“ภัยคุกคามยังมีรอบด้าน ต้องช่วยกันระวัง ไม่ใช่แข่งกันระแวง” ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แนะ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ต้องรวมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว
“ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” ผอ.ครอบครัวก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านสื่อโซเชียล 8 พรรค ต้องรวมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว ภัยคุกคามยังมีรอบด้าน ต้องช่วยกันระวัง ไม่ใช่แข่งกันระแวง โดยมีรายละเอียดดังนี้
แม้มากด้วยอุปสรรค แต่ถือว่า “การจัดตั้งรัฐบาล” คืบหน้าเป็นลำดับ มีการตั้งคณะทำงานร่วม เวียนกันเป็นเจ้าภาพการประชุม แถลงความคืบหน้าเป็นระยะ และกองเชียร์วงนอกลดพื้นที่การแสดงความเห็นลง คนใน 2 พรรคหลักต้องหนักแน่น เชื่อมั่น ไว้วางใจกันและกัน
เรื่องนี้เป็นงานใหญ่ “คนทำ” ใจต้องใหญ่กว่างาน มีความเคลื่อนไหวในสื่อ หรือใครไปสัมภาษณ์ตรงไหน ควรนิ่งดูให้รอบคอบ มีข้อสงสัยคุยกันภายใน ไม่สร้างพื้นที่วิจารณ์กันผ่านสื่อออฟไลน์ออนไลน์ ภัยคุกคามยังมีรอบด้าน ต้องช่วยกันระวัง ไม่ใช่แข่งกันระแวง
ทั้ง 8 พรรคมีภาระหน้าที่ต่อประชาชน ในการตั้งรัฐบาลประชาธิปไตย มี 312 (เพิ่มหรือลดรอ กกต.รับรอง) จาก 500 ที่นั่ง ถ้าตั้งไม่ได้ไม่ว่าจะด้วยเหตุใด ทุกพรรคย่อมไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบอย่างน้อยก็ส่วนหนึ่ง
คำถามเรื่องอุบัติเหตุการเมือง ยังไม่ถึงเวลาของคำตอบ เพราะยังไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่ อย่างไร และหากเกิดขึ้น 8 พรรคร่วมต้องหารือกัน โดยพรรคแรกที่ต้องแสดงคำตอบว่าจะเดินต่ออย่างไรคือ “ก้าวไกล”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พิธา ย้ำ ไม่ได้เช็กบิล สะสาง 8 ปีประยุทธ์ แต่ต้องการให้เกิดวัฒนธรรมรับผิดชอบ
ปมดราม่าสลับขั้ว ภูมิธรรม แจงเป็นความเข้าใจผิด ย้ำจุดยืนหนุน พิธา เป็นนายกฯ
ทำความรู้จักแนวคิด Neo-Conservative อนุรักษ์นิยมใหม่ คืออะไร ?
หลักคือต้องตั้ง “รัฐบาลประชาธิปไตย” ปล่อยให้ประยุทธ์กับพวกอยู่ต่อไม่ได้ จะบอกว่าพากันไปเป็นฝ่ายค้าน ให้เขาตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย หรือซอยเท้ารอไปเรื่อยๆ จน ส.ว.หมดอำนาจโหวตนายกฯ เราก็ตั้งได้เอง เกรงจะไม่ง่ายเช่นนั้น
ถ้ารวมเสียง ส.ส.เพิ่มไม่ได้ เขาไม่จำเป็นต้องตั้งเสียงข้างน้อย แต่จะอยู่ต่อไปเรื่อยๆ เป็นรัฐบาลเสียงข้างเดียว ถ้า 8 พรรคจะร่วมกันเป็นฝ่ายค้าน ก็ต้องตีความอีกว่า เป็นฝ่ายค้านของใคร เพราะรัฐบาลที่อยู่ต่อไม่ได้มาจากสภาชุดปัจจุบัน
รอจน ส.ว.โหวตนายกฯ ไม่ได้ ก็ไม่มีหลักประกันว่า ให้ประยุทธ์อยู่ต่ออีกเกือบปี แล้วฝ่ายประชาธิปไตยจะยังรักษา 312 เสียงไว้ได้ คนพวกนี้ใช้อำนาจเต็มแน่นอน งบประมาณ แต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ฯลฯ ระหว่างนั้น
กล้วยกับงูจะเจอกัน ของจริงกับของปลอมมีปนกันอยู่ทุกพรรค ฝ่ายเขาขาดอีก 62 เสียง เชื่อว่าจะเดินเกมรวมเสียงตั้งรัฐบาลแข่ง บ้านเมืองจะวุ่นวาย การเมืองถึงทางตัน ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขากังวล เกมนี้พร้อมไปไกลถึงล้มผลเลือกตั้ง
ถูกต้องที่สุดคือให้ “พิธา” เป็นนายกฯ ตามเสียงประชาชน เกมขัดขวางทั้งหลายพอได้แล้ว ใครอยากอยู่ในการเมืองต่อก็สู้กันในเกม ใครยึดอำนาจมาแล้วประชาชนไม่เอาไม่เลือก ควรกลับบ้าน
8 พรรคร่วมต้องจริงใจช่วยกัน ซึ่งเชื่อว่าเป็นเช่นนั้น หากมีเหตุเปลี่ยนแปลง วิธีคิดและการตัดสินใจของพรรค “ก้าวไกล” ในฐานะพรรคอันดับ 1 จะเป็นกุญแจสำคัญในการไขคำตอบของสถานการณ์
ที่มา FB : นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