เส้นทางชีวิตและประสบการณ์แห่งความสำเร็จ ของ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 4 กับความมุ่งมั่นตั้งใจด้วยเชื่อมั่นว่า “เปลี่ยนกรุงเทพฯ เราทำได้”
ในขณะที่ปี่กลองกำลังโหมโรงให้กับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ไปทั่วเมือง ชื่อของ “เอ้ สุชัชวีร์” ถือเป็นหนึ่งในผู้สมัครที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากนับตั้งแต่เปิดตัวชิงเก้าอี้พ่อเมืองกรุงเทพฯ กับพรรคประชาธิปัตย์
สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ “เอ้” เกิดเมื่อวันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2515 ปัจจุบันอายุ 50 ปี เป็นบุตรชายคนเดียวของ นายธีรศักดิ์ และนางวัลลีย์ สุวรรณสวัสดิ์ หลังสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนระยองวิทยาคม ได้รับทุนโควตาช้างเผือกเข้าศึกษาปริญญาตรีในคณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) สำเร็จการศึกษาด้วยเกียรตินิยม
ต่อมาเข้าศึกษาปริญญาโทและปริญญาเอกด้านวิศวกรรมโยธาและสิ่งแวดล้อมที่ Massachusetts Institute of Technology (MIT) ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้นกลับมาเป็นศาสตราจารย์สาขาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
ดร.เอ้ เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางจากการเป็นอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย โดยมีผลงานสำคัญคือการพา สจล. ก้าวผ่านวิกฤตเงิน 1,600 ล้านบาทที่หายไปได้ และปรับปรุงพัฒนาจนเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ
ด้วยวิสัยทัศน์ที่ไม่กลัวการเปลี่ยนแปลงและนำเทคโนโลยีมาสร้างผลงานการพัฒนาต่าง ๆ ทำให้สุชัชวีร์ได้รับฉายาว่า “The Disruptor เมืองไทย” อีกทั้งสมัยเป็นอธิการบดี "พี่เอ้" กลายเป็นคำเรียกที่คุ้นเคยของนักศึกษาและบุคลากรในมหาวิทยาลัย สะท้อนถึงความใกล้ชิดและเป็นกันเองระหว่าง “พี่เอ้” กับชาวแคแสด (สจล.) ได้เป็นอย่างดี
ดร.เอ้ มีผลงานทั้งด้านการศึกษาและด้านวิศวกรรมจำนวนมาก เช่น เป็นหนึ่งในทีมสร้างรถไฟฟ้าใต้ดิน และออกแบบอุโมงค์ลอดแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นนายกสภาวิศวกร นายกสมาคมนักเรียนทุนรัฐบาลไทย เป็นประธานและคณะกรรมการอีกหลายหน่วยงาน ทั้งยังได้รับรางวัลทั้งในและต่างประเทศอีกมากมาย
นอกจากนี้ สุชัชวีร์ยังมีความสนใจด้านการพัฒนาเมือง ประกอบกับการเห็นปัญหาเมืองในกรุงเทพฯ ด้วยตัวเองมาโดยตลอด จึงเป็นที่มาของการตัดสินใจลงชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม. ในครั้งนี้
“เมืองสวัสดิการ” ที่ “เราทำได้”
จากวันที่ประกาศอาสาพัฒนากรุงเทพฯเมื่อปลายปี 2564 ดร.เอ้ แสดงวิสัยทัศน์ว่าต้องการเปลี่ยนกรุงเทพฯ ให้เป็น “เมืองสวัสดิการที่ทันสมัยและเป็นต้นแบบอาเซียน” ด้วยการนำเสนอวิสัยทัศน์และชุดนโยบาย “เปลี่ยนชีวิต” คนกรุงเทพฯ ให้ดีขึ้น เข้าถึงสวัสดิการที่มีคุณภาพ ยกระดับศูนย์บริการสาธารณสุขของ กทม. เปลี่ยนอากาศพิษให้เป็นอากาศบริสุทธิ์
พร้อมไปกับ “เปลี่ยนเมือง” ให้ปลอดภัย แก้ปัญหาซ้ำซาก และป้องกันภัยที่จะเกิดขึ้นในอนาคต แก้ปัญหาน้ำท่วมด้วยแก้มลิงใต้ดิน ใช้ระบบ AI ควบคุมการจราจร นำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาบริหารจัดการ
ดร.เอ้ยังประกาศว่า หากได้เป็นผู้ว่าฯ จะนำกรุงเทพฯ เสนอตัวเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก 2036 กระนั้นการจะบรรลุเป้าหมายได้ต้องทำงานเป็นทีม ไม่ใช่ทำงานคนเดียว จึงเป็นเหตุผลของการลงสมัครสังกัดพรรคการเมือง
หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการกับพรรคประชาธิปัตย์ ดร.เอ้ และทีมงานเดินเท้าไปทุกเขตทั่วกรุงเทพฯ ลงพื้นที่พบปะพูดคุยกับคนในพื้นที่และเจอปัญหาต่าง ๆ ด้วยตัวเอง พบว่า ส่วนมากแล้วเป็นปัญหาเชิงเทคนิค เช่น ปัญหาน้ำท่วม รถติด ผู้ว่าฯ จึงต้องเป็นทั้งพ่อบ้านและนายช่างในเวลาเดียวกัน
แม้วิสัยทัศน์ที่ตั้งไว้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่จากการศึกษาและดูงานการจัดการเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก ทำให้สุชัชวีร์มองเห็นความเป็นไปได้และเชื่อมั่นว่ากรุงเทพฯสามารถเปลี่ยนได้ จึงเป็นที่มาของคำขวัญที่ว่า “เปลี่ยนกรุงเทพฯ เราทำได้”
ดวงใจตัวน้อย...“อิชิบอย” ของ “พ่อเอ้”
บนความฝันและเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ พี่เอ้ มี “อิชิบอย” ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนและครอบครัวเป็นกำลังใจสำคัญ พ่อเอ้มักจะใช้เวลาว่างอยู่กับลูกเสมอ ในเฟซบุ๊ก “เอ้ สุชัชวีร์” จะปรากฏภาพที่แสดงความรัก ความอบอุ่นกับอิชิบอยและครอบครัวเป็นประจำ
ในวันก่อนจะไปสมัครเป็นผู้ว่าฯ กทม. พ่อเอ้โพสต์รูปคู่กับอิชิบอยพร้อมแคปชั่น “พรุ่งนี้เช้า พ่อเอ้จะไปสมัครงาน อิชิบอยคงตื่นไม่ทัน คืนนี้พ่อขอกอดแน่นๆ อิชิบอย ยกนิ้วร้อง #เราทำได้ พ่อเอ้ได้กำลังใจไปเต็ม ๆ ครับ”
ดร.เอ้ ให้ความสำคัญอย่างมากกับการศึกษา มีการทำ Home School ที่บ้านและตั้งมหาวิทยาลัยเด็กเล็ก (Kids University) แห่งแรกของอาเซียนที่ สจล. ให้ลูกหลานชาวบ้านได้มาเรียน การเป็นอาจารย์ นักการศึกษา และพ่อคน จึงเป็นแรงขับเคลื่อนให้สุชัชวีร์มุ่งมั่นจะปรับปรุงการศึกษาและทำกรุงเทพฯ ให้ดีขึ้นเพื่อคนรุ่นต่อไป
และนี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จากพรรคประชาธิปัตย์ ผู้ขออาสาเป็น “The man who brings back the land of smiles” เพื่อนำรอยยิ้มกลับคืนสู่คนกรุงเทพฯ อีกครั้ง
บทความที่เกี่ยวกับ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์