ก.พลังงาน โต้ "ไฟฟ้าสำรอง" เยอะไม่ใช่การตั้งใจทำค่าไฟแพงให้คนผลิตรวย

นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน ระบุถึงกรณีที่มีนักการเมืองคนหนึ่ง ออกมาบอกว่าไทยใช้ไฟฟ้าแพงเพราะมีการปรับพลังงานไฟฟ้าสำรองเพิ่มมากขึ้น เมื่อเพิ่มมากขึ้นกว่ากำลังการผลิตในประเทศ ก็ต้องซื้อจากต่างประเทศ ว่า สำหรับเรื่องไฟฟ้าสำรองของประเทศ(Reserve margin Capacity) ปัจจุบันเราสำรองไฟฟ้าเกินอัตราที่ใช้จริงที่ 54%

"เราพิจารณาตามการเติบโตทางเศรษฐกิจ เป็นการวางแผนล่วงหน้า ที่ผ่านมามีปัญหาเรื่องโควิด-19 เข้ามาทำให้ พลังงานที่ใช้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งไม่ได้เป็นแค่ไทย แต่เป็นทั่วโลก จึงทำให้สัดส่วนไฟฟ้าสำรองเพิ่มสูงขึ้นทุกประเทศ"

อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง

• ลดค่าน้ำ-ค่าไฟ ผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ อย่าลืมรับสิทธิ์ หมดเขต ก.ย.65 นี้
• ข่าวดี ! ชวนเพื่อนมาสมัคร MEA Point วันนี้ รับโบนัสฟรีทันที 100 Points
• กบง. มีมติลดค่าไฟ เป็นขั้นบันได 15-75% ตามการใช้งาน ต่อถึงสิ้นปี 65

ซึ่งหากคำนวณจากปริมาณที่โรงไฟฟ้าผลิตได้อาจเป็นการเข้าใจผิด ขณะเดียวกันเมื่อย้อนกลับไปมองอัตราการใช้พลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงโควิด-19 ประกอบกับพลังงานทดแทนที่ไม่ได้มีความเสถียรมากนัก เช่น พลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ จึงทำให้ต้องมีการเพิ่มสัดส่วนพลังงานไฟฟ้าสำรอง

อย่างไรก็ตาม นายวัฒนพงษ์ พูดภายในงานแถลงข่าว สถานการณ์ร่วมกับ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและคณะเรื่องสถานการณ์พลังงานภายในประเทศ

ขณะที่ก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุคส่วนตัว ระบุว่า “ปริมาณไฟฟ้าสำรองปัจจุบันมากถึง 54% เป็นการผลักภาระให้ประชาชนจ่ายค่าไฟฟ้าแพง แต่ผู้ขายไฟฟ้ามีกำไรร่ำรวยมหาศาล”

พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า "เพราะเกิดจากสัญญา (ไม่เป็นธรรม) บังคับให้รัฐซื้อจากเอกชนผู้ผลิตไฟฟ้าในราคาสัมปทาน ถึงไม่ใช้ก็ต้องซื้อ ซึ่งรัฐไม่ต้องรับผิดชอบเพราะผลักภาระส่วนเกินให้ประชาชนเป็นผู้เฉลี่ยจ่าย จึงทำให้ค่าไฟฟ้าสูงกว่าความเป็นจริง"