว โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ใน เทลอาวีฟ มีเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานประมาณ 7,000 ได้รับงบประมาณสนับสนุนประจำปีจากรัฐบาลอยู่ที่ 3,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.11 แสนล้านบาท)
แผนผังโครงสร้างองค์กรและข้อมูลส่วนใหญ่ของ Mossad ถือเป็นความลับ เบื้องต้น สามารถแบ่งเป็น 3 ฝ่ายสำคัญๆ ได้แก่
1. ฝ่ายเก็บรวบรวมข้อมูล ซึ่งถือเป็นแผนกที่ใหญ่ที่สุดของ Mossad รับผิดชอบงานด้านข่าวกรองและข้อมูลต่างๆ ทั่วโลก เครือข่ายและแหล่งข่าวของ Mossad กระจายอยู่ไม่เพียงแต่ในกลุ่มกองกำลังติดอาวุธปาเลสไตน์เท่านั้น แต่ยังแทรกซึมอยู่ในประเทศที่มีท่าทีไม่เป็นมิตรกับอิสราเอล เช่น เลบานอน ซีเรีย และอิหร่าน เครือข่ายสายลับขนาดใหญ่นี้ทำให้รัฐบาลอิสราเอลรับรู้ความเคลื่อนไหวของบรรดากลุ่มกองกำลังติดอาวุธกลุ่มต่างๆ อย่างใกล้ชิด และอาจดำเนินการลอบสังหารคนกลุ่มนี้ได้หากจำเป็น
2. ฝ่ายปฏิบัติการทางการเมืองที่จะคอยประสานความร่วมมือกับหน่วยงานด้านข่าวกรองของบรรดาประเทศพันธมิตร รวมถึงชาติที่อิสราเอลยังไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการด้วย
3. ฝ่ายปฏิบัติการพิเศษ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘เมตซาดา’ (Metzada) ที่จะเป็นหน่วยปฏิบัติการลอบสังหาร ภารกิจช่วยเหลือตัวประกัน รวมถึงการรับมือกับสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงอันตรายต่างๆ ซึ่งอาจกระทบต่อความมั่นคงปลอดภัยของประเทศและประชาชนชาวอิสราเอล
นอกจากนี้ Mossad ยังมีฝ่ายที่รับผิดชอบงานด้านสงครามจิตวิทยา รวมถึงฝ่ายงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ รองรับการดำเนินงานมอสซาด Mossad ในมิติต่างๆ อีกด้วย
ด้วยเครือข่ายองค์กรที่กระจายอยู่ในหลายภูมิภาคทั่วโลก เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานที่มีจำนวนมาก และภารกิจสำคัญต่างๆ ที่ได้รับมอบหมาย ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ Mossad ได้รับเงินสนับสนุนจากภาครัฐเป็นเงินจำนวนมหาศาลต่อปี จนทำให้ Mossad มอสซาด เป็นหน่วยงานด้านข่าวกรองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ในโลกตะวันตก เป็นรองเพียงสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ หรือซีไอเอ (CIA)
สำหรับ หน่วย Mossad มอสซาด ถือว่า เป็นหน่วยข่าวกรอง หน่วยราชการลับที่มีเสน่ห์ในแง่ของการจะหยิบมาเล่าเรื่อง เพราะขึ้นชื่อว่า "สายลับ" SPY แล้ว ยากที่จะเข้าใจบุคลิก ยากที่จะเข้าใจชีวิตของพวกเขา และในเรื่องราวเหตุการณ์โลกที่เกิดขึ้นจริงๆ นั้น , มีเหตุการณ์ครั้งสำคัญของโลก ในยุคที่สงครามเย็นกำลังเข้มข้น , นั่นคือ เหตุการณ์ก่อการร้ายโอลิมปิกมิวนิค คนอิสราเอลดับ 11 ในโอลิมปิก 1972 ที่กรุงมิวนิค เยอรมนี
