ผู้ว่าฯ กทม. เสนอที่ประชุมสภา กทม. พิจารณาร่างกฎหมายสำหรับจ่ายหนี้ค้าง BTS กว่า 14,500 ล้านบาท ตามคำพิพากษาศาลปกครอง เผยยังมีค้างอีกคดี
วันนี้ (22 พ.ย. 2567) ระหว่างการประชุมสภากรุงเทพมหานคร นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ได้เสนอร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 พ.ศ. .... เนื่องจาก กทม.มีความประสงค์ชำระหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุง โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ให้กับ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ซึ่งต้องไม่เกินวันที่ 21 ม.ค. 2568 โดยจ่ายขาดจากเงินสะสมของ กทม.
ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ฝ่ายบริหารของกรุงเทพมหานครนั้น พิจารณาเรื่องการชำระหนี้ฯ เป็นไปตามขั้นตอนทุกประการ เพื่อให้เกิดความรอบคอบที่สุดโดยไม่มีการเร่งรัดกระบวนการเพราะความกังวลเรื่องเสียค่าปรับ จึงอยากให้พี่น้องประชาชนเข้าใจและมั่นใจว่า กทม. จะดูแลเงินภาษีของประชาชนอย่างดีที่สุด และไม่กังวลว่าจะถูกร้องว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
ปัจจุบัน กทม. มีเงินสะสมอยู่ประมาณ 50,000 ล้านบาท จึงมีเงินพอจ่ายหนี้ก้อนดังกล่าว กว่า 14,549 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าน่าจะจ่ายหนี้ก้อนดังกล่าวได้ภายในปี 2567 ก่อนกำหนดที่ศาลปกครองสูงสุดตั้งไว้ตามคำพิพากษา
“การพิจารณาชำระหนี้ก้อนดังกล่าวได้พิจารณาอย่างรอบคอบทุกด้านแล้วและได้สอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องครบถ้วนแล้ว เนื่องจากผู้บริหาร กทม. และสภา กทม.มีหน้าที่ปกป้องเงินภาษีของประชาชนให้รอบคอบที่สุด นอกจากนี้หากสภา กทม.มาขอพิจารณาเงินก้อนนี้จ่ายหนี้ไป ยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ กระตุ้น GDP ในช่วงปลายปีอีกทางด้วย เนื่องจากเมื่อภาคเอกชนได้รับการชำระหนี้ก้อนนี้ไปก็จะนำไปหมุนเวียนทางธุรกิจ เช่น จ่ายผู้รับเหมา จ่ายแรงงาน จึงเป็นเรื่องที่ดีที่วันนี้เรื่องชำระหนี้ก้อนดังกล่าวมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น” นายชัชชาติกล่าว
ผู้ว่าฯ กทม. ยังกล่าวว่า หนี้ของ กทม.กับทาง BTS ยังมีอีกก้อนที่อยู่ในการพิจารณาของศาลปกครอง แต่ทั้งนี้ ทาง กทม.ได้เตรียมวางแผนจ้างที่ปรึกษาสำหรับรับผิดชอบการเดินรถไฟฟ้า ช่วงหมอชิต-อ่อนนุช และช่วงสนามกีฬาแห่งชาติ-สะพานตากสิน ระยะทางรวม 23.5 กม. 24 สถานี หลังจากสัญญาจ้างเดินรถกับทาง BTS หมดลงในปี 2572 เพื่อไม่ให้เกิดคดีความขึ้นอีกในอนาคต
สำหรับร่างข้อบัญญัติ กทม. เพื่อให้จ่ายหนี้กับทาง BTS ทางสภา กทม. มีมติรับหลักการ และตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาพิจารณา โดยกำหนดระยะเวลาการแปรญัตติ 10 วันทำการ และกำหนดเวลาพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน