'กลุ่มแม่บ้านไทยในอิสราเอล' ขอความช่วยเหลือภาคประชาชนตั้งศูนย์อพยพและขับรถบัสไปรับคนไทยในพื้นที่สีแดงมาพักพิงจุดปลอดภัย พร้อมระดมเงินทำอาหารเลี้ยง 'คุณหญิงสุดารัตน์' ต่อสายด่วนให้กำลังใจ-เร่งให้ความช่วยเหลือทั้งในสภาและหาทุน
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วย นายชัชวาล แพทยาไทย สส. ร้อยเอ็ด เขต 7 และนายรัตนมงคล เลิศทวีวิทย์ อดีตผู้สมัคร สส. กทม. วีดิโอคอลพูดคุยกับกลุ่ม ‘แม่บ้านคนไทยในอิสราเอล’ ที่ให้ความช่วยเหลือพี่น้องคนไทยที่อพยพจากพื้นที่สีแดงมายังพื้นที่ปลอดภัยจากการโจมตีของกลุ่มติดอาวุธฮามาสจำนวนกว่า 400 คน ที่พักอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว
โดยกลุ่มนี้เริ่มต้นจากการรวมกันของแม่บ้านไทยในอิสราเอลและพนักงานล่ามแปลภาษาไทย-อิสราเอล ของบริษัทจัดหางานในประเทศอิสราเอล ร่วมมือกับคนอิสราเอล ขอใช้พื้นที่ส่วนกลางของชุมชนในเขตปลอดภัย และตระเวนขับรถบัสไปรับคนไทยที่อยู่ในพื้นที่สีแดงมาอยู่ในศูนย์พักพิง รวมยอดวันที่ 10 ตุลาคม 2566 จำนวน 350 คน และวันที่ 11 ตุลาคม 2566 มีผู้อพยพมาเพิ่มอีก 50 คน โดย 2 คนเสียชีวิตจากการถูกจรวดโจมตี รวมแล้วกว่า 400 คน และจะทยอยไปรับคนไทยในพื้นที่สีแดงอีกอย่างต่อเนื่อง
ล่ามภาษาไทย-อิสราเอลที่มาเป็นอาสาสมัครในศูนย์ เปิดเผยว่า จริงๆ แล้วมีคนไทยในอิสราเอลกว่า 60,000 คน เพราะจำนวนคนไทยที่รัฐบาลเปิดเผยคือคนที่มีวีซ่า แต่ยังไม่รวมแรงงานที่ไม่มีวีซ่าอีกจำนวนมากที่อยู่ในพื้นที่สีแดง และไม่กล้าขอประสานกลับบ้าน ส่วนเรื่องสัญญาณมือถือในจุดที่อพยพยังใช้งานได้ และคนไทยที่ศูนย์ยังสามารถติดต่อกับครอบครัวและญาติได้ว่าตัวเองยังปลอดภัย ขณะที่ความเป็นอยู่ตอนนี้ยังไม่มีปัญหาเพราะกลุ่มแม่บ้านระดมเงินกันเองเพื่อซื้อวัตถุดิบปรุงอาหาร และขอความร่วมมือกับเพื่อนบ้านรอบๆ หมู่บ้าน ทุกเมืองให้ช่วยจัดหาสิ่งที่ต้องการ
ทั้งนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ และ สส. พรรคไทยสร้างไทยได้ให้กำลังใจอาสาสมัครคนไทย ผู้อพยพแรงงานไทย และขอบคุณคนอิสราเอลที่ให้ความช่วยเหลือ พร้อมทั้งประสานระดมเงินช่วยเหลือในระหว่างที่ยังพักอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว และรับเรื่องประสานรัฐบาลเพื่อไปรับคนไทยที่ต้องการกลับบ้าน พร้อมทั้งรับปัญหาของคนไทยที่ไม่มีวีซ่าแต่ต้องการกลับบ้านไปหารือในสภาผู้แทนราษฎร