เหตุการณ์นี้เริ่มต้นขึ้นในวันที่ 5 กันยายน 1972 เมื่อสมาชิกกลุ่ม ‘กันยายนทมิฬ’ (Black September) ซึ่งเป็นขบวนการหนึ่งขององค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์ ซึ่งเป็นคู่ขัดแย้งกับอิสราเอล ได้โจมตีนักฬาอิสราเอลในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่มิวนิก เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และถูกจับเป็นตัวประกันอีก 9 คน ซึ่งต่อมาเสียชีวิตทั้งหมด ในระหว่างการเข้าช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่เยอรมนี โดยเหตุการณ์การก่อการร้ายครั้งนั้น ถูกตีแผ่สดๆ ต่อหน้าคนดูโทรทัศน์กว่า 900 ล้านคนทั่วโลก เพราะมีสื่อมวลชนมาทำข่าวกีฬาโอลิมปิก 1972 ที่มิวนิคจำนวนมาก และนี่คือ เหตุการณ์สุดเศร้าทรมาน ในความทรงจำของกีฬาโอลิมปิกที่ยากจะลบเลือน
‘โกลดา เมียร์’ นายกรัฐมนตรีหญิงเหล็กอิสราเอลเวลานั้น ส่งทีมมอสซาดไปตามล่าผู้เกี่ยวข้อง แต่โชคร้ายที่ปฏิบัติการนี้ได้เกิดความผิดพลาดขึ้น เมื่อทีมมอสซาดได้ไปสังหารบริกรชาวโมร็อกโกในนอร์เวย์ เพราะเข้าใจผิดว่าเป็นหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการของกลุ่มกันยายนทมิฬ สร้างความเสียหายครั้งใหญ่ต่อชื่อเสียงของหน่วยงานนี้
ความรุนแรงและการแก้แค้นครั้งนี้ถูกนำมาถ่ายทอดอีกครั้งในปี 2006 ผ่านภาพยนตร์ Munich ของผู้กำกับมันสมองเพชร และเป็นพ่อมดฮอลลิวู้ด อย่าง สตีเวน สปีลเบิร์ก ที่เจาะลึกประเด็นซับซ้อนของการแก้แค้น ศีลธรรม และความขัดแย้งทางจริยธรรมที่ตัวละครต้องเผชิญ นำเสนอผ่านโครงเรื่องที่น่าติดตาม และได้ชิงรางวัลออสการ์ถึง 5 รางวัล
• ลักพาตัว อดอล์ฟ ไอช์มันน์ ขึ้นศาล กับภาพยนตร์ Netflix : Operation Finale
อีกหนึ่งเรื่องราวที่เป็นผลงานชิ้นเอกของ มอสซาด ก็คือ ลักพาตัว อดอลฟ์ ไอช์มันน์ หนึ่งในทหารชั้นสูงของเยอรมัน ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 , โดยเหตุการณ์ลักพาตัว อดอล์ฟ ไอซ์มันน์ เกิดขึ้นที่อาร์เจนติน่า โดย มอสซาดเก็บงำความลับมาครึ่งศตวรรษ แต่ปี 2012 ก็ตัดสินใจเปิดเผยเรื่องราวการจับกุม ‘อดอลฟ์ ไอช์มันน์’ หนึ่งในผู้กำหนดหลักสังหารหมู่ชาวยิวในในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ย้อนไปเมื่อวันที่ 11 พ.ค. 1960 เจ้าหน้าที่ทีมมอสซาด 7 นาย รออยู่ใกล้สถานีขนส่งบัวโนสไอเรส อาร์เจนติน่า เพื่อดักจับไอช์มันน์ ซึ่งขณะนั้น เขากำลังมีชีวิตใหม่ ห่างไกลจากยุโรป ไอซ์มันน์ทำงานที่โรงงานเมอร์เซเดส-เบนซ์ โดยใช้นามแฝงว่า ‘ริคาร์โด เคลเมนต์’
