วิโรจน์ เปาอินทร์ ส.ส. อาวุโสสูงสุด หลังเลือกตั้ง 66 ว่าที่ ประธานสภาชั่วคราว

หลังจาก คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ประกาศรับรองการเลือกตั้ง ส.ส. ในการเลือกตั้ง 2566 ทั้งระบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ 500 คนแล้ว ซึ่งทางสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับ ส.ส. ที่ได้รับเลือกตั้ง ชุดที่ 26 

ทางสภาผู้แทนราษฎร ได้มีการประสานให้ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ซึ่งอยู่ในลำดับที่ 1  ซึ่งเป็นบุคคลที่มีความอาวุโสสูงสุด อายุ 89 ปี ในการเลือกตั้ง 2566  มาทำหน้าที่เป็น ประธานสภาผู้แทนราษฎรชั่วคราว ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรก เพื่อภารกิจเปิดสภาฯ และ โหวตเลือกตำแหน่งประธานสภาฯ ที่แท้จริงต่อไป

สำหรับประวัติของ พล.ต.ท. วิโรจน์ เปาอินทร์ เกิดเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2476 ที่ อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง เป็นบุตรของนายเซ้ง กับนางกี เปาอินทร์

พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ สมรสกับนางวินิจ เปาอินทร์ ผู้พิพากษาสมทบ ศาลเด็กจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีบุตรชายได้แก่ พ.ท.นราวิทย์ เปาอินทร์  

โดย ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ.2566  หรือการเลือกตั้ง 2566  ชื่อของ พลตำรวจโท วิโรจน์ ถูกสปอร์ตไลท์จับจ้อง เพราะว่า พล.ต.ท.วิโรจน์  ได้สมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 1 ซึ่งได้รับการเลือกตั้ง และถือเป็น ส.ส.ที่อาวุโสสูงสุด ในการเลือกตั้งครั้งนี้ และกำลังจะได้ ทำหน้าที่ ประธานสภาฯ ชั่วคราว ตามธรรมเนียม 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• วันนอร์ ชี้ ประธานสภาฯ ควรให้พรรคอันดับ 1 - พิธาแจง ควรกลับไปคุยหลังบ้าน

• เปิด 25 รายชื่อประธานสภาผู้แทนราษฎร มีใครบ้าง ขึ้นดำรงตำแหน่งตอนไหน

• 4 ตัวเต็ง ประธานสภาฯ รัฐบาลก้าวไกล เปิดประวัติ 4 แคนดิเดตประมุขนิติบัญญัติ

ตำแหน่งสำคัญ พล.ต.ท. วิโรจน์ เปาอินทร์ ตามประวัติ

- เคยเป็นอดีตสารวัตรใหญ่สถานีตำรวจนครบาลสำเหร่ 
- อดีตส.ส.อ่างทอง สังกัดพรรคประชากรไทย และพรรคชาติไทย
- กรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน ในคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ(รสช.)

ประวัติงานด้านการเมือง พล.ต.ท. วิโรจน์ เปาอินทร์ 

พล.ต.ท.วิโรจน์ เป่าอินทร์ เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.อ่างทอง เคยสังกัดพรรคประชากรไทย และพรรคชาติไทย ต่อมาได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน ในคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.)

พ.ศ.2535 ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี 2 สมัย คือ รมช.มหาดไทย ในรัฐบาลของ พล.อ.สุจินดา คราประยูร และ พ.ศ.2543 เป็นรองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลของนายชวน หลีกภัย ในปี พ.ศ. 2543

แต่ในการเลือกตั้งในปี พ.ศ.2548 พล.ต.ท.วิโรจน์ กลับพ่ายการเลือกตั้งให้กับน.ส.เพ็ญชิสา หงษ์อุปถัมภ์ไชย ผู้สมัครหน้าใหม่จากพรรคไทยรักไทย
ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2550

พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ลงสมัคร ส.ส. ในระบบสัดส่วนลำดับที่ 5 ของกลุ่มที่ 7 ในสังกัดพรรคพลังประชาชนแต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง

พ.ศ. 2552 พล.ต.ท.วิโรจน์ ได้ร่วมเป็นกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองของรัฐสภา ต่อมาได้เข้าร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย และรับตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค

ในการเลือกตั้ง พ.ศ.2554 ได้ลงสมัคร ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 17 ของพรรคเพื่อไทยด้วย พล.ต.ท.วิโรจน์ ได้ร่วมเป็นกรรมการในคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร โดยดำรงตำแหน่งรองประธานคณะกรรมการคนที่ 4 ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และเป็นประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร

ในเดือน ตุลาคม พ.ศ.2555 ได้รับแต่งตั้งจากกรรมการบริหารพรรคให้ทำหน้าที่รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แทนนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ที่ลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2555 
.
ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2557 เขาได้ ลงสมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 119 (แต่การเลือกตั้งครั้งนั้นเป็น โมฆะ) 

