svasdssvasds

รถตำรวจชนแล้วหนี คนขับอ้างเป็นต้อลม-รีบไปหาลูกป่วย โดนสอบวินัยเพิ่ม

รถตำรวจชนแล้วหนี คนขับอ้างเป็นต้อลม-รีบไปหาลูกป่วย โดนสอบวินัยเพิ่ม

รถตำรวจชนแล้วหนี เจ้าตัวบอกลูกป่วย-ตะโกนบอกคนขับแล้วว่าจะมาชดใช้เลยขับออกไป พลเมืองดีขับตามกว่า 40 กิโล ก่อนคลาดกัน ล่าสุดเจอตัวไกล่เกลี่ยเรียบร้อยแล้ว ด้าน บช.น. รายงานมีการสั่งสอบวินัยแล้ว

จากกรณีผู้ใช้เฟสบุ๊กรายหนึ่ง ได้ลงภาพนิ่งและคลิปหน้ารถในเพจเฟสบุ๊กเรารักดอนเมือง พร้อมระบุข้อความที่คิดว่าผู้ก่อเหตุมึนเมา ชนแล้วหนี

ซึ่งในคลิปจะเห็นรถตำรวจขับแซงทางขวาก่อนจะปาดหน้ารถคันที่มีกล้องหน้ารถ ลักษณะไม่เปิดไฟวิ่ง กระทั้งถึงแยกวัดพุทธสยาม ( วัดสีกัน ) รถตำรวจคันดังกล่าวได้ชนท้ายรถที่จอดติดไฟแดงอยู่ ก่อนจะเบี่ยงขวาแล้วขับออกไป ซึ่งมีคนพยายามวิ่งตามแต่ไม่ทัน ทั้งนี้ในคอมเม้นยังระบุอีกว่า ก่อนหน้านี้รถตำรวจคันดังกล่าวได้ชนแท็กซี่ ที่ถนนประชาอุทิศขาออกจนรถพุ่งไปชนมิเตอร์ประปา ได้รับความเสียหายก่อนจะขับหนีออกมาถนนสรงประภา ขาออกจนมาชนกับรถที่จอดติดไฟแดงตามคลิป

รถตำรวจชนแล้วหนี คนขับอ้างเป็นต้อลม-รีบไปหาลูกป่วย โดนสอบวินัยเพิ่ม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุมีพลเมืองดีที่เห็นเหตุการได้พยายามขับรถจักรยานยนต์ไล่ตามไปจนถึงบางบัวทอง ระยะทางกว่า 30 กิโลเมตร มีการบอกให้จอดแล้วแต่คนขับซึ่งคาดว่าจะเป็นตำรวจไม่ยอมจอดรถ และมีลักษณะมึนเมา ก่อนจะคลาดกัน

ในเวลาต่อมา ช่วงสายของวันนี้ พันตำรวจเอกรังสรรค์ สอนสิงห์ ผู้กำกับการ สน.ดอนเมือง ได้เดินทางมาพร้อมกับพันตำรวจตรีประวิทย์  กิณณะรีแช สารวัตรอำนวยการ กองกำกับการ 6 บก.จร. ผู้ขับขี่รถยนต์ตราโล่ห์ คันก่อเหตุ เพื่อเจรจาไกล่เกลี่ย กับ พ.อ.อ.(พันจ่าอากาศเอก) ประทีป แสงรัศมี ผู้ขับขี่รถแท็กซี่ ที่บริเวณ บ้านพักของผู้ชับขี่รถแท็กซี่ โดยใช้เวลาในการพูดคุยกันประมาณ 30 นาที ก่อนจะออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน

