"อาคม" ตอบกระทู้ วิกฤตฟุ้บเฟ้อ บอกไทยมีแผนสำรองระยะสั้น-กลาง-ยาว ชี้สงครามยูเครนไม่อาจคาดเดาได้ว่าจะจบเมื่อไหร่ ซึ่งเป็นต้นเหตุน้ำมันแพง ด้าน "พิธา" ชวนนั่งรถเมล์กลับบ้านวันนี้ เพื่อได้รับรู้ปัญหาและความเดือนร้อนประชาชน
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตอบกระทู้ถามของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เรื่องวิกฤตของแพง-ค่าแรงถูกที่ถามว่า เรื่องวิกฤตพลังงานที่ขึ้นร้อยละ 35 จะยืดเยื้อออกไปอีกนานแค่ไหน ใช้งบประมาณเท่าไหร่ดูแลราคาพลังงาน สงครามที่เกิดขึ้น
นายอาคม ระบุว่า ไทยพายุจ่อถล่มเศรษฐกิจอยู่ 3 เรื่อง คือ ผลกระทบสงครามรัสเซียยูเครน , โควิดซีโรของจีน และการต่อสู้เงินเฟ้อทั่วโลก โดยรัฐบาลมีแผนระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว
ในช่วงนี้ระยะสั้นได้ดำเนินการตลอดใช้มาตรการลดภาษีน้ำมันดีเซล ที่เป็นต้นทุนการเดินทาง ค่าขนส่งกระทบดัชนีค่าครองชีพ ที่รัฐบาลอุดหนุน 10-11 บาท และมีมารตราการยกระดับตรึงราคาขึ้นอยู่กับขีดความสามารถตรึงราคาน้ำมันและการเจรจาต่อรองโรงกลั่นคาดว่าจะชัดเจน 1-2 วันนี้ ยังไม่สูงสุดเมื่อเทียบประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งการลดภาษีส่งผลต่อรายได้ภาครัฐด้วย ตอนนี้สูญเสียรายได้กว่า 4 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ การตรึงราคาก๊าซ NGV ในระยะต่อไปจะเป็นมาตรการปรับเปลี่ยนพลังงานไม่พึ่งพารูปแบบฟอสซิล เช่น ส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV และการใช้พลังงานทดแทน ที่จำเป็นต้องเข้มงวดจริงจัง และมาตรการพลังงานก็เป็นเรื่องสำคัญ ที่ประชาชนต้องร่วมมือกันประหยัด
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง
ส่วนคำถามเรื่องราคาอาหาร สินค้าขึ้นราคา 279 รายการ ราคาอาหารสัตว์ขึ้น แต่รัฐบาลใช้ สมช.ในการแก้ปัญหาด้านความมั่นคงอาหารและพลังงานนั้น นายอาคม ได้ชี้แจงว่า ปัญหามาจากภูมิศาสตร์โลก และเรื่องอาหาร ซึ่งต้องใช้ความร่วมมือจากส่วนราชการหลายส่วน และแม้ สมช.เป็นหน่วยงานด้วยความมั่นคงการทางทหาร แต่ด้านเศรษฐกิจอาจจะขอความร่วมมือหน่วยงานต่าง ๆ มากกว่า ด้วยการหารือหน่วยงาน ด้านอาหารพลังงาน คาดว่าจะมีข้อสรุปเสนอนายกรัฐมนตรีต่อไป เชื่อว่า สมช.จะประสานหน่วยงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขณะที่เรื่องการขีดเส้น 15 วันในการแก้ปัญหา ขสมก.ทั้งคนขับรถขาด 700 คน-ค่าเดินทางที่ประชาชนแบกรับภาระ ซึ่งรมว.คลัง ตอบกระทู้ว่า จากที่ทราบกระทรวงคมนาคม คือ การปรับราคาค่าโดยสาร ส่วนการลดเที่ยงวิ่งต้องอยู่ในภาวะที่รองรับบริการประชาชนได้เพียงพอ โดยการจัดหารถยังอยู่ในแผนที่กำลังดำเนินการอยู่ หารถเมล์ไฟฟ้า ที่ต้องผ่านสภาพัฒน์ฯในการพิจารณาตามแผน อาจจะล่าช้าบ้าง จึงรับที่ไปติดตามเร่งรัด
ทั้งนี้ ในช่วงท้าย นายพิธา ชวน นายอาคม บอกวันนี้จะลองนั่งรถเมล์กลับบ้าน จะได้รับรู้ปัญหาและความเดือดร้อนของประชาชนที่ขาดแคลนรถโดยสาร