หลังจากที่เขาลงจากรถบัส ทีมมอสซาดก็กระโดดเข้ารวบตัวเขา โดยมีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งยัดมือเข้าไปในปากของเขา เพื่อตรวจสอบว่ามีไซยาไนด์ซ่อนอยู่ในฟันเพื่อชิงจบชีวิตตัวเองหรือไม่
ไอช์มันน์ถูกควบคุมตัวอยู่ในเซฟเฮาส์ 9 วัน มอสซาดต้องโน้มน้าวใจให้ไอซ์มันน์ยอมไปด้วย ซึ่งมันมีข้อขัดแย้งทางจิตวิทยามากมาย จากนั้นจึงถูกนำตัวขึ้นเครื่องบิน โดยให้แต่งตัวด้วยเครื่องแบบลูกเรือบนเครื่องบิน เข้าไปนั่งในชั้นเฟิร์สคลาส ทำทีเป็นลูกเรือที่กำลังป่วย
การพิจารณาคดีของไอช์มันน์ที่เยรูซาเลมในปีต่อมา เต็มไปด้วยพยานหลักฐานที่ทำให้เห็นถึงความโหดเหี้ยมของแผนกำจัดชาวยิวที่ไอช์มันน์มีส่วนร่วม เขาถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาอาชญากรรมสงครามและอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ และถูกแขวนคอในปี 1962 ซึ่งเรื่องราวนี้ ถ่ายทอดผ่าน ภาพยนตร์ Operation Finale ที่ฉายทาง Netflix และได้นักแสดงชั้นนำ อย่าง ออสการ์ ไอแซค Oscar Isaac , และ เบน คิงส์ลีย์ Ben Kingsley มารับบทเป็นไอช์มันน์
ซีรีส์ The Spy : มอสซาด ที่แทรกซึมในซีเรีย
นอกจากนี้ Netflix ยังสร้าง ซีรีส์ The Spy ในปี 2019 ที่เล่าเรื่องของเอเยนต์หน่วยมอสซาด นามว่า อีไล โคเฮน (Eli Cohen) ซึ่งแทรกซึมเข้าไปปฏิบัติงานในซีเรีย ซึ่งเล่าเหตุการณ์ ช่วงปี 1960 ที่ อิสราเอล กำลังขัดแย้งกับกลุ่มประเทศ อาหรับ
โดยตัวละคร เอลี โคเฮน เสมียนชาวอิสราเอลที่ผันตัวมาเป็นสายลับให้ มอสซาดต้องแฝงตัวเข้าไปในซีเรียเพื่อปฏิบัติภารกิจลับสุดอันตรายที่กินเวลานานหลายปี และชีวิตของสายลับ ไม่เคยพบเจอกับความสบายหรือง่ายดายเลย เพราะต้องเสียสละชีวิตส่วนตัว และแทบจะถูกงานกลืนกินชีวิตไปทั้งหมด
นี่ถือเป็นเพียงกลุ่มเนื้อหาตัวอย่างเล็กๆที่เกี่ยวข้องกับหน่วย มอสซาด ของ อิสราเอล ที่ประสบความสำเร็จ ในเชิงเรื่องราว เรื่องเล่า และ มีเสน่ห์ น่าค้นหา ในความหมายที่แท้จริง
อย่างไรก็ตาม กับเหตุการณ์ ปะทะอิสราเอล-ฮามาส รอบล่าสุด 7 ต.ค. 2023 นั้น ยาคอฟ อาร์มิดรอร์ อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลยอมรับว่า “นี่คือความล้มเหลวครั้งใหญ่ ปฏิบัติการนี้พิสูจน์ให้เห็นว่า ความสามารถด้านข่าวกรองของอิสราเอลในฉนวนกาซาทำได้ไม่ดีเลย...”
ดูเหมือนว่า เรื่องในโลกการละคร โลกของภาพยตร์ เปรียบเทียบกับ สงครามจริงๆ ครั้งนี้ ระหว่าง อิสราเอลกับกลุ่มฮามาส , ผลงานของมอสซาดจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง...
ข่าวที่เกี่ยวข้อง