ราคาพลังงานหมุนเวียนทั่วโลกกำลังพุ่งสูงขึ้นจากอุปสงค์พลังงาน กระทบอเมริกาเหนือและยุโรปที่กำลังหันหลังให้รัสเซียหลังโจมตียูเครน โดยภายใน 1 ปี ราคาพุ่งขึ้น 30%
พลังงานหมุนเวียนที่กำลังถูกจับจ้องจากประเทศที่กำลังพัฒนาและประเทศที่พัฒนาแล้วในการหันไปใช้พลังงานสะอาดตามนโยบายสีเขียว โดยเฉพาะในฝั่งยุโรป แต่เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของ covid-19 ทำให้ตลาดเศรษฐกิจ การขนส่ง และแรงงานต้องหยุดชะงัก และเลวร้ายลงไปอีกเมื่อรัสเซียบุกยูเครน
ราคาพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ในตลาดสำคัญ ๆ ทั่วโลกพุ่งขึ้นเกือบ 30% ภายใน 1 ปี เนื่องจากนักพัฒนาต้องต่อสู้กับซัพพลายเชนที่วุ่นวายและต้นทุนที่เพิ่มขึ้นสำหรับทุกอย่าง ตั้งแต่การขนส่ง ชิ้นส่วน ไปจนถึงค่าแรง
ราคาสัญญาพลังงานหมุนเวียนเพิ่มขึ้น 28.5% ในอเมริกาเหนือ และ 27.5% ในยุโรปเมื่อปีที่แล้ว ตามดัชนีไตรมาสโดย LevelTen Energy ซึ่งได้ติดตามการทำข้อตกลง หรือเป็นที่รู้จักกันในอุตาสหกรรมสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) LevelTen กล่าวว่า เฉพาะในไตรมาสแรกของปีนี้ราคาก็เพิ่มขึ้น 9.7% แล้วในอเมริกาเหนือ และอีก 8.6% ในยุโรป
ความเสี่ยงที่มีต้นทุนสูงขึ้น อาจทำให้การเติบโตของอุปสงค์ช้าลงในขณะที่องค์การสหประชาชาติเรียกร้องให้มีการขยายพลังงานสะอาดให้เร็วขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่เลวร้ายที่สุดของสภาพอากาศที่ร้อนขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ยูเครนยุติการนำเข้าสินค้าทุกชนิดจากรัสเซีย เรียกร้องให้ประเทศอื่นๆทำตาม
WHO เตือนโลก กำลังเจอปัญหามลพิษทางอากาศขั้นรุนแรง แทบไม่มีอากาศบริสุทธิ์
โรงไฟฟ้ากระจกหมื่นบาน ผลิตไฟจากพลังแสงอาทิตย์ ทันสมัย-ไร้มลพิษ
UN เตือนทั่วโลก แม้ยูเครนจะวิกฤต แต่ต้องไม่ลืมดำเนินการควบคุมอุณหภูมิโลก
โซลาร์เซลล์ลอยน้ำที่ใหญ่ที่สุดโลก เขื่อนสิรินธรเปิดแล้ว ทั่วโลกตีข่าว
ความท้าทายที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในอเมริกาเหนือ ภาคส่วนนี้มีความไม่แน่นอน ในด้านของฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐฯจะขยายเวลาลดหย่อนภาษีสำหรับโรงงานพลังงานหมุนเวียนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวาระการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประธานาธิบดี โจ ไบเดนหรือไม่
นักพัฒนายังกังวลเกี่ยวกับการสอบสวนของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯที่เริ่มต้นขึ้นในปีนี้ ซึ่งอาจส่งผลให้มีการเก็บภาษีศุลกากรสำหรับการนำเข้าแผงโซลาร์เซลล์จากเอเชีย ซึ่งทำให้ต้นทุนสูง
Reagan Farr ผู้บริหารระดับสูงของ Silicon Ranch ผู้พัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์ในสหรัฐฯกล่าวว่า “มันเป็นปัญหาที่ยากจะแก้ไขได้ในขณะนี้กับซัพพลายเชนของเรา”
ในยุโรป สงครามในยูเครนทำให้รัฐบาลต่างๆพยายามลดการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย และเพิ่มความต้องการพลังงานหมุนเวียนที่แข็งแกร่งขึ้น สงครามครั้งนี้เป็นเหมือน ‘ฟางเส้นสุดท้ายสำหรับตลาดที่มีความตึงเครียดด้านราคาอยู่แล้ว’ ออสการ์ เปเรซ หุ้นส่วนของผู้จัดการกองทุนในสเปนและผู้พัฒนาพลังงานหมุนเวียน Q-Energy กล่าวในการให้สัมภาษณ์
Graham Price นักวิเคราะห์ของ Raymond James ระบุว่า ค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นสำหรับพลังงานหมุนเวียนในยุโรป ควบคู่ไปกับนโยบายด้านสภาพอากาศที่เข้มข้นขึ้น น่าจะช่วยกระตุ้นความสนใจของเทคโนโลยีที่ล้ำค่ากว่า เช่น ไฮโดรเจนสีเขียวและเชื้อเพลิงชีวภาพ
ซึ่งอย่างที่ทราบกันดีว่า ยุโรปกำลังเปลี่ยนแปลงให้เป็นเมืองที่ net zero carbon หรือคาร์บอนสุทธิเป็น 0 เพิ่มพื้นที่สีเขียว รวมไปถึงหันมาใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น จึงเป็นสถานการณ์ที่น่าตึงเครียดในด้านของราคาและภาษีที่ต้องมีการขนส่งพลังงานมาจากเอเชียแทนหลังไม่พึ่งรัสเซีย
สำหรับตอนนี้ราคาที่พุ่งสูงขึ้นไม่ได้ทำให้อุปสงค์ชะลอตัว LevelTen กล่าว จากผลสำรวจของบริษัทที่จัดทำโดยที่ปรึกษาด้านความยั่งยืนและพลังงาน 21 คน โดย 75% ของจำนวนดังกล่าว พบว่าลูกค้าของพวกเขายังคงเร่งหรือยังคงแผนการจัดซื้อจัดจ้างไว้อยู่
“มันไม่เกี่ยวกับความต้องการ ดีมานต์อยู่คงเดิมแต่อุปทานกำลังดิ้นรนเล็กน้อยในหลาย ๆ ตลาด” Luigi Sacco หัวหน้าฝ่าย PPA ที่ Falck Renewables ซึ่งตั้งอยู่ในมิลานกล่าว
ปัจจัยหนึ่งที่ดึงดูดผู้ซื้อให้หันมาใช้พลังงานหมุนเวียน คือ ต้นทุนเชื้อเพลิงฟอสซิลที่พุ่งสูงขึ้น‘ทางเลือกที่พร้อมสำหรับการผลิตพลังงานหมุนเวียนในตอนนี้คือก๊าซและราคาก๊าซก็เพิ่มขึ้น 100% เช่นกัน’ Farr กล่าว
หลาย ๆ ประเทศได้มีการทำข้อตกลงอนุสัญญาในการขับเคลื่อนให้ประเทศของตัวเองนั้นรักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าก็กำลังพุ่งสูงขึ้น ดังนั้นตลาดการแข่งขันด้านพลังงานจึงเข้มข้นขึ้นด้วยเช่นกัน
ที่มาข้อมูล
https://www.reuters.com/business/energy/global-renewable-power-prices-soar-heavy-demand-chaotic-supply-chain-2022-04-13/