พรรคก้าวไกลชูนโยบายสวัสดิการไทยก้าวหน้า 19 ข้อ ตั้งแต่วันแรกที่ลืมตา ถึงวันสุดท้ายของชีวิต ใช้งบประมาณ 6.5 แสนล้าน ยืนยันทำได้จริง
พรรคก้าวไกล ชูนโยบายสวัสดิการไทยก้าวหน้า 19 ข้อ ตั้งแต่วันแรกที่ลืมตา ยืนยัน ทำแน่นอน ถ้าได้เป็นรัฐบาล โดยมีรายละเอียดดังนี้
ชุดนโยบาย "สวัสดิการไทยก้าวหน้า" ของพรรคก้าวไกล คือการประกาศเจตนารมณ์อย่างชัดเจน ว่าหากเราเป็นรัฐบาล เป้าหมายหลักของเราคือการสร้างระบบสวัสดิการถ้วนหน้า-ครบวงจร ที่ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนตั้งแต่เกิดจนแก่ เพื่อตัดวงจรความเหลื่อมล้ำที่รุนแรงเรื้อรัง ปลดล็อกศักยภาพของประชาชน และ สร้างสังคมที่พร้อมเฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุขซึ่งกันและกันในการเผชิญกับโลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน
ระบบสวัสดิการจะช่วยให้คนไทยทุกช่วงวัย ตั้งแต่เกิด-เติบโต-ทำงาน-สูงวัย ใช้ชีวิตอย่างไม่ต้องกังวลใจกับอนาคตข้างหน้า ไม่ต้องพะวงถึงคนข้างหลัง สามารถเดินตามความฝัน แสวงหาความสุข และประสบความสำเร็จได้ตามศักยภาพ ไม่ถูกจำกัดด้วยฐานะทางเศรษฐกิจ
เพราะรัฐสวัสดิการ จะสร้าง “ตาข่ายรองรับ” คุณภาพชีวิตและโอกาสที่เท่าเทียมกันของประชาชนทุกคน ลดความเหลื่อมล้ำที่ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น และยังเป็น “กุญแจปลดล็อก” ศักยภาพของมนุษย์และมูลค่าทางเศรษฐกิจ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เปรียบเหมือน ‘เตียงสปริง’ ที่ประชาชนล้มลงไปก็ไม่เจ็บ แถมยังเด้งกลับขึ้นมาได้ไกลกว่าเดิม
บทความที่น่าสนใจ
ชูวิทย์เผย เจอยุทธการปิดปาก หลังแฉ “ทุนจีนสีเทา 5 เสือมาเฟีย”
ชูวิทย์ ชี้ ร้องเรียนแหลก คือความรุนแรงอีกรูปแบบ ใช้กฎหมายทำร้ายผู้อื่น
หลักคิดการออกแบบระบบสวัสดิการของพรรคก้าวไกล
1. สวัสดิการควรถ้วนหน้า เพื่อป้องกันการตกหล่น และเพื่อให้ถูกมองเป็นสิทธิที่ประชาชนพึงได้รับ
2. สวัสดิการควรมีทั้งในรูปแบบที่เป็นตัวเงินสด และรูปแบบของสิ่งของหรือบริการสาธารณะ
3. สวัสดิการต้องทำได้จริง มีงบประมาณเพียงพอ ไม่เพิ่มภาระทางการคลังที่ไปตกแก่ลูกหลาน
โดยระบบสวัสดิการของพรรคก้าวไกล จะสร้างความมั่นคงในชีวิตให้กับประชาชนทุกคน ในทุกวันที่อยู่บนโลกใบนี้ ตั้งแต่วันแรกที่ลืมตา จนกระทั่งวันสุดท้ายของชีวิต
เกิด
1. ของขวัญแรกเกิด 3,000 บาท ให้พ่อ-แม่ซื้อสิ่งของจำเป็นในการเลี้ยงลูก
2. เงินเด็กเล็ก เดือนละ 1,200 บาท
3. สิทธิลาคลอด 180 วัน พ่อแม่แบ่งกันได้
4. ศูนย์เลี้ยงเด็กใกล้บ้าน-ที่ทำงาน
เติบโต
1. เรียนฟรี อาหารฟรี มีรถรับส่ง
2. คูปองเปิดโลก ให้เด็กและเยาวชนได้เรียนรู้นอกห้องเรียน