การเลือกตั้งเมื่อปี 2562 พล.ต.ท.วิโรจน์ ลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่1 ของพรรคเพื่อไทย  แต่ปรากฎว่าพรรคเพื่อไทยมีคะแนนมาเป็นลำดับที่1 ด้วยคะแนน 7.4ล้านเสียงเกิดปรากฎการณ์ "ที่เหนือความคาดหมายคนทั้งประเทศ" เพราะเพื่อไทยได้คะแนนเกินคะแนนพึงมีทำให้พรรคเพื่อไทยไม่ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ เลยแม้แต่คนเดียว เพราะระบบการคิดคะแนน "ส.ส.พึงมี" นั่นเอง 

• ประธานสภาฯ ชั่วคราว ใครว่าไม่สำคัญ  ย้อนรอยปี 2562 วัดเกมเก๋า “ประธานสภาชั่วคราว” จาก ปู่ชัย

ทั้งนี้แม้การทำหน้าที่ “ประธานสภาชั่วคราว” จะทำหน้าที่เฉพาะกิจแค่การประชุมครั้งแรกเพื่อเลือกประธานสภาตัวจริง ทว่าด้วย “กลเกม” ในสภาที่เกิดขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมาปฏิเสธไม่ได้ว่า การทำหน้าที่ “ประธานสภาชั่วคราว” ถือเป็นบทบาทที่ต้องจับตา ไม่น้อยเช่นกัน  เพราะหากตัว“ประธานสภาชั่วคราว” ไร้ซึ่งความเก๋าเกม หรือลูกล่อลูกชนในการควบคุมการประชุมแล้ว ก็มิวายที่จะทำให้เกิดเกมป่วน-เกมงัดกันไปมา 

ย้อนกลับไปในการเลือกตั้งครั้งก่อนหน้า เมื่อปี 2562 ครั้งนั้นมี “ปู่ชัย ชิดชอบ” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทยทำหน้าที่เป็นประธานสภาชั่วคราว เพราะอาวุโสสูงที่สุดในสภาฯ  ช่วงเวลานั้นเกิดความวุ่นวายระหว่างที่ "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ซึ่งอยู่ระหว่างหยุดปฏิบัติหน้าที่ส.ส.ระหว่างรอคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญกรณีถือหุ้นสื่อเข้าร่วมประชุมสภา  จนให้ส.ส.ฝั่งรัฐบาลขณะนั้นได้ลุกขึ้นประท้วงการเข้าร่วมประชุมของธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ 

ก่อนที่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จะยกมือขึ้นเพื่อขอขึ้นกล่าวลา แต่นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯ ชั่วคราว ไม่อนุญาต และแจ้งว่าขณะนี้  ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ  ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ตามคำสั่งศาลทันที 

เหตุการณ์ความวุ่นวายได้เกิดขึ้นหลังจากที่ต่างฝ่ายต่างใช้สิทธิประท้วงจนกระทั่งเกิดช็อตประวัติศาสตร์ตามหน้าสื่อมวลชนทั้งไทยและเทศ ซึ่งเป็นภาพที่ธนาธร  โค้งคำนับพร้อมลาที่ประชุมระหว่างหยุดปฏิบัติหน้าที่  จากนั้นสภายังเกิดความวุ่นวายขึ้น หลังเข้าสู่ระเบียบวาระการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร เมื่อ วีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้ยกมือเสนอให้มีการเลื่อนวาระการพิจารณาที่จะเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรออกไปก่อน ท่ามกลางกระแสการเปิดดีลโควตาประธานที่ไม่ลงตัวทำให้พปชร.ต้องเปิดเกมยื้อออกไป

จนเป็นที่ถกเถียงและทำให้สภาต้องลงมติกันว่า เห็นด้วยหรือไม่ที่จะให้เลื่อนวาระการประชุม  ทว่าผลการลงมติปรากฏว่า248ต่อ246 "ไม่เห็นด้วย" ให้มีการเลื่อนวาระ เฉือนกันไปแค่2คะแนน ผลที่ออกมาสะท้อนเกมชิงเหลี่ยมภายในขั้วเดียวกันทั้งพลังประชารัฐที่เกิดเกมหักหลังกันเองในพรรค หรือ ศึกงัดข้อระหว่าง "พลังประชารัฐ " และ "ประชาธิปัตย์" ที่ยืนคำขาดยืนกราน "ชวน หลีกภัย" ต้องได้เป็นประธานสภา

หลัง ส.ส.พลังประชารัฐ หลายคนเสนอขอแก้คะแนนลงมติ โดยอ้างว่า เข้าใจผิดแต่การประท้วงไม่เป็นผล กระทั่ง “ประธาน” ต้องตัดบทเข้าสู่ระเบียบวาระในท้ายที่สุด 

ดังนั้นแม้ “ประธานสภาชั่วคราว” จะทำหน้าที่เฉพาะกิจแค่การประชุมนัดแรก แต่ด้วยสารพัดกลยุทธ และยุทธศาสตร์ต่างๆของแต่ละพรรค ที่อาจเกิดขึ้นในสภาแล้ว การทำหน้าที่ควบคุมเวทีของประธานชั่วคราวถือเป็นบทบาทที่ต้องจับตาอยู่ไม่น้อย