คุมตัว 3 ตำรวจกองกำกับการสืบสวน ตม. 1 ร่วมแก๊งอุ้มรีดเงินชาวจีนเข้าสอบปากคำ หลังถูกศาลออกหมายจับ ทุกคนปฏิเสธให้การในชั้นสอบสวน เตรียมส่งศาลฝากขัง ขณะตำรวจอีก 1 นายยังคงหลบหนี
จากกรณีเหตุ มีล่ามแปลภาษาจีน ซึ่งเป็นผู้เสียหาย หญิงชาวไทย เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ สน.ดินแดง หลังถูกกลุ่มชายฉกรรจ์คล้าย ตำรวจ 5-6 คน ก่อเหตุอุ้มตัวขึ้นรถไป รีดทรัพย์ชาวจีน บังคับให้โอนเงินสกุลดิจิทัล กว่า 2 ล้านบาท ในพื้นที่ สน.ดินแดง
ล่าสุด "แก๊งตำรวจ" สังกัดตำรวจตรวจคนเข้ามือง "ตำรวจตม." ถูกกล่าวหา อุ้มรีดทรัพย์ล่ามสาวและชาวจีน เมื่อเวลา 22:22 น. วันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่สน.ดินแดง พลตำรวจตรี อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เปิดเผยว่า ภายหลังจากได้นำพยานหลักฐานและคำให้การของผู้เสียหายทุกคนไปยื่นให้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เขตตลิ่งชัน พิจารณาแล้วศาลเห็นว่าตำรวจของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทั้ง 4 นายมีข้อมูลพยานหลักฐานที่เชื่อได้ว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดดังกล่าวจริงจึงออกหมายจับตำรวจทั้ง 4 นายให้ตามคำขอ
จากนั้นเวลา 23:45 น เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 ต้นสังกัดของตำรวจทั้ง 4 นาย ได้นำตัวผู้ต้องหาเข้ามาที่สน.ดินแดงเพียง 3 คน เพื่อทำการแจ้งข้อกล่าวหาและสอบปากคำเพิ่มเติมอย่างละเอียดก่อนพิจารณาส่งฟ้องฝากขังต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในวันนี้ (22 มี.ค.) ประกอบด้วย
-พันตำรวจตรี สรวิศ อินทร์ลับ สารวัตรกองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1
-ร้อยตำรวจโท สุริยะ รุกขชาติ รองสารวัตรกองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1
-ดาบตำรวจ พีระศักดิ์ ยิ้มไพบูลย์ กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
โผล่อีก! แก๊งอุ้มรีดทรัพย์ชาวจีน-ล่ามสาว อ้างเป็นตำรวจ เรียก 2 ล้าน
"ชูวิทย์" เปิดโปงขบวนการตั้งด่านรีดไถ 88 โรงพัก ส่งยอด 324 ล้าน/เดือน
ทั้งนี้ในระหว่างนำตัวเข้าห้องสอบสวนผู้สื่อข่าวได้สอบถามในประเด็นต่างๆ แต่ผู้ต้องหาทั้งหมดไม่ได้ตอบคำถามใดๆ และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดินแดง ใช้ศอกกันตัวผู้สื่อข่าว พร้อมใช้ตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกหลายนายบังกล้องของนักข่าวเพื่อไม่ให้ถ่ายภาพของผู้ต้องหาระหว่างนำเข้าห้องสอบสวนได้
ด้านพลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เบื้องต้นต้นสังกัดของตำรวจที่ถูกออกหมายจับสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้ 3 นาย ส่วนอีก 1 นายคือ พันตำรวจตรี จิรภัทร บุญนำ สารวัตรกองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 หลบหนีไปได้ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบว่าตัวของผู้ต้องหารายดังกล่าวหลบหนีอยู่ที่ใด แต่เชื่อว่าน่าจะเข้ามามอบตัวในเร็วๆนี้
ทั้งนี้ได้สั่งการให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและชุดสืบสวนสอบสวนตรวจสอบข้อมูลของผู้ต้องหาทั้ง 4 นายย้อนกลับไปว่าเคยมีการร้องเรียนหรือพฤติการณ์ในลักษณะดังกล่าวด้วยหรือไม่ เพราะเชื่อว่าผู้ต้องหาทั้งหมดน่าจะไม่ได้ก่อเหตุลักษณะนี้เป็นครั้งแรก และจะมีการขยายผลไปถึงคนไทยอีก 1 คนซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อเหตุ และจะมีการออกหมายจับในล็อตต่อไป
ส่วนการดำเนินการทางวินัยขณะนี้ทราบว่าผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้ดำเนินการออกคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนในเรื่องดังกล่าวและให้ตำรวจทั้ง 4 นายออกจากราชการไว้ก่อน โดยยืนยันว่าคดีดังกล่าวจะดำเนินการตามขั้นตอนอย่างถึงที่สุดแม้ว่าผู้ก่อเหตุจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ตาม
นอกจากนี้ยังให้กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้เสียหายและผู้ต้องหา ว่ามีการส่งต่อเงินไปยังบุคคลใด ทั้งเงินสกุลปกติและเงินสกุลดิจิทัล เชื่อว่าจะหาพยานหลักฐานมาใช้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทุกคนได้
ทั้งนี้มีรายงานว่าหลังจากผู้ต้องหาทั้ง 3 คนถูกควบคุมตัวมาสอบสวนทุกคนปฏิเสธให้การในชั้นสอบสวน และร้องขอทนายตามสิทธิ แต่ชุดสืบสวนสอบสวนมีพยานหลักฐานที่ค่อนข้างชัดเจนทั้งทั้งคำให้การของผู้เสียหายทุกคนและเส้นทางการเงินต่างๆ
ก่อนหน้านี้ พนักงานสอบสวน สน.ดินแดง ได้นำพยานหลักฐาน และคำให้การของผู้เสียหายทุกคนไปยื่นให้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เขตตลิ่งชัน โดยศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า ตำรวจของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ทั้ง 4 นายมีข้อมูลพยานหลักฐานที่เชื่อได้ว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดดังกล่าวจริงจึงออกหมายจับตำรวจทั้ง 4 นาย ให้ตามคำขอ
ในข้อหา “ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น, ผู้ใดหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทาด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต “
จากนั้น พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 จะเข้าไปหารือเรื่องหมายจับที่ได้รับ และได้ประสานงานไปยังต้นสังกัดของตำรวจทั้ง 4 นาย เพื่อนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คนเข้ามาที่ สน.ดินแดง จนนำมาสู่การแจ้งข้อกล่าวหาและสอบปากคำเพิ่มเติมอย่างละเอียด ก่อนพิจารณาส่งฟ้องฝากขังต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางต่อไป