svasdssvasds

ทำไมรัฐบาลไทย ไม่ผลักดัน Soft Power ไทย เทียบเท่าเหมือนวงการบันเทิงเกาหลี

ทำไมรัฐบาลไทย ไม่ผลักดัน Soft Power ไทย เทียบเท่าเหมือนวงการบันเทิงเกาหลี

คนรุ่นใหม่ถามนักการเมือง วงการบันเทิงเกาหลีมีการผลักดัน Soft Power กันอย่างแข็งขัน ทำไมรัฐบาลไทยไม่ผลักดันแบบนั้นบ้าง นักการเมืองหน้าใหม่จะสนองความต้องการนี้อย่างไร?

วันที่ 28 เมษายน 2566 สปริงนิวส์ร่วมกับโพสต์ทูเดย์ จัดเวที NEW GEN VOTE คนรุ่นใหม่ถาม … นักการเมืองตอบ … เวทีที่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ถามนักการเมืองตัวต่อตัว ถึงนโยบายและแนวทางการพัฒนาและการบริหารประเทศในอนาคตของคนรุ่นใหม่ หากได้เป็นรัฐบาล ณ ลานหน้า หอศิลปกรุงเทพฯ

คนรุ่นใหม่ คุณอันนา ชุนหบดี จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถามว่า ในประเทศเกาหลี วงการบันเทิงเกาหลี มีการผลักดัน Soft Power จะทำอย่างไรให้รัฐบาลไทยมาผลักดัน Soft Power ไทยได้อย่างเต็มที่

คุณอันนา ชุนหบดี จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยคำถามนี้ นักการเมืองที่ต้องตอบคือ ดร.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และรักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย โดยตอบว่า พรรคเพื่อไทยมีนโยบายในการผลักดัน Soft Power มาตั้งแต่ต้น เราเห็นว่าอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ของสังคมไทยมีศักยภาพมาก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดังนั้นเราจึงมีนโยบาย 1 ครอบครัว 1 Soft Power เพื่อเฟ้นหาศักยภาพภายในครัวเรือนเพื่อสร้างการจ้างงาน 20 ล้านตำแหน่ง และมั่นใจได้เลยว่าคนไทยจะต้องมีรายได้ต่อครัวเรือนในปี 2570 ไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท และจะมีศูนย์บ่มเพาะศักยภาพชุมชน ในการเข้าไปอุดหนุนและสนับสนุนเป็นแหล่งเงินทุนที่สร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นดนตรี กีฬา ภาพยนต์ หรืออาหาร

ดร.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย อย่างวงการ K-POP ที่เข้าสู่สังคมไทยได้ เราพบว่า เกือบ 70% ถูกผลักดันโดยรัฐบาลของเขา แต่รัฐบาลของไทยตอนนี้ละเลยที่จะไปเค้นประสิทธิภาพตรงนี้ออกมา ดังนั้น ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลก็จะสามารถเข้าไปสนับสนุนชุมชนได้ด้วย เช่น น้ำพริก O-TOP ผลักดันสินค้าชุมชนสู่สินค้าออนไลน์ ใครขอเงินทุนไปแข่งขันต่างประเทศเราก็จะสนับสนุนให้

ส่วนนักการเมืองคนที่ 2 ที่จะมาตอบคำถามนี้คือ นายพงศกร ขวัญเมือง ผู้สมัคร ส.ส.เขต คลองเตย-วัฒนา พรรคประชาธิปัตย์ โดยได้ตอบคำถามนี้ว่า แค่ดาราเกาหลียกขวดโซจู ก็ทำให้โซจูขายดีได้ละ ดังนั้น สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์อยากผลักดันคือ การเข้าถึงเงินทุน การพัฒนาศักยภาพเรื่องของตลาด และการทำให้พี่น้องทุกคนแสดงศักยภาพของตนเองออกมาได้อย่างเต็มที่

นายพงศกร ขวัญเมือง ผู้สมัคร ส.ส.เขต คลองเตย-วัฒนา พรรคประชาธิปัตย์ อย่างแรกคือการเข้าถึงเงินทุนเพื่อพัฒนาศักยภาพ เมืองไทยมีเงินทุน 300 ล้านบาทต่อปี เราบอกอยากเป็นอย่างเค้า แต่เค้ามีเป็นหมื่นล้านต่อปี สิ่งที่จะทำคือกองทุน SME โดยมีงบให้ สามแสนล้าน

และอย่างที่ 2 การพัฒนาสำหรับคนที่อยากเป็นเจ้าของธุรกิจ หาเงินทุนยาก เราจึงจะมีอีก 1 กองทุน คือกองทุนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ให้อีก หนึ่งหมื่นล้านบาท เพื่อให้คนสามารถเข้าถึงเงินทุน ขยายตลาด และพัฒนาสินค้า

Soft Power ระดับชุมชน ชุมชนไม่สามารถเข้าถึงกองทุน เราก็มีกองทุนชุมชน ชุมชนละ 2,000,000 บาท พัฒนาชุมชน พัฒนาคุณภาพชีวิต และเราจะเป็นเหมือนเกาหลี

related