หนุ่มคลั่งบุกสุวรรณภูมิ เริ่มได้สติ บอกเสพไป 8 เม็ดจนประสาทหลอน ได้ยินเสียงในหูบอกให้ไปปล้นเครื่องบิน แต่ขับหลงจนไปเจอทางเข้าลานจอด
จากเหตุการณ์ระทึกภายในสนามบินสุวรรณภูมิเมื่อช่วงเที่ยงวานนี้ (3 พ.ค.2565) กรณีที่ นายวัชระ คำบุตร อายุ 34 ปี ควงปืนปลอมและขวานเหล็กขี่จักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นและประตูทางเข้าสนามบิน โดยอาศัยจังหวะที่รถของเจ้าหน้าที่กำลังผ่านจุดตรวจ แล้วผู้ต้องหาเร่งเครื่องรถแซงซ้ายเข้าไปในพื้นที่หวงห้าม กระทั่งเจ้าหน้าที่ไล่ติดตามจับกุมตัวเอาไว้ได้ภายในเวลา 9 นาที
อ่าน : หนุ่มคลั่งบุกรันเวย์สุวรรณภูมิ พบเมายา-มีอาวุธ สนามบินแจงระงับเหตุได้ทัน
ล่าสุด นายวัชระ ยังถูกคุมตัวในห้องขังที่ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยวันนี้เจ้าตัวเริ่มมีสติกลับมามากแล้ว จนสามารถเล่าเหตุการณ์และจำเห็นการณ์ที่เกิดขึ้นได้ ยอมรับว่าทำไปจริง ก่อนหน้านี้ช่วงกลางคืนไปซื้อยาเสพติดมา 10 เม็ด และเสพติดต่อกันไปถึง 8 เม็ด กระทั่งเลิกงานกลับถึงห้อง พอนอนก็ได้ยินเสียงคนบอกให้ไปปล้นเครื่องบิน จึงเอาปืนปลอมที่สั่งซื้อในแพลตฟอร์อี-คอมเมิร์ซพกติดตัวออกมา ส่วนขวานเหน็บติดรถไว้อยู่แล้ว จากนั้นก็ขี่ออกมาที่สนามบิน ตั้งใจขึ้นไปที่อาคารผู้โดยสาร แต่ขับหลงไปทางดังกล่าว ตอนนั้นในหูได้ยินแต่เสียงคนบอกให้ไปอย่างเดียว
อ่าน : อาสาฯชุมชนเกาหลี ช่วยเด็กวัย 10 ขวบ จากการถูกล่วงละเมิดทางเพศ โดยลุงวัย 60 ปี
ด้านเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทางเข้าสนามบิน นายหนึ่งเปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุพบเห็นชายคนดังกล่าวขี่จักรยานยนต์เข้ามาวนที่หน้าประตู และสอบถามทางไปอาคารผู้โดยสาร ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังแนะนำเส้นทางไป ขณะนั้นชายคนดังกล่าวยังไม่มีอาการใด ๆ จึงไม่ได้เอะใจอะไร คิดว่าคนเป็นการขับรถหลงเข้ามา
ส่วนทางคดี ตำรวจแจ้งข้อหาตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ. 2558 มาตรา 19 ผู้ใดใช้อาวุธหรือวัสดุอื่นใดกระทําการอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ ถ้าการกระทํานั้น เป็นอันตรายหรือน่าจะเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของท่าอากาศยาน ผู้กระทําต้องระวางโทษประหารชีวิต จําคุกตลอดชีวิต หรือจําคุกตั้งแต่ 15-20 ปี และปรับตั้งแต่ 600,000-800,000 บาท , พกพาอาวุธ(ขวาน)ไปในทาง เมื่อง ชุมชน และพื้นที่ห้วงห้ามเจตการบิน โดยไม่ได้รับอนุญาต , ทำให้ผู้อื่นเกิดความตกใจกลัว , ขับขี่ยานพาหนะขณะเสพสารเสพติดในร่างกาย , ทำให้เสียทรัพย์ และต่อสู้ขัดขวางการจับกุมของเจ้าพนักงาน รวม 6 ข้อหา
โดยวันนี้ (4 พ.ค.) พนักงานสอบสวนจะเอาตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติม จากนั้นจะฝากขังศาลจังหวัดสมุทรปราการผลัดแรกในวันพรุ่งนี้ (5 พ.ค.) ช่วงเช้า