รายงานการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 ยืนยัน บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ยังทำธุรกิจสื่อ 5 ปีที่ผ่านมามีกำไรต่อเนื่อง ล่าสุดปี 2565 กวาดรายได้เกือบ 20 ล้านบาท
จากประเด็นร้อนทางการเมือง ก่อนการ เลือกตั้ง 2566 เมื่อ นาย เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ผู้สมัคร ส.ส. ปาร์ตี้ลิสต์ พลังประชารัฐ เข้ายื่นหนังสือต่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในวันที่ 10 พ.ค.2566 โดย ขอให้ตรวจสอบว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ว่าเข้าข่ายมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3)
โดยนาย เรืองไกร ได้โชว์เอกสารจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ข้อมูลเมื่อ 7 เม.ย. 2566 พบว่า “พิธา” ยังคงเป็นผู้ถือหุ้น ITV ของบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ในลำดับที่ 6,121 เลขทะเบียนผู้ถือหลักทรัพย์ 4030954168 ที่อยู่ 98/26 อาคารซิลเวอร์เฮอริเทจ ซ.สุขุมวิท 38 ถ.สุขุมวิท พระโขนง คลองเตย 10110 สัญชาติ ไทย จำนวน 42,000 หุ้น
"จึงทำให้หลายคนสงสัยว่าแท้จริงแล้ว (ITV) ไอทีวี สื่อยักษ์ใหญ่ในตำนานยังดำเนินธุรกิจอยู่หรือไม่?"
ขณะที่นาย อนุพงษ์ ไชยฤทธิ์ รองผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือ ThaiPBS ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เกี่ยวกับสรุปสาระสำคัญภาพรวมการประกอบธุรกิจของ ITV ดังนี้
1. หยุดประกอบกิจการสถานีโทรทัศน์ไอทีวีตั้งแต่ 24.00 น.วันที่ 7 มีนาคม 2550 สืบเนื่องจากการบอกเลิกสัญญาร่วมงานของสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
2. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย delist ถอดหุ้นไอทีวีจากการซื้อขายตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.2557
3.ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการฟ้องร้องพิพาททางกฏหมายกับสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สืบเนื่องจากกรณีที่อนุญาโตตุลาการวินิจฉัยชี้ขาดว่า
-การบอกเลิกสัญญาของ สปน. ไม่ชอบด้วยกฏหมาย
-ให้ สปน.ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 2,890 ล้านบาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ถือหุ้น ITV ปมร้อน ผิดจริงหรือไม่ ซ้ำรอยธนาธร อีกครั้ง ?
"เรืองไกร" ร้อง กกต.สอบ "พิธา" ถือหุ้น ITV พร้อมยื่น ป.ป.ช. สอบปมซุกหุ้น
พิธา หัวหน้าก้าวไกล เมินถูกร้องถือหุ้น ITV ชี้ถูกร้องเพราะต้องการดิสเครดิต
3.1 ต่อมา สปน.ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองขอให้เพิกถอนคำวินิจฉัยชี้ขาดของอาุญาโตตุลาการ ซึ่งศาลปกครองมีคำสั่งยกคำร้องของ สปน.
3.2 มกราคม 2564 สปน.ยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาลปกครองกลาง ต่อศาลปกครองสูงสุด คดีอยู่ระหว่างการพิจารณา
4.ปีบัญชี 2565 ไอทีวี มีรายได้จากการลงทุนและดอกเบี้ยรับ 20.5 ล้านบาท (ผลตอบแทนจากตราสารหนี้และตราสารทุน) กำไรสุทธิ 8.5 ล้านบาท
5.ไอทีวี มีบริษัทย่อย 1 บริษัท คือบ.อาร์ตแวร์มีเดีย ให้เช่าอุปกรณืผลืตรายการวิทยุโทรทัศน์ ผลิตรายการโทรทัศน์ ซื้อขายลิขสิทธิ์ภาพยนต์และรายการโทรทัศน์ และกิจกรรมการตลาดอื่นๆ สถานะปัจจุบันของบริษัท คือ หยุดประกอบกิจการ
6.กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ที่โดยพฤติการณ์มีอิทธิพบต่อการกำหนดนโยบายและการดำเนนิงานบ.ไอทีวีในปัจจุบัน คือบ.อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)
7.การรักษาสถานะความเป็นนิติบุคคลของบ.ไอทีวี เพื่อดำเนินการฟ้องร้องกับสปน. (ความเห็นผู้เขียน)
หมายเหตุ ข้อ 7 เป็นความเห็นส่วนตัว / ส่วนข้อ 1-6 เป็นข้อมูลจากรายงานประจำปี 2565 ของ ITV
อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของ บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ล่าสุดพบว่า ในรายงานการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 มีการสอบถามว่า บริษัท ไอทีวี มีการดำเนินงานเกี่ยวกับสื่อหรือไม่ โดยทางบริษัทได้ตอบในที่ประชุมว่า ปัจจุบันบริษัทยังดำเนินกิจการอยู่ ตามวัตถุประสงค์ของบริษัท และมีการส่งงบการเงินและยื่นแบบภาษีเงินได้นิติบุคคลตามปกติ
จากการตรวจสอบงบการเงินนำส่งของบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ย้อนหลังช่วง 5 ปี จากฐานข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์พบข้อมูลทางด้านการเงินที่น่าสนใจดังนี้
งบการเงิน ปี 2561
บริษัทมีสินทรัพย์รวม 1,229,972,674 บาท และหนี้สินรวม 2,893,648,122บาท ส่วนรายได้รวมมีด้วยกันทั้งสิ้น 31,079,875 บาท ขณะที่ รายจ่ายรวม 8,881,477 บาท โดยมีการจ่ายภาษีเงินได้ 4,448,229 บาท และผลประกอบการมีกำไรสุทธิ 17,747,269 บาท
งบการเงิน ปี 2562
บริษัทมีสินทรัพย์รวม 1,256,488,582 บาท ส่วนหนี้สินรวม 2,895,067,295 บาท โดยมีรายได้รวม 28,034,734 บาท และรายจ่ายรวม 8,726,135 บาท โดยมีการจ่ายภาษีเงินได้ 3,920,011 บาท และผลประกอบการมีกำไรสุทธิ 15,385,413 บาท
งบการเงิน ปี 2563
บริษัทมีสินทรัพย์รวม 1,266,498,457 บาท มีหนี้สินรวม 2,894,724,231 บาท โดยมีรายได้รวม 27,752,826 บาท และรายจ่ายรวม 18,106,309 บาท โดยจ่ายภาษีเงินได้ 1,977,287 บาท และผลประกอบการมีกำไรสุทธิ 7,652,665 บาท
งบการเงิน ปี 2564
บริษัทมีสินทรัพย์รวม 1,270,457,704 บาท เพิ่มขึ้นสูงสุด มีหนี้สินรวม 2,894,513,831 บาท โดยมีรายได้รวม 22,993,678 บาท และรายจ่ายรวม 10,248,139 บาท จ่ายภาษีเงินได้ 2,556,611 บาท และผลประกอบการมีกำไรสุทธิ 10,177,063 บาท
งบการเงิน ปี 2565
ซึ่งเป็นปีล่าสุดบริษัทมีสินทรัพย์รวม 1,266,191,686 บาท มีหนี้สินรวม 2,891,997,086 บาท โดยมีรายได้รวม 19,863,244 บาท และรายจ่ายรวม 9,191,619 บาท จ่ายภาษีเงินได้ 2,142,305 บาท และผลประกอบการมีกำไรสุทธิ 8,524,445 บาท