"ศรีสุวรรณ" นำ นายสุดสยาม หรือ กิ๊ก แก้ข้อกล่าวหา พร้อมแจ้งความกลับ "แรมโบ้อีสาน" ฐานแจ้งความเท็จและหมิ่นประมาท กรณีนำคลิปเสียงสนทนา แบ่งโควต้าสลากกินแบ่งรัฐบาล หาทุนเลือกตั้งใหญ่ปี 2562
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ สน.ดุสิต นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย พร้อมด้วยนายสุดสยาม มากแก้ว หรือ กิ๊ก เดินทางเข้าพบ พนักงานสอบสวน สน.ดุสิต เพื่อให้ปากคำกรณีนำคลิปเสียงเสียงสนทนา ของนางจุรีพร สินธุไพร ข้าราชการการเมืองประจำสำนักเลขาธิการนายกฯ และ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะทำงานเฉพาะกิจตรวจสอบผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลเสนอขาย หรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนด ออกมาโพสต์ตามสื่อสังคมออนไลน์
ซึ่งเนื้อหาการสนทนามีการกล่าวถึงประเด็นการจับกุมขบวนการโควต้าสลากกินแบ่งรัฐบาล และเกี่ยวพันกับทุนหาเสียงเลือกตั้งใหญ่ปี 2562 นำไปสู่การแจ้งความเอาผิดคนที่นำมาเผยแพร่ โดยอ้างว่าเป็นการใส่ร้ายกลั่นแกล้งทางการเมือง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายศรีสุวรรณ เปิดเผยว่า วันนี้ตนพานายสุดสยาม มารายงานตัวตามหมายเรียก ในข้อหา "หมิ่นประมาทและ นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จระบบคอมพิวเตอร์"ตามที่นายเสกสกลแจ้งความไป ส่วนข้อเท็จจริงนั้น
"นายสุดสยามจะปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เนื่องจากไม่ใช่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว เพียงแค่รู้จักกับนายเสกสกล และ นางจุรีพร และไปรับประทานอาหารกับนางจุรีพร ที่ซอยธนิยะ ย่านสีลม โดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่กลับมีคลิปเสียงเผยแพร่ใรสังคมออนไลน์ วันนี้นายสุดสยามจึงเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อแสดงความบริสุทธ์ใจ โดยจะปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา" นายศรีสุวรรณ กล่าว
ทั้งนี้ นายสุดสยามพร้อมแจ้งความดำเนินคดีอีกฝ่าย ในข้อหา "แจ้งความเท็จ และหมิ่นประมาท" เนื่องจากทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ส่วนกรณีที่ทั้งสองคู่ให้การว่านายสุดสยามเป็นผู้บันทึกเสียงนั้น ก็เป็นการหาแพะรับบาปเท่านั้น
ปกติแล้วนายสุดสยามมีอาชีพขายรถมือสอง และรับพิมพ์ลายเสื้อ เพิ่งได้รู้จักกับนางจุรีพร เมื่อไม่นานมานี้ จากการว่าจ้างให้พิมพ์ลายเสื้อ จึงมีโอกาสไปทานอาหารกับนางจุรีพร แต่ไม่คิดว่าจะถูกกล่าวอ้างว่าเป็นผู้บันทึกเสียง นายศรีสุวรรณ กล่าว
นายศรีสุวรรณ เปิดเผยอีกว่า โดยหลังจากคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีผู้โทรศัพท์เข้ามาข่มขู่นายสุดสยาม ทำให้เกิดความหวาดกลัว จึงขอให้หยุดการกระทำเช่นนี้นักการเมืองอยากทำอะไรก็เป็นเรื่องของนักการเมือง อย่านำคนบริสุทธิ์เข้ามาเกี่ยวข้อง
ด้าน นายสุดสยาม ระบุว่า เมื่อตนได้ทราบเรื่องดังกล่าว จึงมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม หลังจากนี้ขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ส่วนรายละเอียดตนขอให้การในชั้นสอบสวน
"ยืนยันว่าตนไม่ได้บันทึกเสียง โดยวันเกิดเหตุไปทานข้าวกับนางจุรีพร และมีการสนทนากันในเรื่องดังกล่าวจริง โดยในร้านมีคนเยอะ แต่ในโต๊ะที่ตนนั่งมีแค่นางจุรีพรและตนเอง นอกจากนี้เป็นลูกน้องของนางจุรีพร 5-6 คน อยู่บริเวณโต๊ะอื่น" นายสุดสยาม ระบุ
นายสุดสยาม ระบุต่ออีกว่า ส่วนท่าทีการพูดคุยของนางจุรีพร ขอใช้เป็นวิจารณญาณพิจารณากันเอง ซึ่งเนื้อหาในบทสนทนานั้น ตามในคลิปเสียง เป็นการพูดคุยกันประมาณ 2 นาที ซึ่งนางจุรีพรเปิดลำโพงขณะสนทนาจริง ตนก็ไม่ทราบว่าเปิดลำโพงทำไม คิดว่าโต๊ะอื่นก็ได้ยินเช่นเดียวกัน โดยผู้ที่อยู่ใกล้นางจุรีพรมีแค่ตนเท่านั้น แต่ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้บันทึกเสียง
นายสุดสยาม ยังกล่าวอีกว่า ในวันดังกล่าว ตนยอมรับว่า อยากได้โควต้าสลากกินแบ่งรัฐบาล จึงติดต่อนางจุรีพรไป จนได้ไปพบนายเสกสกล และร่วมทานอาหารกับนางจุรีพร ก่อนจะมาทราบเรื่องตามที่มีการนำเสนอข่าว
"หลังมีข่าวออกไป ตนไม่ได้พูดคุยกับทั้งสองคนแต่อย่างใด และไม่เข้าใจว่ามีเจตนาอย่างไรจึงแจ้งความเอาผิดตน รักไม่ทราบว่าทางคู่กรณี มีพยานหลักฐานอะไร คาถามากมายกินอะไรนะมีพยานหลักฐานมากมายเพียงใด มาแจ้งความดำเนินคดีกับตน แต่ขอยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว" นายสุดสยาม เล่า