เช็กเลย! หลัง "ศบค." สั่งปรับพื้นที่เฝ้าระวังใหม่ พร้อมผ่อนคลายมาตรการ "คุมโควิด" หลัง 1 พ.ค. 2565 ต้องปฏิบัติตัวอย่างไร สามารถทำอะไรเพิ่มเติมได้บ้าง ตรวจสอบข้อมูลได้ที่นี่
หลังจาก ที่ประชุม "ศบค." ได้มีการติดตามประเมินผลการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงหลังเทศกาลสงกรานต์ประมาณ 1-2 สัปดาห์นั้นพบว่าการติดเชื้อโควิด อยู่ในระดับที่รับมือได้ โดยได้มีการปรับพื้นที่ "คุมโควิด" และมาตรการต่างๆ รวมไปถึงการผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศ รายละเอียดดังนี้
ปรับพื้นที่ "คุมโควิด" ใหม่
• พื้นที่ควบคุม 20 จังหวัด ให้เป็น 0 จังหวัด
• พื้นที่เฝ้าระวังสูงจาก 47 จังหวัด เป็น 65 จังหวัด
• พื้นที่สีฟ้า(นำร่องการท่องเที่ยว) เพิ่มเติมจาก 10 จังหวัด เป็น 12 จังหวัด
จังหวัดกำหนดพื้นที่ย่อยในระดับอำเภอ ให้เข้มกว่าที่ ศบค.กำหนด ได้ตามสถานการณ์ของจังหวัด พื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว ใช้มาตรการเช่นเดียวกับพื้นที่เฝ้าระวัง ทุกพื้นที่ต้องเน้นย้ำมาตรการ Universal Prevention, Universal Vaccination และมาตรการป้องกันควบคุมโรคตามราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• โควิดวันนี้ 24 เม.ย. 65 ผู้เสียชีวิตสูงถึง 128 ราย ติดเชื้อรายใหม่ 17,784 ราย
• นายกฯ จ่อเปิดประเทศเต็มรูปแบบ 1 พ.ค. ชี้ยังไม่เคาะโควิด19 เป็นโรคประจำถิ่น
• ด่วน! ศบค. ยกเลิกพื้นที่สีส้ม ปรับโซนคุมโควิด เพิ่ม 2 พื้นที่ท่องเที่ยว
มาตรการ "คุมโควิด" พื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว และพื้นที่เฝ้าระวังสูง
• คงมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด19 แบบบูรณาการ ตามระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร 1 พฤศจิกายน 2564 ทั้งนี้ ทุกพื้นที่ ปิดสถานบริการ สถานบันเทิง และสถานบริการอื่นในลักษณะคล้ายกัน
• การจัดกิจกรรมรวมกลุ่ม พื้นที่เฝ้าระวังสูง สามารถจัดกิจกรรมรวมคนได้ไม่เกิน 1,000 คน ส่วนพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว จัดกิจกรรมรวมกลุ่มได้ตามความเหมาะสม
• ปรับมาตรการบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร หรือ สถานที่ที่มีลักษณะเดียวกัน
- การจำกัดเวลาในการบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอออล์ จากไม่เกิน 23.00 น. เป็นไม่เกิน 24.00 น.
- คงการจำกัดประเภทร้านอาหารที่บริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ได้ ต้องเป็นร้านอาหารที่ผ่าน SHA+ หรือ Thai Stop COVID 2 Plus เท่านั้น และตามมาตรการ COVID Free Setting
• คงมาตรการสำหรับสถานบริการ สถานประกอบการคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ให้ผู้ประกอบการ เปิดดำเนินการในรูปแบบร้านอาหารได้ตามมาตรการที่กำหนด โดยขออนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กทม.ได้ เมื่อมีความพร้อมโดยไม่กำหนดระยะเวลา
ทาง "ศบค." เห็นชอบยกเลิก "Test & Go" แต่จะพิจารณาจากการฉีดวัคซีนครบโดสเป็นหลัก ซึ่งนักท่องเที่ยว จะต้องเข้ามาผ่านระบบไทยแลนด์พาส Thailand Pass ซึ่งจะเปิดระบบให้บริการ วันที่ 29 เมษายน 2565 เวลา 00.01 น. พร้อมแสดงเอกสารการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด โดยมีรายละเอียดดังนี้
• เห็นชอบการปรับมาตรการการเดินทางเข้าราชอาณาจักร สำหรับผู้เดินทางที่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ และผู้เดินทางที่ไม่รับวัคซีนตามเกณฑ์ หรือได้รับแต่ไม่ครบตามเกณฑ์ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 ดังนี้
• ผู้เดินทางที่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ (Vaccinated Travelers) ให้ยกเลิกการตรวจเมื่อมาถึง แนะนำให้ตรวจ Self-ATK ระหว่างพำนัก หากพบเชื้อโควิด ให้เข้าสู่กระบวนการตามประกันภัย หรือตามความรับผิดชอบของบุคคล
• ผู้เดินทางที่ไม่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ หรือได้รับแต่ไม่ครบตามเกณฑ์ (Unvaccinated Travelers) สามารถยื่นหลักฐานผลตรวจ RT-PCR ไม่เกิน 72 ชั่วโมง ก่อนเดินทางถึงประเทศไทย และลงทะเบียนแสดงหลักฐานดังกล่าวในระบบ Thailand Pass ก็จะสามารถเดินทางเข้าราชอาณาจักรได้เช่นเดียวกับผู้เดินทางที่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ (Vaccinated Travelers) หรือ กักตัวตามระบบ AQ โดยตรวจ RT-PCR วันที่ 4-5 พร้อมแนะนำให้ตรวจ Self-ATK ระหว่างพำนัก หากพบเชื้อโควิด ให้เข้าสู่กระบวนการตามประกันภัย หรือตามความรับผิดชอบของบุคคล
• ปรับลดวงเงินประกันสำหรับผู้เดินทางทั้ง 2 กลุ่ม จากไม่ต่ำกว่า 20,000 เหรียญสหรัฐ เป็นไม่ต่ำกว่า 10,000 เหรียญสหรัฐ