กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เผย พบจุดสัมผัสชายติดฝีดาษลิง“ลูกบิด ประตู ผู้าปู” เป็นบวกยังไม่ชัดแพร่เชื้อได้หรือไม่ แนะใช้มาตรการเดียวกับที่ใช้ป้องกันโรคโควิด19 สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างและล้างมือ ช่วยป้องกันโรคฝีดาษลิงได้
วันที่ 25 ก.ค. นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยถึงการตรวจหาเชื้อโรคฝีดาษวานร (ฝีดาษลิง) จากชายไนจีเรียที่เป็นผู้ป่วยรายแรกของไทย ว่าขณะนี้มีการส่งสิ่งของต่างๆ ให้กรมวิทยาศาสตร์ฯ ตรวจเพิ่มเติม ที่มีความเชื่อมโยงกับกรณีผู้ติดเชื้อ โดยผลตรวจออกมาเป็นลบ ส่วนการตรวจสิ่งแวดล้อม เช่น ลูกบิดประตู ผ้าปูที่นอน นั้น พบว่าผลเป็นบวก แต่ก็ยังให้ข้อมูลไม่ได้ว่า สามารถแพร่เชื่อต่อได้หรือไม่ เพราะการติดเชื้อต้องมีความใกล้ชิดกันมากๆ ส่วนการสัมผัสต่างๆ นั้น โดยปกติ ผิวหนังคนเราจะมีมาตรการป้องกันเชื้อเข้าสู่ร่างกายอยู่แล้ว เว้นแต่า บริเวณผิวหนังมีบาดแผล หรือตามเยื่อบุต่างๆ เช่น ตา จมูก ฯลฯ อาจจะมีความเสี่ยง แต่มาตรการเดียวกับที่ใช้ป้องกันโรคโควิด19 คือสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างและล้างมือ สามารถป้องกันโรคฝีดาษลิงได้เช่นกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
สธ. ถกด่วนรับมือ “ฝีดาษลิง” หลัง WHO ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสธ.ระหว่างประเทศ
สธ.ภูเก็ต เผยผลตรวจผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 19 รายไม่พบเชื้อ "ฝีดาษลิง"
นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการนำตัวอย่างเชื้อที่เก็บจากแผลของผู้ติดเชื้อรายแรกในประเทศไทย มาทำการเพาะเชื้อเพิ่มปริมาณ ก่อนนำไปทดสอบกับภูมิคุ้มกันของคนไทยที่เคยปลูกฝีดาษไปก่อนหน้านี้ว่า สามารถป้องกัน หรือทำลายเชื้อฝีดาษวานร (ฝีดาษลิง)ได้หรือไม่จึงต้องรอเวลาอีกสักระยะหนึ่ง หากมีความคืบหน้ากรมวิทยาศาสตร์ฯ จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง