svasdssvasds

อนุทิน สั่งด่านควบคุมโรคเฝ้าระวังฝีดาษลิง จากคนประเทศกลุ่มเสี่ยงเข้าไทย

อนุทิน สั่งด่านควบคุมโรคเฝ้าระวังฝีดาษลิง จากคนประเทศกลุ่มเสี่ยงเข้าไทย

"อนุทิน" สั่งการด่านกรมควบคุมโรคทั่วประเทศ เฝ้าระวังประชาชนที่เดินทางมาจากประเทศเสี่ยงที่มีการระบาดฝีดาษลิง เตรียมประชุมหารือว่าจะยกระดับโรคฝีดาษลิงเป็นโรคติดต่อร้ายแรงหรือไม่

 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เรียกประชุมด่วนผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข หลังองค์การอนามัยโลกประกาศให้โรคฝีดาษลิงเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ

 โดยกรมควบคุมโรคได้รายงานสถานการณ์หลังลงพื้นที่ไปสอบสวนโรคที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งชายชาวไนจีเรียผู้ป่วยรายแรก มาอยู่ในไทยตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ไม่ให้ความร่วมมือการสอบสวนโรค และได้หลบหนีไปกัมพูชา เพราะอยู่ในไทยเกินกฎหมายกำหนดจึงหลบหนี

 จากการติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยขณะอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต ย้อนหลังไป 1 เดือน ยังไม่พบคนติดเชื้อฝีดาษลิงเพิ่ม เบื้องต้นชาวไนจีเรียรักษาตัวที่ประเทศกัมพูชา และทางสำนักระบาดวิทยาจะมีการประสานติดต่อ สาธารณสุขกัมพูชาเพื่อสอบสวนโรคเพิ่มเติม

ได้สั่งการให้ด่านควบคุมโรคทั่วประเทศ ประสานกับสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเฝ้าระวังและระมัดระวังเป็นพิเศษคนที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• สธ. ถกด่วนรับมือ “ฝีดาษลิง” หลัง WHO ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสธ.ระหว่างประเทศ

• "โรคฝีดาษลิง" เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ WHO ประกาศแล้ว

• สธ. เผยผลตรวจผู้สัมผัสฝีดาษลิง เสี่ยงสูง 19 ราย ไม่พบเชื้อ 2 ราย รอผล 17 ราย

 อย่างไรก็ตาม ไทยมีระบบคัดกรองและเฝ้าระวังตั้งแต่โควิด-19 ระบาด เชื่อว่าครั้งนี้ก็จะสามารถตรวจจับได้ ยืนยันความพร้อมของวัคซีนฝีดาษที่กรมวิทยาศาสตร์ตรวจสอบคุณภาพแล้ว ซึ่งเป็นวัคซีนที่องค์การเภสัชกรรมจัดเก็บไว้ 40 ปี รวมทั้งความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลที่กรมการแพทย์ได้เตรียมไว้ ทั้งยารักษาตามอาการและยาเฉพาะโรค และสถานพยาบาลมีความพร้อมรักษาผู้ป่วย และยกระดับการเฝ้าระวังจากศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข หรือ EOC ของกรมควบคุมโรค เป็น EOC ที่มีปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน จึงจะทำให้การสั่งการเฝ้าระวังมีความครอบคลุมมากขึ้น

 และได้แต่งตั้ง พญ. นฤมล สวรรค์ปัญญาเลิศ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมการแพทย์ ให้รับผิดชอบในการสื่อสารและมาตรการควบคุมโรคฝีดาษลิง ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก เพราะโรคนี้ไม่ได้ติดต่อกันง่ายเหมือนโควิด-19 แต่ขอให้คงมาตรการสาธารณสุข

โดยวันพรุ่งนี้จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาว่าจะยกระดับจากโรคติดต่อเฝ้าระวัง เป็นโรคติดต่ออันตรายหรือไม่ เบื้องต้นเห็นว่ายังไม่จำเป็นต้องยกระดับมาตรการการจำกัดการเดินทางเข้าประเทศสำหรับประเทศกลุ่มเสี่ยง

 ทั้งนี้ นพ. ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ระบุว่า กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ได้ประสานโรงพยาบาลเอกชนเฝ้าระวังผู้ป่วยที่เข้าข้างสงสัยเป็นโรคฝีดาษลิง เพราะที่ผ่านมาพบผู้เข้าข่ายสงสัยเป็นกลุ่มที่เดินทางจากต่างประเทศโดยที่ผ่านมา คัดกรองมาแล้ว 18 รายและ เพิ่งเจอชายชาวไนจีเรีย รายแรก 

related