"พีระพันธุ์" ขอบคุณประชาชนสนับสนุน รวมไทยสร้างชาติ ยัน บิ๊กตู่ ไม่ทิ้งพรรค

วันที่ 18 พ.ค.2566 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ขอบคุณประชาชน ผู้สนับสนุน ที่ลงคะแนนให้พรรครวมไทยสร้างชาติ และตัวแทนผู้สมัครส.ส.ของพรรค โดยระบุว่า...

ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ผมขอขอบคุณพี่น้องประชาชนในทุกคะแนนเสียงที่มอบให้ รวมทั้งกำลังใจ ความห่วงใย และการสนับสนุนทุกรูปแบบที่มีให้ผมและพรรครวมไทยสร้างชาติตลอดมา ต้องยอมรับว่าการต่อสู้ในเขตเลือกตั้งทุกเขตมีความเข้มข้นและเต็มไปด้วยอุปสรรคขวากหนามนานัปการ แต่การที่ผู้สมัครส.ส.เขตของพรรคสามารถฝ่าด่านเข้ามาได้ถึง 23 คน และได้รับคะแนนเสียงเป็นอันดับสองในอีกหลายๆเขต

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• ประยุทธ์ ขอบคุณทุกคะแนน รทสช. แม้ทำแล้ว ทำอยู่ แต่เสียงไม่พอให้ "ทำต่อ"

• “ปาร์ตี้ลิสต์รวมไทยสร้างชาติ” เช็กรายชื่อ 100 คน ใครรอดผ่านเข้าสภาบ้าง

• พีระพันธ์ ชี้รวมไทยสร้างชาติ พรรคลุงตู่ ต้องยอมรับความเป็นจริง เลือกตั้ง 66

โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร รวมทั้งคะแนนในระบบบัญชีรายชื่อที่พี่น้องประชาชนเลือกพรรครวมไทยสร้างชาติถึง 4,673,691 คะแนน เป็นอันดับสามของประเทศ ทำให้ได้ ส.ส. ในระบบบัญชีรายชื่ออีก 13 คนรวมทั้งสิ้น 36 คนนั้น ก็ต้องถือว่าเป็นความสำเร็จของพรรคที่เพิ่งก่อร่างสร้างตัว และใช้เวลาหาเสียงเสนอแนวทางของพรรคให้พี่น้องประชาชนในระยะเวลาสั้นๆเพียงสี่ห้าเดือน จึงขอให้ทุกท่านที่สนับสนุนพรรคและแนวทางของพรรคมีกำลังใจและมีพลังใจที่จะร่วมกันเดินหน้าต่อไปเพื่อประเทศชาติที่รักของเรา

มีผู้สอบถามเข้ามามาก ถึงแนวทางและจุดยืนของพรรคในทางการเมืองในขณะนี้ ผมขอเรียนว่าพรรครวมไทยสร้างชาติยังคงยึดมั่นในแนวทาง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประโยชน์ของประชาชน ตามเจตนารมณ์และอุดมการณ์ของพรรคเป็นสำคัญ พรรคพร้อมที่จะทำงานการเมืองเพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้าบนแนวทาง เจตนารมณ์ และอุดมการณ์ดังกล่าวอย่างแน่วแน่ มั่นคง และไม่เปลี่ยนแปลง

ที่สำคัญ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะยังคงเดินหน้าทำงานกับพรรคต่อไปในฐานะ “ประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค” เพื่อเสริมสร้างพรรครวมไทยสร้างชาติให้แข็งแกร่งและเป็นพรรคหลักในการปกป้องและค้ำจุนสถาบันหลักทั้งสามของประเทศตามเจตนารมณ์และอุดมการณ์ของพรรค เป็นความหวังในคนไทยทุกรุ่นที่รักชาติรักแผ่นดินในแนวทางเดียวกันต่อไป ขอบคุณครับ”