SHORT CUT
นายกฯ ควง รมว.ท่องเที่ยว โชว์วิชั่นส์ IGNITE TOURISM THAILAND ชู 5 กลยุทธ์ดันไทยสู่ศูนย์กลางการท่องเที่ยว - การันตี 3-6 เดือนนี้จะมี World Event ทยอยเปิดตัวในไทย หวังกิจกรรม ''เย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์'' เป็นจุดเริ่มต้นปีแห่งการท่องเที่ยว
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ IGNITE TOURISM THAILAND จุดพลังการท่องเที่ยวไทยด้วยแนวคิด Up Level, Add Story และ Create Value ชู 5 กลยุทธ์ขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ Tourism Hub ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
โดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เปิดเผยด้วยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 1 เมษายน 2567 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ 9,400,000 คน ขยายตัวร้อยละ 42 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 ด้วยเพราะประเทศไทยมีเอกลักษณ์ และคนไทยมีน้ำใจไมตรี ไม่เหมือนชาติใดในโลก พร้อมยังตั้งเป้าหมายรายได้จากการท่องเที่ยวในปีนี้ ให้ได้ถึง 3,500,000 ล้านบาท และยังจะต้องปักหมุดการท่องเที่ยวในปีหน้าให้ปังกว่าเดิม เพื่อพาประเทศไปสู่ความสดใส และความสุข เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว ซึ่งสอดรับกับการขับเคลื่อนสู่เป้าหมาย Thailand’s Aviation Hub ที่จะรองรับผู้เดินทางได้มากถึง 150 ล้านคนต่อปีในปี 2030 และกระทรวงการท่องเที่ยว ยังได้ระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนผ่านเวที Workshop IGNITE Thailand’s Tourism ที่จะจุดพลังอุตสาหกรรมท่องเที่ยวด้วยแนวคิด Up Level ผ่านประสบการณ์ที่เหนือกว่า, Add Story เพิ่มเรื่องราวมากกว่าที่เคยสัมผัส และ Create Value สร้างมูลค่าที่เพิ่มขึ้นจากความเป็นไทย ผ่าน 5 กลยุทธ์หลักมัดใจนักท่องเที่ยวให้ปี 2025 เป็นปีที่นักท่องเที่ยวจะประทับใจในทุกย่างก้าว ได้แก่
การยกระดับประสบการณ์ โปรโมทการท่องเที่ยวไทยในทุกมิติ และสร้างความประทับใจตลอดทริปด้วยการสร้างการรับรู้ และประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทยก่อนการเดินทาง ให้ข้อมูลครบถ้วนหลากหลาย ทำโปรโมชันกับพันธมิตรให้นักท่องเที่ยวเข้าถึงได้ในทุกมิติ และระหว่างการเดินทาง จะให้ข้อมูลสำคัญกับนักท่องเที่ยวตั้งแต่บนเครื่องบิน เพิ่มความรวดเร็วในการให้บริการในสนามบิน และสร้างความประทับใจด้วยมัคคุเทศก์ และผู้นำเที่ยวที่มีมาตรฐาน ความพร้อมผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทุกสถานที่ ตลอดจนสร้างความน่าสนใจของเส้นทางการท่องเที่ยวภายในประเทศ ให้ความสำคัญเรื่องความสะอาดและพร้อมรับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มโดยเฉพาะผู้พิการและผู้สูงอายุ (Tourism for All) และสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงด้วย 1155 Call Center ซึ่งจะเป็น one-stop service เชื่อมต่อตำรวจท้องที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และยกระดับ UCEP (Universal Coverage for Emergency Patients) ในการคุ้มครองผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตให้ครอบคลุมนักท่องเที่ยว โดยภายในระยะเวลา 3 เดือนจะอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวไม่ต้องรอคิวนานที่สนามบิน ยกระดับมาตรฐานโรงแรมทั่วประเทศพร้อมโปรโมชั่นที่พัก