3. ผ้าอนามัยไม่เก็บ VAT แจกฟรีในโรงเรียน
ทำงาน
1. ค่าแรงขั้นต่ำปรับขึ้นทุกปี เริ่มต้นวันละ 450 บาท รัฐช่วย SME 6 เดือนแรก
2. สัญญาจ้างเป็นธรรม ทำงานไม่เกิน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
3. แรงงานทุกกลุ่มตั้งสหภาพได้ สอดคล้องหลักการขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO)
4. ประกันสังคมถ้วนหน้า เจ็บป่วยได้เงินชดเชย-ค่าเดินทางหาหมอ
5. เรียนเสริมทักษะ-เปลี่ยนอาชีพ ฟรีไม่จำกัดผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ สมทบด้วยคูปองเรียนเสริม
สูงวัย
1. เงินผู้สูงวัยเดือนละ 3,000 บาท สร้างระบบดูแลผู้ป่วยติดเตียง
2. ค่าทำศพถ้วนหน้า 10,000 บาท
ทุกอายุ
1. บ้านตั้งตัว 350,000 หลัง
2. น้ำประปาดื่มได้ทุกพื้นที่
3. เติมเงินให้ท้องถิ่น เพิ่มขนส่งสาธารณะ
4. เติมเน็ตฟรี 1 GB ต่อเดือน
5. เงินคนพิการเดือนละ 3,000 บาท
ยืนยัน ทำได้จริง ใช้งบ ประมาณ 650,000 ล้านบาท
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ในประเทศที่ยังคงมีงบสวัสดิการดั้งเดิมน้อยนิดอย่างประเทศไทย ชุดนโยบายของพรรคก้าวไกลจำเป็นต้องใช้งบประมาณเพิ่มเป็นจำนวนไม่น้อย หรือประมาณ 650,000 ล้านบาท
ในฐานะพรรคการเมือง การอธิบายแหล่งที่มาของงบประมาณทั้งหมด นับเป็นความรับผิดชอบขั้นพื้นฐานที่ต้องแสดง เพราะในมุมหนึ่ง การอธิบายที่มางบประมาณอย่างตรงไปตรงมากับประชาชน จะเป็นหนทางในการช่วยเพิ่มความมั่นใจกับประชาชน ว่านโยบายทั้งหมดที่เรานำเสนอนั้น สามารถทำได้จริง
และในอีกมุมหนึ่ง การวางแผนแนวทางการหารายได้ให้เพียงพอต่องบประมาณที่เพิ่มขึ้น จะเป็นหนทางในการป้องกันไม่ให้การได้มาซึ่งสวัสดิการในวันนี้กลายไปเป็นภาระของลูกหลานเราที่ต้องมาใช้หนี้ในอนาคต
จากงบประมาณสวัสดิการที่คาดว่าจะต้องเพิ่มขึ้น พรรคก้าวไกลยืนยันว่าหากได้เป็นรัฐบาล จะสามารถหารายได้เพิ่มเติมเพียงพอสำหรับทั้งหมด 650,000 ล้านบาทต่อปี ภายใน 4 ปี ของวาระรัฐบาล ซึ่งจะทำให้ชุดนโยบายสวัสดิการที่เสนอ ไม่เป็นภาระต่องบประมาณเพิ่มเติม
ในบรรดา 10 แหล่งที่มาของรายได้ที่ได้เสนอ พรรคยึดหลักว่าจะต้องเป็นการหารายได้เพิ่มเติมที่
(1) ไม่เพิ่มภาระค่าใช้จ่ายแก่คนหมู่มาก
(2) คำนึงถึงความเป็นธรรม
(3) จัดเก็บได้จริง อย่างมีประสิทธิภาพ
ไม่ว่าจะเป็น การเริ่มต้นที่การจัดสรรงบประมาณที่มีอยู่แล้วให้ดีขึ้นก่อน ตั้งแต่การประหยัดงบประมาณจากการปฏิรูปกองทัพ (เช่น ลดขนาดกองทัพ เรียกคืนธุรกิจกองทัพ) การประหยัดงบประมาณจากการตัดโครงการรัฐที่ซ้ำซ้อนและไม่จำเป็น หรือ การประหยัดงบประมาณจากงบกลางที่หลายครั้งถูกใช้อย่างขาดวินัยและอย่างไม่โปร่งใส
