ข่าวดี! สรรพากรให้นำ "ค่าน้ำมัน" มาลดหย่อนภาษี ในช้อปดีมีคืน 2566 ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 4 หมื่นบาท เพื่อกระตุ้นการเดินทาง และการท่องเที่ยว
หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (20 ธ.ค. 2565) ครม.เห็นชอบมาตรการการดำเนินโครงการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2566 ให้แก่ประชาชน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
มาตรการ “ช้อปดีมีคืน 2566” เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2566 ถึงวันที่ 15 ก.พ.2566 โดยกำหนดให้ผู้มีเงินได้ซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล สามารถหักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 40,000 บาท โดยแบ่งเป็น
• ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการ จำนวน 30,000 บาทแรก ออกใบกำกับภาษีแบบกระดาษหรืออิเล็กทรอนิกส์
• ค่าซื้อสินค้าหรือบริการ อีกจำนวน 10,000 บาท ออกใบกำกับภาษีรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• ช้อปดีมีคืน ของขวัญปีใหม่ 2566 ลดหย่อนภาษีสูงสุด 40,000 บาท
• "ช้อปดีมีคืน" ต้องใช้ "ใบกำกับภาษีเต็มรูป" แบบใด ข้อมูลส่วนไหนสำคัญบ้าง?
• รู้ไหมร้านค้าออนไลน์ก็มีโครงการช้อปดีมีคืนนะ
ล่าสุด นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า มาตรการช้อปดีมีคืนในปี 2566 นี้ กรมสรรพากรได้ขยายเพิ่มให้นำค่าใช้จ่ายจากน้ำมันเชื้อเพลิงของรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ มาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ในมาตรการช้อปดีมีคืนได้เป็นครั้งแรก เนื่องจากมาตรการในปี 2564-2565 ที่ผ่านนับเป็นค่าสินค้าและค่าบริการที่ไม่เข้าร่วมมาตรการ
สำหรับค่าใช้จ่ายน้ำมันนั้น จะต้องมาจากสถานบริการน้ำมัน ที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มและออกใบกำกับภาษีได้ ทั้งนี้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นการเดินทางและการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาล
สำหรับสินค้าที่เข้าร่วมมาตรการ “ช้อปดีมีคืน 2566” เช่น ค่าซื้อสินค้า และค่าบริการทุกประเภทที่ซื้อจากผู้ประกอบการ ที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมถึงค่าสินค้า OTOP แต่ไม่รวมถึงสินค้าและบริการ 10 ประการ ดังนี้
• ค่าซื้อสุรา เบียร์ ไวน์
• ค่าซื้อยาสูบ
• ค่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ
• ค่าซื้อหนังสือพิมพ์และนิตยสาร
• ค่าบริการหนังสือพิมพ์และนิตยสารที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต
• ค่าบริการจัดนำเที่ยวที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว และมัคคุเทศก์
• ค่าที่พักในโรงแรมที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม
• ค่าสาธารณูปโภค
• ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า
ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์ ค่าบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต
สรรพากร คาดว่าจะมีผู้ได้ประโยชน์ที่จากมาตรการช้อปดีมีคืนครั้งนี้ 1.4 ล้านคน รัฐสูญเสียรายได้จากการลดหย่อยภาษี 6.2 พันล้านบาท แต่จะทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นมูลค่าประมาณ 4.2 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งจะเป็นการขยายฐานภาษี และสนับสนุนการใช้ระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์