น้ำตาคลอคนไทยไม่ลืม "มดดำ คชาภา" พิธีกรฝีปากแซ่บพาเปิดใจกับทุกความรู้สึกของ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ครั้งแรกและครั้งเดียวในรายการ "คุยแหลกแดกดึก"
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ในรายการ คุยแหลกแดกดึก กับ มดดำ คชาภา ตันเจริญ โดยเล่าถึงชีวิตในต่างประเทศว่าทุกวันนี้พยายามไม่ยึดติด แม้ว่าที่ผ่านมาจะต้องใช้ชีวิตที่ห่างจากลูกชาย น้องไปป์ ศุภเสกข์ อมรฉัตร พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ยังให้ความรักและยังไม่ลืมเพราะถือเป็นน้ำหล่อเลี้ยงใจในการใช้ชีวิตในต่างแดน ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปแค่ไหน
เมื่อถามว่าหากยังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่คิดว่าโครงการไหนจะดำเนินการให้สำเร็จ น.ส.ยิ่งลักษณ์ คิดว่าคงเป็นเรื่องของยุทธศาสตร์จังหวัดเพื่อดึงศักยภาพและจุดเด่นของแต่ละจังหวัดมานำเสนอและตอบโจทย์ในระดับประเทศ รวมทั้งโครงการรถไฟความเร็วสูงและนโยบายเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ พร้อมหวังว่ารัฐบาลใหม่จะมาสานต่อนโยบายดี ๆ ในการพัฒนาประเทศ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มดดำ คชาภา แจงข่าวเล่นการเมือง หลังปรากฎตัวเป็นพิธีกร บนเวทีพรรคเพื่อไทย
เพื่อไทย ต้อนรับ "พ่อมดดำ" สุชาติ ตันเจริญ กลับบ้าน มั่นใจแลนด์สไลด์ได้
"อุ๊งอิ๊ง" พร้อมจับมือ ก้าวไกล ยันไม่ยกเลิกมาตรา 112 เตือนอย่าสาดโคลน
น.ส.ยิ่งลักษณ์ บอกว่า วันนี้ตัวเองก็พยายามหาความรู้และศึกษาเทคโนโลยีต่าง ๆ ในปัจจุบันเพื่อให้ก้าวทันเทคโนโลยีของโลกและรู้ถึงวิวัฒนาการในต่างประเทศเพื่อเรียนรู้ ต่อยอดและยังใช้เวลาในการออกกำลังกายเพื่อให้มีความสุขในการใช้ชีวิต
"วันนี้พยายามไม่เศร้า พยายามไม่ทุกข์ แต่จริง ๆ แล้วก็ต้องยอมรับว่าชีวิตไม่มีความสุขหรือความทุกข์อยู่กับเราตลอดไป แต่ที่เห็นหัวเราะมีความสุข เพราะไม่อยากให้ทุกคนเป็นห่วง เพราะไม่งั้นมันจะเป็นความทุกข์ แต่มุมหนึ่งของชีวิตมันก็มีความคิดถึงบ้าน"
ทิ้งท้ายเมื่อถามว่าวันนี้ คุณยิ่งลักษณ์ อยากกลับบ้านหรือยัง คำตอบที่ได้คืออยากกลับบ้าน เพราะถือเป็นบ้านเกิด แต่ยังไม่รู้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับโชคชะตาที่ลิขิตว่าจะกำหนดให้ได้กลับบ้านหรือไม่ แต่วันนี้ต้องอยู่ให้ได้ ต้องปล่อยวางและรอจังหวะเวลาในอนาคต
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวถึงในปัจจุบันที่เยาวชนหันมาสนใจการเมือง และคลิปที่เป็นที่สนใจคือคลิปที่อดีตนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ กล่าวแถลงใช่วงที่สถานการณ์การเมืองในอดีตที่รุนแรงผ่านวลี "ถอยจนไม่รู้จะถอยยังไงแล้ว" ว่าวันนั้นเป็นวันที่พยายามทำทุกอย่าง อะไรที่เป็นเงื่อนไขของความขัดแย้ง พยายามปลดล็อกในสิ่งที่รัฐบาลในขณะนั้นทำได้
แต่ก็ยังมีการออกมาขับไล่อย่างรุนแรง ซึ่งในฐานะที่เป็นคนไทยด้วยกันก็ไม่อยากเห็นภาพความขัดแย้ง ซึ่งในสถานการณ์ขณะนั้นตนเองพยายามเข้มแข็งเท่าที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะทำได้ในการประคับประคองสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนั้น "เราหวังว่าเรายุบสภาแล้วทุกอย่าง ที่เป็นความขัดแย้งก็จะเข้าสู่วิถีทางของประชาธิปไตยในสภาฯ แต่ก็ไม่เป็นไปตามที่มุ่งหวังจนนำไปสู่การรัฐประหาร"
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ย้ำว่าที่ผ่านมาไม่เคยพบกับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แม้จะมีกระแสข่าวดีลลับ พร้อมยืนยันตัวเองมีความชัดเจนว่ารับไม่ได้ในเรื่องของรัฐประหาร ส่วนที่พรรคเพื่อไทยได้รับการเลือกตั้งมาเป็นอันดับที่ 2 ตนในฐานะผู้ชมก็ต้องยอมรับและดีใจที่พรรคเพื่อไทยสนับสนุนพรรค