"เอ็ม บุษราคัม" ลูกสาวของ "หม่ำ จ๊กมก" เล่าประสบการณ์เจอพี่เลี้ยงเด็กพฤติกรรมสุดแย่ ปล่อยให้เด็กวิ่งจนเกือบถูกรถชน แถมน้องลื่นห้องน้ำก็ไม่สนใจ
ทำเอาแฟนๆ ที่ได้อ่านเรื่องราวพากันส่งกำลังใจให้จำนวนมาก หลังจาก "เอ็ม บุษราคัม" ลูกสาวของ "หม่ำ จ๊กมก" ได้ออกมาตอบคำถามของแฟนๆ ผ่านทางสตอรี่ไอจีในหัวข้อว่า "อยากรู้ว่าอะไรคือสาเหตุหลัก ที่ทนไม่ได้ จนต้องตัดสินใจเชิญพี่เลี้ยงคะ?"
โดยสาวเอ็ม ได้เล่าเรื่องนี้อย่างละเอียด พร้อมเผยพฤติกรรมสุดแย่ของอดีตพี่เลี้ยงเด็ก หลังทนมา 2 ปีเพราะความผูกพัน สงสารกลัวไม่มีงานทำ แต่แล้วก็ต้องเชิญออก เนื่องจากอีกฝ่ายไม่ปรับปรุงนิสัยเลย แถมยังปล่อยให้เด็กๆวิ่งเล่นจนเกือบถูกรถชน หนำซ้ำเด็กๆลื่นห้องน้ำหัวฟาดก็ไม่สนใจ
"อยู่ด้วยกันมา 2 ปี ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยสักอย่าง ไม่ใส่ใจ สกปรก ไม่ว่องไว ไม่ป้องกัน ไม่หูตาไว ผิดซ้ำๆ ไม่ชอบอาบน้ำ ไม่มี common sense ไม่รักกัน / เห็นแก่ตัว กินยาก เลือกกิน เรื่องเยอะ
เหตุการณ์ที่หนักสุดและคิดว่าไม่ไหวแล้วคือ จอดรถซื้อของ ปล่อยน้องวิ่งมาเลย ดีนะ รถไม่ชน พอบอกว่าทำไมปล่อยน้องแบบนั้น ก็ทำเฉยๆไม่กระตือรือร้นอะไร คือถ้ารถชนมาจะทำยังไง?
บอกว่าอย่าเลื่อนเก้าอี้นะ เดี๋ยวหนีบนิ้วน้อง พูดจบปุ๊บ เลื่อนเก้าอี้หนีบนิ้วน้อง น้องจะก้าวเท้าเข้าห้องอาบน้ำ ซึ่งลื่น และเราก็เตือนว่าจับน้องดีดีระวังลื่น เท่านั้นละน้องลื่น ก็ปล่อยน้องลื่น หัวฟาด ไม่เซฟ ไม่ตกใจ ไม่รีบจับแขนพยุงตัวน้องเลย **ถ้าถามว่าทำไมทนมาได้ตั้ง 2 ปี เพราะสงสารและรู้สึกผูกพัน คิดว่าเขาคงไปทำงานที่ไหนไม่ได้แน่ๆ แต่แล้วก็คงต้องปล่อยจริงๆ**"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เบิร์ด เทคนิค เตือนภัย! หลังมิจฉาชีพนำภาพ แตงโม ไปแอบอ้างเล่นพนันออนไลน์
อแมนด้า ออบดัม โคฟเป็น "คังคุไบ" พร้อมสะท้อนมุมมองอาชีพ Sex Workers
หนุ่ม ศรราม เลิกปาร์ตี้! ตื่นเช้าส่ง วีจิ ไปโรงเรียน เปิดโอกาส กุ้งพลอย เจอลูก
นอกจากนี้เจ้าตัวยังโพสต์ข้อความต่ออีกว่า "น้องได้แผลมาเยอะมาก และเราก็เหนื่อยกับการที่จะบอกมาก พูดแล้ว ทำผิด พอเราพูดอีกก็ไม่ชอบ คิดว่าขี้บ่น แต่ก็ซ้ำๆแบบนี้วนเป็นลูปไปตลอด 2 ปี ชะเอิงเอยยยย บอกว่าให้โอกาสปรับปรุงตัว ปรับไม่ได้คงต้องออก เขาบอกว่าเขาขอออก ปรับไม่ได้"
และหลังจากสตอรี่ดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไป ไม่นานก็มีแฟนๆ เข้าไปพิมพ์ข้อความให้กำลังใจจำนวนมาก อาทิเช่น "อ่านเรื่องพี่เลี้ยงของคุณเอ็ม เข้าใจมากๆ เลยค่ะ เหมือนมาเพิ่มภาระ ที่บ้านเปลี่ยนมาคนที่ห้าถึงโอเค"
ต่อมาสาวเอ็ม ได้ตอบกลับว่า "จะไปไหน กินอะไร ทำอะไร ก็จะต้องมาคอยพะวงว่าได้ไหม จะกินได้หรือเปล่า? อยู่ได้ไหม? ทั้งๆ ที่ priority หลักควรเป็นลูก แต่รู้สึกวุ่นวายกับตรงจุดนี่มากจริงๆ หลายครั้งที่เราไม่ได้เลือกร้านอาหารที่เราอยากกินเพราะเขา
เอ็มไม่เคยกินดีแล้วให้ตังเขาไปกินฟู้ดคอร์ด หรือแยกไปกินเองสักครั้ง มาด้วยกัน กินด้วยกัน จะแพงแค่ไหนก็กินด้วยกัน แต่บางทีเขาไม่ appreciate เราก็เสียใจนะคะ เคยซื้อชาไทยแก้วละ 120 บาทให้กิน ถามว่าอร่อยไหม ตอบพร้อมทำหน้าแหยะๆว่า ไม่อร่อย แล้วก็ดูด2คำ แล้วก็ไม่กินอีกเลยเศร้าใจ"