svasdssvasds

คิกออฟ “กรมเจ้าท่า” ดันคมนาคมทางน้ำ บูมเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว

คิกออฟ “กรมเจ้าท่า” ดันคมนาคมทางน้ำ บูมเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว

การท่องเที่ยว คือ ความหวังกระตุ้นเศรษฐกิจ จึงทำให้ “มนพร เจริญศรี” รมช.คมนาคม เร่งรัดกรมเจ้าท่า ดันคมนาคมทางน้ำ กระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ชูนโยบายแก้กฎหมายให้สอดคล้องการพัฒนา นำเทคโนโลยีขับเคลื่อน ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย ควบคู่ลดมลพิษ

การท่องเที่ยว คือเครื่องยนต์หลักที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในช่วงโค้งสุดท้ายของปี2566 จึงทำให้รัฐบาลต้องเร่งเดินหน้าส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการท่องเที่ยวทางน้ำที่ได้รับความนิยมอย่างมากก่อนหน้าที่โควิด-19 จะระบาด ล่าสุด “ดร.มนพร เจริญศรี” รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ในสัปดาห์นี้จะเข้าพบปะหารือมอบนโยบาย กับข้าราชการ เจ้าหน้าที่ พนักงาน กรมเจ้าท่า ประเด็นสำคัญ คือการพัฒนาเส้นทางคมนาคม ทางน้ำ ที่ยังมีปัญหาอีกหลายด้าน เช่น การเร่งรัดจัดสรรงบประมาณปี 2567 การแก้กฎหมายที่ยังล้าหลัง 

 

เดินหน้าบูมท่องเที่ยวทางน้ำ พร้อมกันนี้จะพร้อมกันนี้มีแผนผลักดันขับเคลื่อนให้กรมเจ้าท่า มีความพร้อมในการทำงานเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ และในการขับเคลื่อนกระตุ้นเศรษฐกิจ คมนาคมขนส่ง การท่องเที่ยวทางน้ำ สำคัญที่สุดในรัฐบาลนายกเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในการเดินหน้าพัฒนาเส้นทางคมนาคมทางน้ำ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ทั้งท่าเรือที่เป็นร่องน้ำเศรษฐกิจ ทั่วประเทศ รวมถึงเส้นทางเดินเรือในพื้นที่ทะเลอันดามัน จะต้องได้รับงบประมาณที่เพียงพอในการขับเคลื่อนการพัฒนา ควบคู่กับการยกระดับผู้ประกอบการเส้นทางคมนาคมขนส่งทางน้ำ ที่จะต้อง รวดเร็ว ปลอดภัย รวมถึงจะต้องมีการเสนอแก้กฎหมายที่ล้าหลัง ให้มีความทันสมัยกับสถานการณ์ปัจจุบัน ที่จะเกิดประโยชน์ในการทำงานของกรมเจ้าท่า

 

ทั้งนี้ในการพัฒนาขับเคลื่อนเศรษฐกิจในเส้นทางคมนาคมทางน้ำ จะต้องได้รับการพัฒนาในมาตรฐานการดูแลความปลอดภัยให้มากขึ้น สร้างความมั่นใจแก่ผู้ใช้บริการ ทั้งผู้ประกอบการ ประชาชน นักท่องเที่ยว โดยจะมีการผลักดันให้มีการนำเทคโนโลยีมาสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ ทั้งการติด ระบบติดตามการเดินเรือ ติดตั้งจีพีเอส ติดตามการเดินเรือ สร้างแอปพลิเคชัน ให้ประชาชนเข้าถึงการบริการ ให้สามารถคำนวณ ตรวจสอบการเดินทาง เชื่อมกับการคมนาคม ทางบก ทางน้ำ ทางรถไฟ ทางอากาศ ที่จะส่งผลดีต่อการวางแผนการเดินทาง

นอกจากนี้ยังต้องมีระบบAI ที่สามารถตรวจสอบ เส้นทางเดินเรือ ระดับน้ำ ไปจนถึงอุปกรณ์ชูชีพ ดูแลความปลอดภัย เรือโดยสาร เรือท่องเที่ยว ทั้งประเทศ ไปจนถึงการสนับสนุน ให้มีการใช้เรือไฟฟ้า เพิ่มมากขึ้น เพื่อลดต้นทุน ลดมลพิษ ในการคมนาคทมขนส่งทางน้ำ ส่วนการสนับสนุนบุคลากร เจ้าหน้าที่ ของหน่วยงาน จะต้องมีการสร้างมาตรฐานในหลักสูตรการเรียนการสอน ของศูนย์ฝึกพาณิชย์นาวี ให้ ลูกหลานเยาวชน มีความสนใจ เข้าถึงมากขึ้น เทียบเท่าสถาบันการศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดัง อีกทั้งทุกพื้นที่สำคัญในการคมนาคมทางน้ำ จะต้องมีการจัดอบรม อาสาวารี ในการสนับสนุนดูแล บริการประชาชน

“เชื่อมั่นว่า โครงการราชรถ ยิ้ม จะเกิดต่อประชาชนสูงสุด ทุกหน่วยงานในสังกัด จะต้องเน้นการบริการประชาชน เป็นหลัก รวมถึง การพัฒนาเศรษฐกิจการท่องเที่ยว และการสร้างมาตรฐานความปลอดภัยทางคมนาคม ทุกภาคส่วน ทุกคนจะต้องมีรอยยิ้มให้กับประชาชนผู้รับบริการ  ลดช่องว่างระหว่างผู้บริหาร ในกระทรวง ทบวงกรม จะต้องสามารถนำเสนอปัญหามายังผู้บริหาร ดำเนินการแก้ไข ได้อย่างรวดเร็ว ทันเวลา ประชาชน จะต้องรับการบริการอย่างทั่วถึง”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related