"บิ๊กโจ๊ก" เผย "รอง ผกก." อดีตสามี "แอม ไซยาไนด์" ยอมสารภาพ 2 ข้อหา เกี่ยวกับทรัพย์ ปฏิเสธไม่มีเอี่ยวฆาตกรรม เตรียมเรียก "น้อยหน่า" เมียน้อย อดีตสามีแอม สอบเพิ่ม เชื่อรู้ข้อมูลเยอะ
วันที่ 3 พ.ค. 2566 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยสอบปากคำ พ.ต.ท.วิฑูรย์ หรือ "รองอ๊อฟ" อดีตสามีแอม ไซยาไนด์ ด้วยตนเอง หลังออกหมายจับ "รองอ๊อฟ" ใน 2 ข้อหาคือ รับของโจร , ปลอมและใช้เอกสารทางราชการปลอม และคุมตัวมาสอบปากคำ
โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า เจ้าตัวเครียด และจากการสอบปากคำ "รองอ๊อฟ" ให้การรับสารภาพทั้ง 2 ข้อหาแล้ว แต่ยังให้การปฎิเสธเรื่องของการรู้เห็นในการฆาตกรรม ซึ่งตลอดการสอบปากคำ "รองอ๊อฟ" มีอาการเครียดเล็กน้อย แต่ยังสามารถให้การได้ดี และคาดว่า น่าจะได้ความจริงบางอย่างจาก "รองอ๊อฟ" เพิ่มขึ้นอีก
หลังสอบปากคำก็จะคุมตัว "รองอ๊อฟ" ไปคุมขังที่ สภ.เมืองนครปฐม ก่อนที่จะส่งศาลจังหวัดนครปฐมฝากขังในวันพรุ่งนี้ พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี ส่วนจะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับ "รองอ๊อฟ" อีกหรือไม่ ยังไม่มีแนวโน้ม และอยู่ระหว่างรอรายละเอียดเส้นทางการเงินและไทม์ไลน์ต่าง ๆ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า วันนี้ได้เรียก “น้อยหน่า” ภรรยาน้อยของ "รองอ๊อฟ" เข้ามาสอบปากคำด้วย และอยู่ระหว่างสอบสวน ซึ่งสาเหตุที่ต้องเรียกน้อยหน่ามาสอบปากคำ เนื่องจากน่าจะรู้ข้อมูลเยอะ และมีความใกล้ชิดกับ "รองอ๊อฟ" รวมถึงยังมีข้อมูลว่า "รองอ๊อฟ - น้อยหน่า -แอม" ทั้ง 3 คน เคยไปเที่ยวหัวหินด้วยกัน ดังนั้นเชื่อว่า จะต้องรู้ในรายละเอียด หากพบความผิดหรือความเชื่อมโยง จะต้องถูกดำเนินคดีด้วย จะไม่มีการกันตัวใครไว้เป็นพยาน เพราะมีพยานหลักฐานชัดเจน
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังบอกอีกว่า วันที่ (4 พ.ค.) จะเข้าไปพูดคุยกับ "แอม ไซยาไนด์" ในทัณฑสถานหญิงกลาง ด้วยตัวเอง เพราะเชื่อว่า "แอม" น่าจะสำนึกผิดและรู้จักผิดชอบชั่วดีขึ้นบ้างแล้ว เพราะก่อนหน้านี้ระหว่างอยู่ในเรือนจำ และพนักงานสอบสวนเข้าแจ้งข้อกล่าวหา และสอบปากคำ "แอม ไซยาไนด์" ให้การยอมรับว่า เป็นคนไปรับ "ทราย มณฑาทิพย์" ผู้เสียชีวิตในเคสพื้นที่ สน.ทองหล่อ ที่สนามบิน
และขณะนี้ ตำรวจสามารถแกะช่วงเวลาที่หายไปของเคสทรายได้แล้ว โดยเคสของทราย อยู่ระหว่างรอสอบความเห็นของแพทย์ เนื่องจากตอนนี้แพทย์ได้เดินทางไปที่ต่างประเทศ และได้นัดสอบปากคำ ให้ความเห็นในวันที่ 9 พ.ค. นี้ ซึ่งตอนนี้ทางตำรวจได้ภาพการเสียชีวิตของทรายมาแล้ว แต่ยังอยู่ระหว่างให้แพทย์มายืนยัน
ขณะที่การขยายผลเรื่อง "ไซยาไนด์" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า ตำรวจมีข้อมูลของผู้ที่สั่งซื้อ "ไซยาไนด์" ทั้งหมดแล้ว โดยเฉพาะทางออนไลน์ ซึ่งมีมากกว่า 100 ราย โดยจะเรียกมาสอบปากคำทั้งหมด หากพบว่าต้องสงสัย เพราะส่วนใหญ่ร้านทอง และภาคอุตสาหกรรม จะนำไปใช้เท่านั้น และหากพบว่า ใครใช้ผิดวัตถุประสงค์ ก็ต้องถูกดำเนินคดี
“ตำรวจต้องบริหารคดีด้วยความเที่ยงตรง ถ้าจะเอาผิดเขาจะต้องให้มีความชัดเจน วันนี้สังคมอาจจะตัดสินไปแล้ว แต่ในส่วนพนักงานสอบสวนเองการดำเนินคดีอาญาต้องมีหลักฐาน และมีหลักฐานอยู่หลายจุด เราต้องรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดเพื่อส่งให้อัยการ หากอัยการเห็นว่า สำนวนยังขาดก็ต้องทำเพิ่ม เพื่อให้เกิดความชัดเจน เพื่อให้ศาลพิพากษาลงโทษให้ได้ สำหรับคดีนี้ ผบ.ตร. ได้ให้กองปราบรวบรวมทำคดี โดยยื่นฟ้องศาลอาญาเพียงศาลเดียว เพื่อชี้ให้ศาลเห็นถึงความเชื่อมโยงการเสียชีวิตของแต่ละคดี” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว