svasdssvasds

สงกรานต์ 2566 เจ็บป่วยฉุกเฉินใช้สิทธิ 'บัตรทอง' รักษาได้ทุกโรงพยาบาล

สงกรานต์ 2566 เจ็บป่วยฉุกเฉินใช้สิทธิ 'บัตรทอง' รักษาได้ทุกโรงพยาบาล

เปิดเงื่อนไข เจ็บป่วยฉุกเฉินใช้สิทธิ 'บัตรทอง' ช่วง 'สงกรานต์ 2566' รักษาทุกเหตุ ตามนโยบาย UCEP "เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่" ย้ำเดินทางเที่ยวอย่าลืมพก “บัตรประชาชน”

สงกรานต์ 2566 ที่จะมาถึง สปสช.ห่วงใยประชาชน สิทธิบัตรทองเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ หากเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตถึงแก่ชีวิต เข้ารักษาได้ทุกโรงพยาบาล ที่อยู่ใกล้ ตามนโยบาย UCEP ส่วนกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินแต่ไม่ถึงขั้นวิกฤต แต่จำเป็นต้องรับการรักษา รวมถึงเจ็บป่วยทั่วไปใช้บริการ ปฐมภูมิ 30 บาทรักษาทุกที่ ย้ำเตือนเดินทางอย่าลืมพกบัตรประชาชน

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2566 นี้ ซึ่งเป็นช่วงมีวันหยุดยาวระหว่างวันที่ 13-17 เมษายน 2566 เมื่อรวมวันหยุดราชการเสาร์และอาทิตย์รวมเป็น 5 วัน ประชาชนส่วนหนึ่งจำเป็นต้องเดินทางกลับบ้านหรือเยี่ยมเยียนครอบครัว สปสช.ขอแจ้งผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ “บัตรทอง 30 บาท” หากเจ็บป่วยต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาล ในการเข้ารับบริการแบ่งเป็น 2 กรณี ดังนี้

1.กรณีเจ็บป่วยระดับฉุกเฉินวิกฤติ (สีแดง) หากไม่รักษาทันทีมีโอกาสเสียชีวิตสูง สามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลได้ที่สถานพยาบาลทุกแห่งที่อยู่ใกล้สุดโดยเร็ว เป็นไปตามนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติ มีสิทธิ์ทุกที่ (Universal Coverage for Emergency Patients : UCEP) ของรัฐบาล โดยให้สถานพยาบาลที่ให้การรักษาเบิกค่าใช้จ่ายค่ารักษาจาก สปสช. ตามอัตราที่กำหนด แต่หากไม่แน่ใจว่าอาการเจ็บป่วยฉุกเฉินของตนเป็นระดับวิกฤติหรือไม่ แนะนำให้เข้ารักษาได้ทุกโรงพยาบาลของรัฐที่อยู่ใกล้ที่สุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

2.กรณีเจ็บป่วยที่ไม่ใช่ระดับฉุกเฉินวิกฤติ (สีเหลือง-เขียว) หรือกรณีผู้มีสิทธิบัตรทองที่เดินทางไปต่างถิ่นแล้วมีความจำเป็นต้องเข้ารักษาพยาบาล เช่น มีความดันโลหิตขึ้นสูง ปวดศีรษะมาก เกิดภาวะท้องเสียรุนแรง เจ็บ ไข้ ไอ ปวด ทำแผล ยาหมด เป็นต้น สามารถเข้ารับบริการ “ประชาชนที่เจ็บป่วยไปรับบริการกับหมอประจำครอบครัว ในหน่วยบริการปฐมภูมิที่ไหนก็ได้” หรือ “30 บาทรักษาทุกที่” ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายยกระดับบัตรทอง ที่ได้ขยายบริการทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 โดยสามารถเข้ารับบริการที่หน่วยบริการปฐมภูมิในระบบบัตรทองที่อยู่ใกล้ที่สุด เพียงใช้บัตรประชาชนใบเดียว และไม่ต้องกลับไปรับใบส่งตัวเหมือนในอดีต หรือเข้ารักษาได้ทุกโรงพยาบาลของรัฐที่อยู่ใกล้ที่สุด

“การเข้ารับบริการรักษาพยาบาลในช่วงของการเดินทางอาจเกิดขึ้นได้ ดังนั้นเพื่อความสะดวกในการใช้สิทธิบัตรทอง นอกจากเตรียมบัตรประจำตัวประชาชนที่เป็นหลักฐานสำคัญแล้ว ควรศึกษาข้อมูลหน่วยบริการที่อยู่ในพื้นที่ระหว่างเดินทางและจุดหมายปลายทาง เพื่อเป็นข้อมูลสำคัญในการเข้ารับบริการหากมีเหตุจำเป็น เพื่อความไม่ประมาท ส่วนประชาชนที่เจ็บป่วยด้วยโรคประจำตัวที่ต้องรับประทานยาต่อเนื่อง อาทิ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และหอบหืด เป็นต้น ควรเตรียมพร้อมยารักษาโรคเพื่อให้เพียงพอสำหรับการเดินทางด้วย” เลขาธิการ สปสช. กล่าว

related