วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ชี้ หากมุ่งแต่จะเข้าสู่อำนาจ โดยยอมที่จะเสียสัจจะ ยอมผิดคำพูดที่เคยให้คำมั่นไว้กับประชาชน ก็จะถูกบีบให้ทิ้งคำมั่นไปเรื่อยๆ จนในที่สุดประชาชนที่เคยสนับสนุน ก็จะอันตรธานหายไป อีกทั้งยังอาจจะรุมประณามสาปแช่งอีกด้วย
วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส. พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก ชี้ถึงความสำคัญของการรักษาสัจจะที่ให้ไว้กับประชาชน โดยมีรายละเอียดดังนี้
หากเรามุ่งแต่จะเข้าสู่อำนาจ โดยยอมที่จะเสียสัจจะ ยอมผิดคำพูดที่เคยให้คำมั่นไว้กับประชาชน ตามเงื่อนไขที่ 1 ที่ถูกหยิบยกขึ้นมาอ้าง เงื่อนไขที่ 2 , 3 , 4 และเงื่อนไขต่อๆ ไป ก็จะถูกหยิบยกขึ้นตามมา เพื่อบีบให้เรา ต้องทิ้งคำมั่นที่มีต่อประชาชนไปเรื่อยๆ
ในท้ายที่สุด นอกจากจะไม่ได้อำนาจใดๆ แล้ว ประชาชนผู้เป็นเจ้านาย ที่เคยเดินเคียงข้างสนับสนุน ก็จะอันตรธานหายไป แถมยังอาจรุมประณามสาปแช่งเราอีกด้วย
สำหรับการแก้ไข ม.112 ที่หลายท่านมีความกังวล ตนยืนยันว่า การดำเนินการในเรื่องนี้จะต้องเป็นไปด้วยความประณีต รอบคอบ และรับฟังความเห็นจากทุกฝ่ายรอบด้าน และถ้าหากจำเป็นต้องเพิ่มเติมกระบวนการใดๆ และต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้น ตามกลไกของระบบรัฐสภา เพื่อให้เกิดความสบายใจ และความเข้าอกเข้าใจกันของทุกฝ่าย ก็เป็นเรื่องที่สามารถพิจารณาได้ ซึ่งทั้งหมดนี้จำเป็นต้องใช้เวลาในการดำเนินการตามสมควร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"ทูตนอกแถว" แนะ ดึง "ภูมิใจไทย" เข้าร่วม เศรษฐาเป็นนายกฯ พิธาเป็นรองนายกฯ
เปิดโรดแมป “พรรคก้าวไกล” แคมเปญ 2 สมรภูมิเพื่อตั้งรัฐบาลของประชาชน
และจะแก้ไขได้หรือไม่ แก้ไขได้เพียงใด เราก็พร้อมน้อมรับภายใต้กติกาของระบบรัฐสภา จึงไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวล ว่าจะมีการดึงดัน หรือดำเนินการอย่างหุนหันพลันแล่น แต่อย่างใด
วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ระบุต่อไปว่า จริงๆ แล้วเรามีนโยบายสำคัญอีกมากมาย ที่ต้องการเร่งขับเคลื่อน เพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์จากระบบเศรษฐกิจ และทรัพยากรของประเทศโดยเสมอภาคกัน
อาทิ การแก้ไขปัญหาสัมปทานพลังงานเพื่อให้คนไทยได้ใช้ไหฟ้าในราคาที่เป็นธรรม น้ำประปาดื่มได้ การกระจายอำนาจกระจายการลงทุนในท้องถิ่น การกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรม การส่งเสริม SMEs การส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต การกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นในการลงทุนในเรื่องการบริหารจัดการน้ำ
การอุดหนุนเรื่องปุ๋ยซึ่งเป็นปัจจัยการผลิตที่สำคัญ การส่งเสริมวิสาหกิจการเกษตร การแก้ปัญหาหนี้เกษตรกร และหนี้ครัวเรือน การเพิ่มงบอุดหนุนทางการศึกษาเพื่อไม่ให้เด็กหลุดออกนอกระบบการศึกษา
การปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำให้สอดรับกับค่าครองชีพในปัจจุบัน สุราก้าวหน้า การป้องกันการผูกขาดทางการค้า สมรสเท่าเทียม การยกเลิกการเกณฑ์ทหาร การปฏิรูปตำรวจ การปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น ฯลฯ
นโยบายเหล่านี้ ล้วนเป็นนโยบายที่กระทบกับผลประโยชน์ของนายทุนศักดินา และนายทุนในระบบอุปถัมภ์ของอำนาจเผด็จการทั้งสิ้น นี่ต่างหากที่เป็นเหตุผลที่แท้จริงในการขัดขวางการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกล
การแก้ไข ม.112 เป็นหนึ่งใน 300 นโยบาย ที่เราต้องขับเคลื่อน แต่การขับเคลื่อนก็ต้องเป็นไปกาลเทศะที่ควรจะเป็น ไม่ได้เป็นเรื่องที่ต้องเร่งทำอย่างมุทะลุแต่อย่างใด อาจจะเป็นนโยบายที่ดำเนินการหลังนโยบายอื่นๆ ด้วยซ้ำ เพราะต้องวางแผนดำเนินการอย่างรอบคอบ และประณีตที่สุด
"การที่การแก้ไข ม.112 ถูกหยิบยกขึ้นมาโจมตี ให้ประชาชนเข้าใจผิดคิดว่าพรรคก้าวไกลคิดแต่จะแก้ ม.112 อย่างรีบเร่ง และคิดแต่จะแก้ ม.112 อย่างเดียว จึงเป็นความดิ้นรนของกลุ่มทุนศักดินาในเครือข่ายอุปถัมภ์ ที่พยายามจะหยิบยกเรื่องนี้ ขึ้นมาใส่ร้าย
เพื่อขัดขวางการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกล เพื่อปกป้องระบอบอภิสิทธิ์ชน เพื่อให้พวกของตน สามารถที่จะเอารัดเอาเปรียบประชาชน และกินรวบผูกขาดทรัพยากรของประเทศนี้ได้ต่อไป ก็เท่านั้นเอง" วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ระบุ