เปิดมาตรการ Free Visa ให้หลากหลายประเทศ ยกระดับความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว และดูแลความสะอาดห้องน้ำสาธารณะ และภายในระยะเวลา 6 เดือนจะปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อาทิ การกำหนดประเภทและหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจโรงแรม กฎหมายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การจัดเก็บภาษีนำเข้าที่เกี่ยวข้องกับการจัดกิจกรรมระดับโลกให้แล้วเสร็จ และอำนวยความสะดวกให้มี VAT Refund ในหลายจุด และผ่านตู้ Kiosk รวมถึงสร้างความร่วมมือกับห้างสรรพสินค้า โดยเป้าหมายดังกล่าวข้างต้น ภายใน 3 เดือนนักท่องเที่ยงจะไม่ต้องรอนาน และมีประเทศที่ฟรีวีซ่ามากขึ้น มีแอพลิเคชั่นสำหรับนักท่องเที่ยว ปรับกรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น
การชูเอกลักษณ์ไทย หรือ เสน่ห์ไทย ด้วยการนำเสนอเรื่องราว และเพิ่มมูลค่าด้วยการนำจุดแข็งทางธรรมชาติ และวัฒนธรรมมาเป็นจุดขาย ได้แก่ Must Beat มวยไทย เปิดประสบการณ์แม่ไม้มวยไทย 4 ภาค และต่อยอดมวยไทยสู่การออกกำลังกายแบบ Cardio ในฟิตเนส, Must Eat อาหารไทย ต่อยอดครัวไทยสู่ครัวโลก พร้อมนำเสนอ 77 อาหารถิ่น 77 ขนมไทย ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของคนในแต่ละพื้นที่, Must Seek วัฒนธรรมไทย สร้าง Story บนเส้นทางศรัทธา เพื่อดึงดูดความสนใจ รวมถึงวัฒนธรรมสายมูที่กำลังโด่งดัง เช่น การสักยันต์ , Must Buy ผ้าไทย ร่วม Co-branding กับแฟชั่นดีไซเนอร์ระดับโลก ให้ผ้าไทยเป็น Fashion Item ที่ทุกคนหลงใหล และ Must See โชว์ไทย นำเสนอทั้งรูปแบบไทยและ Thai Contemporary ให้เป็นที่ประทับใจของคนทั่วโลก เช่น โขน, อาคาซ่า, คาบาเร่โชว์
เมืองหลัก และเมืองน่าเที่ยว เชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยวจากเมืองหลักสู่เมืองใกล้เคียง กระจายนักท่องเที่ยวไปสู่ภูมิภาคต่าง ๆ พร้อมทั้งกระจายรายได้สู่เมืองน่าเที่ยว อาทิ เส้นทาง Lanna Culture เชียงใหม่ - ลำพูน – ลำปาง ซึ่งเป็นเส้นทางท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ อารยธรรมล้านนา นำเสนอศิลปะ วัฒนธรรม วิถีชีวิตและประเพณีที่ถ่ายทอดผ่านสถาปัตยกรรม โบราณสถาน, เส้นทาง UNESCO Heritage Trail มรดกไทย มรดกโลก ผ่านเส้นทางสุโขทัย-กำแพงเพชร และ นครราชสีมา, เส้นทาง NAGA Legacy นครพนม สกลนคร บึงกาฬ ตามรอยตำนานศรัทธาพญานาค, Paradise Islands ตรัง-สตูล หมู่เกาะแห่งอันดามันใต้ สวรรค์แห่งท้องทะเล, The Wonder of Deep South ปัตตานี - ยะลา - นราธิวาส ใต้สุดแห่งสยาม มนต์เสน่ห์แห่งพหุวัฒนธรรม โดยจะต้องจัดเตรียมความพร้อม Upgrade ที่พักให้มีความสะดวกสบาย และร้านอาหารที่ได้มาตรฐาน, Update แพ็คเกจการเดินทางและโปรโมชันให้ตอบโจทย์ทุกเส้นทาง ตลอดจน Accommodate เส้นทางในการเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยว เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่
Hub of ASEAN - เปิดประตูการท่องเที่ยวสู่อาเซียนให้สามารถเชื่อมโยงการเดินทางกับประเทศเพื่อนบ้านพันธมิตรให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานให้การเดินทางท่องเที่ยวเป็นไปอย่างไร้รอยต่อ ให้อาเซียนเป็น Single Destination ด้วย ASEAN Pass จากความร่วมมือของพันธมิตรสายการบินในการออกแพ็คเกจตั๋วเครื่องบินให้นักท่องเที่ยวเดินทางเชื่อมต่อไปประเทศอาเซียน ด้วยความสะดวกสบาย ประหยัด และ Cross Border QR Payment อำนวยความสะดวกเรื่องช่องทางการชำระเงินให้นักท่องเที่ยวสามารถใช้จ่ายได้อย่างสะดวกสบาย
