svasdssvasds

ทำความรู้จัก "ฮานาโกะ" ช้างไทยทูตสันถวไมตรี "ช้างที่โดดเดี่ยวที่สุดในโลก"

ทำความรู้จัก "ฮานาโกะ" ช้างไทยทูตสันถวไมตรี "ช้างที่โดดเดี่ยวที่สุดในโลก"

"ฮานาโกะ" ช้างไทยที่ถูกส่งไปเยียวยาเด็กญี่ปุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่สวนสัตว์อุเอโนะ กรุงโตเกียว หลังเหตุการณ์ที่ฮานาโกะทำให้เจ้าหน้าที่สวนสัตว์เสียชีวิตในช่วงปี พ.ศ.2503 จนต้องถูกจับล่ามโซ่และขังเดี่ยวในคอกคอนกรีต ก่อนล้มลงในวัย 69 ปี

 จากการเปิดเผยของ บล็อกเกอร์ OkZooZoo แห่ง OKnation ได้เล่าประวัติฮานาโกะไว้ตั้งแต่ปี 2552 โดยได้เผยถึงความเป็นมาและชีวิตในสวนสัตว์ของช้างไทยตัวนี้ที่เกิดในไทยแต่ไปสิ้นลมในต่างแดน

 ช้างฮานาโกะอยู่ในสวนสัตว์ที่ญี่ปุ่นนานถึง 2 ชั่วอายุคน คือตั้งแต่รุ่นคุณพ่อเป็นเด็กไปเที่ยวสวนสัตว์ก็เคยเห็น พอมีลูกพาลูกไปสวนสัตว์ ฮานาโกะก็ยังเฉิดฉายให้เห็นแม้จะแก่ชราไปมากแล้วก็ตาม และเรื่องราวของเจ้าหล่อนตัวนี้ก็กระฉ่อนมากในญี่ปุ่น ทั้งเป็นหนังสือให้อ่าน ทั้งกึ่งสารคดีทางทีวีให้ดูก็มี

 ที่ญี่ปุ่น ช้างจัดว่าเป็นสัตว์ที่ผู้คนให้ความชื่นชอบมากเป็นพิเศษช้างไปโผล่ที่ไหนเป็นได้ถูกรุมกรี๊ดกร๊าดปานซุปเปอร์สตาร์เลยทีเดียว น่าจะพอๆ กับบ้านเราที่เห่อหมีแพนด้ากันนั่นแหล่ะย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ไทยได้ส่งช้างไปให้ญี่ปุ่นเพื่อเจริญความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหนึ่งในนั้นคือช้างพังวันดี* ไปถึงญี่ปุ่นตั้งแต่กลางปีพ.ศ. 2478 ตอนนั้นอายุ 18 ปีแล้วพังวันดีไปถึงญี่ปุ่นก็ถูกขนานนามใหม่ว่า "ฮานาโกะ" ฮานะแปลว่าดอกไม้ ส่วนโกะแปลว่าเด็กน้อย ชื่อดูอ่อนหวานน่ารักมาก

 ฮานาโกะโด่งดังมากที่ญี่ปุ่นทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ต่างชื่นชอบฮานาโกะกันทั้งนั้น เพราะญี่ปุ่นไม่มีช้างเป็นสัตว์ประจำถิ่นให้พบเห็น*สำหรับชื่อวันดีนี้ข้าพเจ้าได้ยึดตามข้อมูลของสถานเอกอัคราชทูต ณ โตเกียว แต่ไปอ่านเจอบางข้อมูลเขียนว่า wanli (วัลลี)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• เปิดภาพ "พลายศักดิ์สุรินทร์" กลับไทย ล่าสุด ขึ้นเครื่องบินจากศรีลังกาแล้ว