โดยพันตำรวจตรีประวิทย์ ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ขณะที่ตนเองเดินทางมาหาเพื่อน ในย่านนี้แต่ไม่คุ้นเส้นทาง จึงมีการเปิดแอปนำทาง เพื่อจะกลับบ้านพักในย่านพระราม 2 แต่ จีพีเอสได้นำทางมาในเส้นทางที่ตนเองไม่คุ้น จึงเกิดการเฉี่ยวชนขึ้น ซึ่งตอนที่เฉี่ยวชนรถแท็กซี่ตนเองได้จอดรถและตะโกนแจ้งเจ้าของรถว่า จะติดต่อมาชดใช้ ไม่ต้องกลัว แต่ตนเองรีบเพราะลูกไม่สบายอยู่บ้านเพียงลำพัง จึงรีบเดินทางออกไป ก่อนจะไปเฉี่ยวชนกับรถคู่กรณีอีกคัน 

รถแท็กซี่ที่ถูกชน

ทั้งนี้ตนเองยืนยันว่าเมื่อคืนไม่ได้มึนเมา แต่เป็นเพราะตนเองมีโรคต้อลม ในดวงตา และไม่คุ้นเคยเส้นทางจึงเกิดการชน ส่วนที่รีบกลับเพราะลูกไม่สบายไม่ใช่หลบหนี ซึ่งตนเองได้เจรจาพูดคุยกับคู่กรณีโดยพร้อมชดใช้ในความเสียหายทั้งหมดทั้งค่าเสียเวลาและค่าซ่อมให้กับอู่ 

ขณะที่ พ.อ.อ.ประทีป ผู้ขับขี่รถยนต์แท็กซี่ระบุว่า จุดเกิดเหตุคือริมถนนในซอยตรงข้ามบ้านพักซึ่งขนาดนั้นตนเองได้มีการจอดรถและไปเข้าห้องน้ำที่บ้านเพื่อจะวิ่งรถต่อก่อนที่ลูกสาวจะวิ่งมาบอกว่ารถที่จอดอยู่บริเวณหน้าบ้านถูกเฉี่ยวชนเมื่อตนเองออกไปถึงหน้าบ้านก็เห็นว่ารถตำรวจคันดังกล่าวยังคงจอดอยู่แต่ไม่ได้ลงจากรถเพราะเมื่อมีการเดินลงไปใกล้ใกล้ก็มีการตะโกนอะไรบางอย่างซึ่งขณะนั้นตนเองจับใจความไม่ได้เพราะว่าผู้ขับขี่มีการเปิดกระจกรถที่บริเวณด้านซ้ายแต่ตนเองยืนอยู่บริเวณด้านขวาจึงไม่ได้ยินว่าคนรถพูดว่าอะไรก่อนที่ในเวลาต่อมารถยนต์ตำรวจคันดังกล่าวได้เลี้ยวออกจากจุดเกิดเหตุและขับด้วยความเร็วออกไป

ทั้งนี้ตนเองยอมรับว่าตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ในวันนี้ได้มีการพูดคุยเจรจากับทางคู่กรณีซึ่งเบื้องต้นทางคู่กรณีแจ้งว่าจะยินยอมชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดซึ่งตนเองพอใจแต่ขอให้ทางคู่กรณีทำตามที่ให้คำมั่นสัญญาไว้รวมถึงขอให้ใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวัง เพราะรถบนถนนมีมากมายอาจเกิดอันตรายกับบุคคลอื่นได้

พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.

ด้าน พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. แถลงข่าวรถยนต์กระบะทะเบียนโล่ ขับเฉี่ยวขนรถผู้อื่นเสียหาย เหตุเกิดพื้นที่ สน.ดอนเมือง เมื่อคืนที่ผ่านมา ว่า ตำรวจสถานีนครบาลดอนเมือง ตั้งข้อหาไปสองข้อหา คือ ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนและให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย

นอกจากนี้ยังได้ตรวจวัดแอลกอฮอล์ในร่างกายของเจ้าที่ตำรวจพูดดังกล่าวโดยที่ไม่พบแอลกอฮอล์ในร่างกาย และทางตำรวจจราจรต้นสังกัดได้พิจารณาโทษทางวินัยด้วย

related