World Class Event Hub ให้เมืองไทยเป็นศูนย์รวม World Class Experience จากการนำ Event ระดับโลกเข้ามาจัดแสดงในประเทศ ทั้งด้านดนตรี กีฬา อาหาร และไลฟ์สไตล์ อาทิ Summer Sonic Bangkok 2024, KAWS Arts, Moto GP, Volleyball World Championship เป็นต้น เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว สร้างรายได้และชื่อเสียงให้กับประเทศ
โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มั่นใจว่า 5 กลยุทธ์ข้างต้น จะช่วยจุดพลังอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย “IGNITE TOURISM THAILAND” สู่ Tourism Hub ให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามากขึ้น พำนักในประเทศไทยนานขึ้น และใช้จ่ายมากขึ้น ให้ประเทศไทยเป็นที่หนึ่งของการท่องเที่ยว ด้วยความร่วมมือร่วมใจจากคนไทยทุกภาคส่วน
ขณะที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้แสดงวิสัยทัศน์ IGNITE TOURISM THAILAND จุดพลังการท่องเที่ยวไทยด้วยแนวคิด Up Level, Add Story และ Create Value ชู 5 กลยุทธ์ขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ Tourism Hub ซึ่งก่อนที่นายกรัฐมนตรี จะแสดงวิสัยทัศน์นั้น ได้อุทาน WOW! ต่อ 5 กลยุทธ์ขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ศนย์กลางการท่องเที่ยวดังกล่าว พร้อมระบุว่า รู้สึกภาคภูมิใจที่เกิดเป็นคนไทย ที่จะใช้ประเทศไทย เป็นเวทีต้อนรับแขกผู้มาเยือนจากทั่วโลก ซึ่งหวังว่า จะได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนของไทย เพื่อผนึกกำลังทำให้การ IGNITE Thailand ที่มีการท่องเที่ยว เป็นองค์ประกอบ 1 ใน 8 องค์ประกอบ ซึ่งเป็นจิ๊วซอว์สำคัญให้ประเทศไทยได้พร้อมต้อนรับท่องเที่ยวจากทั่วโลก ผ่าน 5 กลยุทธ์สำคัญ และเมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางมาถึงประเทศแล้ว จนถึงก้าวสุดท้ายก่อนเดินทางกลับด้วยความประทับใจ พร้อมมั่นใจว่า ภายในระยะ 3-6 เดือนข้างหน้า จะมี World Event ทยอยมาเปิดตัวในประเทศไทยต่อเนื่อง รวมถึงประเทศไทยเป็นผู้นำในแถบ CLMV จึงพร้อมเป็นตัวเชื่อมศูนย์กลางการท่องเที่ยว 5 Country 1 Destination ยกระดับอาเซียนไปสู่ระดับโลกให้ได้
นายกรัฐมนตรี ขอย้ำว่า ขอให้ทุกหน่วยงานรัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ทำงานไปด้วยกัน ทำให้นักท่องเที่ยวมีความสุข ปลอดภัย เพื่อให้กลับมาท่องเที่ยวอีก พร้อมเชิญชวนเทศกาลเย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์ ที่จะเริ่มต้นขึ้น ซึ่งเป็นกิจกรรมแรก ๆ ที่จะเกิดขึ้น และเป็นนิมิตหมายอันดี จึงขอให้เป็นการเริ่มต้นปีแห่งการท่องเที่ยวที่ยิ่งใหญ่ของไทย
สำหรับการแสดงวิสัยทัศน์ IGNITE TOURISM THAILAND จุดพลังการท่องเที่ยวไทยด้วยแนวคิด Up Level, Add Story และ Create Value ชู 5 กลยุทธ์ขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ Tourism Hub ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ในวันนี้ (2 เม.ย.) มีรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง รวมถึงยังมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยในฐานะประธานคณะกรรมการพันาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เข้าร่วมชมนิทรรศการบริเวณโถงตึกสันติไมตรีฯ ด้วย