• วินาทีประวัติศาสตร์! "พลายศักดิ์สุรินทร์” เดินทางถึงสนามบินเชียงใหม่แล้ว

• พลายศักดิ์สุรินทร์พักที่ไหน? ขอเวลา 30 วัน งดเยี่ยมเพื่อให้ฟื้นฟูเต็มที่

 เมื่อพ.ศ.2486 ไม่นานก่อนฮานาโกะจะเสียชีวิตฮานาโกะประจำการอยู่ ณ สวนสัตว์อุเอะโนะที่เมืองหลวงกรุงโตเกียว เป็นขวัญใจชาวประชาได้ไม่กี่ปีก็เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 (พ.ศ.2482 - พ.ศ.2488) ระหว่างสงครามนั้นเองฮานาโกะก็ได้ล้มลง (เสียชีวิต) ในปีพ.ศ.2486 บอกสาเหตุอย่างคลุมเครือว่าล้มเพราะขาดอาหารในสภาวะสงคราม พอฮานาโกะจากไปอย่างไม่หวนกลับ เด็กๆที่โตเกียวก็ร่ำร้องอยากได้ช้างตัวใหม่

 ทางรัฐบาลก็เอาใจเด็กๆโดยติดต่อกับทั้งทางไทยและอินเดียเพื่อขอช้างเชือกใหม่ไปไว้ที่สวนสัตว์ช้างพังคชาจากเมืองไทยอายุ 2 ปี และพังอินทิราจากอินเดีย ทั้งคู่ต่างลงเรือจากคนละที่มุ่งสู่แดนอาทิตย์อุทัย เมื่อปี พ.ศ.2492 ช้างทั้งสองไปถึงก็มีการเฉลิมฉลองรับขวัญช้างกันอย่างเอิกเกริก แต่ดูเหมือนว่าในตอนนั้นพังอินทิราจะได้รับความนิยมมากกว่า

 ภายในสวนสัตว์อุเอะโนะ งานเลี้ยงต้อนรับพังคชาอย่างใหญ่โตตอนแรกๆ ผู้ดูแลชาวญี่ปุ่นเรียกพังคชาว่า คชาโกะ ซึ่งต่อมาทางสวนสัตว์อุเอะโนะจัดโครงการให้ชาวญี่ปุ่นช่วยกันตั้งชื่อให้ใหม่ในภาคภาษาญี่ปุ่นและชาวประชาต่างก็โหวตให้กับชื่อ "ฮานาโกะ" อีกครั้งชื่อเดียวกับช้างตัวเดิมที่จากไปเมื่อครั้งสงครามที่ผ่านมา

 ทั้งนี้ความน่ารักของฮานาโกะน้อยก็เริ่มต้นขึ้นฮานาโกะโชว์ตัวอยู่ที่สวนสัตว์อุเอะโนะได้ 5 ปี(ฮานาโกะ 7 ปี) ก็ย้ายไปที่สวนสัตว์ Inokashira (ยังคงอยู่ในโตเกียว) ที่นี่ในโซนช้างแล้วมีเพียงฮานาโกะเชือกเดียวเป็นดาวเด่นอยู่ยาวนาน

 ช่วงปี พ.ศ. 2520 ฮานาโกะ มีบ้านที่ค่อนข้างสะดวกสบาย เป็นโรงช้างพื้นที่ 260 ตารางเมตร มีพื้นที่หลบแดด และมีเครื่องทำความร้อนสำหรับหน้าหนาว มีบ่อน้ำกลางแจ้ง และลานกว้างให้ฮานาโกะได้เล่นได้ แต่อย่างไรก็ตามช่วงบั้นปลายชีวิตของ ฮานาโกะ กลับตรงกันข้ามและกลายเป็นตำนาน ช้างผู้โดดเดี่ยว ได้รับการเขียนถึงจากสื่อต่างๆ ว่าเป็น The World’s Loneliest Elephant และ World’s Saddest Elephant จากเหตุการณ์ที่ฮานาโกะเคยทำร้ายเจ้าหน้าที่สวนสัตว์เสียชีวิตในช่วงปี พ.ศ.2503 จนต้องถูกจับล่ามโซ่และขังเดี่ยวในคอกคอนกรีตซึ่งถือว่าเป็นการทำร้ายช้างที่มีอุปนิสัยเป็นสัตว์สังคม และเรื่องนี้ก็ถูกเขียนเป็นหนังสือ และสร้างเป็นละครโทรทัศน์ญี่ปุ่นมาแล้ว