หรือไม่ว่าจะเป็น การเพิ่มประสิทธิภาพและความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษีที่มีอยู่แล้ว ทั้งการสร้างความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษีรายได้บุคคล ระหว่างรายได้จากเงินเดือนกับรายได้จากค่าเช่าหรือทรัพย์สินอื่นๆ และการสร้างความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษีรายได้นิติบุคคล ระหว่างทุนใหญ่กับผู้ประกอบการรายย่อย
หรือไม่ว่าจะเป็นการพิจารณาภาษีก้าวหน้าประเภทใหม่ที่จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำ ทั้งการลดช่องโหว่ในการเก็บภาษีที่ดินรายแปลง การจัดเก็บภาษีที่ดินรวมแปลงในกรณีที่มีที่ดินจำนวนมากกระจัดกระจายอยู่เต็มไปหมดทั่วประเทศ และการพิจารณาภาษีความมั่งคั่งแบบขั้นบันไดสำหรับบุคคลที่มีทรัพย์สินสุทธิรวมกันเกิน 300 ล้านบาท
ในห้วงเวลาของการเลือกตั้ง คงไม่มีกูรูทางการเมืองคนไหนแนะนำให้เราแถลงนโยบายที่มีส่วนในการเก็บภาษีเพิ่ม แต่พรรคก้าวไกลเชื่อว่าการซื่อสัตย์ต่อประชาชน และการพูดถึงสิ่งที่เราจำเป็นต้องทำอย่างตรงไปตรงมา คือจุดเริ่มต้นสำคัญของการได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ผู้ที่เราเสนอตัวมาเป็นตัวแทน
พรรคก้าวไกลมีความเชื่อ ว่าคนที่ประสบความสำเร็จและร่ำรวยในประเทศนี้เข้าใจดีว่าความสำเร็จของเขา อาจมีบางส่วนที่มาจากโชค หรือเป็นความสำเร็จที่ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น เช่นเดียวกันกับที่เราเชื่อ ว่าหลายคนมีความพร้อมที่จะช่วยเหลือกันในยามลำบากและเฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุขกับคนในสังคม ซึ่งเห็นได้ผ่านการบริจาคที่ประเทศไทยติด 1 ใน 5 ของประเทศที่ใจบุญชอบบริจาคสูงสุดแทบทุกปี
สำหรับคนที่มีทรัพย์สินและที่ดินระดับหลายร้อยล้าน "ภาษี" ที่ต้องจ่ายอาจสูงขึ้น แต่เราเชื่อว่าพวกเขาเองก็เข้าใจดี ว่าตราบใดที่เงินภาษีถูกใช้อย่างโปร่งใสและอย่างเป็นประโยชน์กับคนส่วนมากอย่างแท้จริง ทั้งหมดนั้นเป็น "ราคา" ที่คุ้มค่า สำหรับการสร้างสังคมที่เป็นธรรม และเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ในการเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ ที่ทุกคนต้องเจอร่วมกันในวันข้างหน้า
การสร้างระบบสวัสดิการ ที่ครอบคลุมตั้งแต่เกิดจนตาย ไม่ได้เป็นประโยชน์กับแค่บางกลุ่ม แต่เป็นประโยชน์กับทุกคนในสังคม เพราะไม่มีประเทศไหนที่สังคมจะอยู่ได้อย่างสงบสุขถ้าความเหลื่อมล้ำยังคงเป็นปัญหาใหญ่ในสังคมนั้น
การสร้างระบบสวัสดิการแบบก้าวไกล จะเป็นจริงได้ หากเราร่วมกันเฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุข และก้าวไปข้างหน้าพร้อมกันทุกคน
ที่มา พรรคก้าวไกล