 เรื่องราวความโดดเดี่ยวของฮานาโกะ เผยแพร่ในสื่อต่างๆ ทั่วโลก ทั้ง CNN, The Washington Post และ The New York Times พร้อมทั้งช่วยปลุกกระแสพิทักษ์สัตว์ การปรับวิธีการโดยคำนึงถึงเมตตาธรรมในการดูแลช้างในสวนสัตว์ทั่วญี่ปุ่นให้เกิดขึ้น แม้ว่ามันจะเกิดในช่วงโค้งสุดท้ายของชีวิตฮานาโกะก็ตาม แต่องค์กรอย่าง Elephants in Japan และ Zoocheck องค์กรพิทักษ์สัตว์ป่าสากล ก็ได้ช่วยผลักดันให้ช้างเชือกอื่นๆ ได้รับการดูแลอย่างเข้าใจมากขึ้นโดยเฉพาะช้างชราที่ปลดระวางจากการทำงาน หรือช้างในสวนสัตว์นั้นต้องไม่ถูกเลี้ยงอยู่อย่างโดดเดี่ยว

 ชาวญี่ปุ่นก็ต้องมาพบกับเศร้าอีกครั้ง โดยเพจเฟซบุ๊กสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น รายงานว่า เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2559 ฮานาโกะ ช้างไทยอายุ 69 ปีได้ล้มลงแล้ว ณ สวนสัตว์อิโนะคะชิระ ซึ่งสร้างความสะเทือนใจต่อประชาชนชาวไทยและชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก

 ช้างพังฮานาโกะ เป็นช้างไทยที่มีอายุมากที่สุดในญี่ปุ่น โดยเดินทางมาญี่ปุ่นตั้งแต่ปี ค.ศ.1949 เมื่ออายุได้ 2 ปี และถือเป็นช้างเชือกแรกที่เดินทางมาญี่ปุ่นหลังสงครามโลก จึงเป็นที่รักของสาธารณชนญี่ปุ่นตลอดมา และถือได้ว่าเป็นทูตสันถวไมตรีจากประเทศไทยในญี่ปุ่น 

 ทางการญี่ปุ่นได้อนุมัติให้ทำรูปปั้นเท่าตัวจริงของฮานาโกะ สูง 1.5 เมตร เป็นอนุสรณ์แก่ช้างไทยชื่อกระฉ่อนโลกเชือกนี้ ปัจจุบัน รูปปั้นฮานาโกะ ตั้งอยู่ที่หน้าสถานีรถไฟ  คิชิโจจิ (Kishijoji Station) ในเมือง Musashino ชานกรุงโตเกียว

รูปปั้นเท่าตัวจริงของฮานาโกะ

“ช้างฮานาโกะ” ได้ทำหน้าที่ทูตสันถวไมตรี เชื่อมความสัมพันธ์ไทยในญี่ปุ่น นานถึง 67 ปี ซึ่งเดิมช้างฮานาโกะ เกิดเมื่อ พ.ศ. 2490 มีชื่อไทยว่า “คชา” โดย ร.อ.สมหวัง สารสาส ผู้เป็นเจ้าของ ได้นำส่งมายังท่าเรือโกเบ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2492 เพื่อต้องการที่จะปลอบขวัญคนญี่ปุ่นโดยเฉพาะเด็ก ๆ ที่ต้องกลายเป็นกำพร้ากันอย่างมากมาย หลังญี่ปุ่นแพ้สงครามโลก 

 ทั้งนี้ ช้างฮานาโกะถูกเลี้ยงอยู่ที่สวนอุเอโนะ ก่อนจะถูกย้ายไปสวนอิโนคาชิระ จนถึงบั้นปลายชีวิต ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่มีชีวิตอยู่ ฮานาโกะได้ทำหน้าที่ทูตแห่งความรักตนเองได้เป็นอย่างดี ทั้งจุดประกายความหวังให้กับคนในประเทศที่เพิ่งพ่ายแพ้กับสงคราม ทำหน้าที่เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างไทย และญี่ปุ่น ซึ่งคนญี่ปุ่นนั้นให้ความรักและเอ็นดูช้างฮานาโกะอย่างมาก โดยจะมีการจัดงานวันเกิดให้ในช่วงปลายมกราคม หรือต้นกุมภาพันธ์ของทุกปี

ที่มา : OkZooZoo แห่ง OKnation , elephantsinjapan.com

related