รัสเซีย ต้องการซื้อขายก๊าซธรรมชาติ เป็น "รูเบิล"

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำของรัสเซีย กล่าวว่า สำหรับการซื้อ-ขายก๊าซธรรมชาติให้กับประเทศที่ "ไม่เป็นมิตร" รัสเซียจะขอเงินเป็นรูเบิล (Rubles) สกุลเงินของรัสเซีย ในขณะที่ราคาก๊าซยุโรปพุ่งสูงขึ้นจากความกังวล ว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวจะทำให้วิกฤตพลังงานในภูมิภาครุนแรงยิ่งขึ้น

ประเทศในยุโรปและสหรัฐอเมริกาได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรอย่างหนักกับรัสเซีย ตั้งแต่ประธานาธิบดีปูตินประกาศ ปฏิบัติการทางทหารในยูเครนเมื่อเดือนที่แล้ว (24 ก.พ.) แต่ยุโรปเองกลับต้องพึ่งพาก๊าซธรรมชาติของรัสเซียอย่างมากในการผลิตความร้อนและพลังงาน ทำให้สหภาพยุโรปเสียงแตกว่าจะคว่ำบาตรภาคพลังงานของรัสเซียหรือไม่

ข้อความของประธานาธิบดีปูตินมีความชัดเจนอย่างมาก "หากคุณต้องการน้ำมันของเรา ซื้อด้วยสกุลเงินของเรา" ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ารัสเซียมีอำนาจในการเปลี่ยนแปลงสัญญาที่มีอยู่เพียงฝ่ายเดียวที่ตกลงกันในสกุลเงินยูโรหรือไม่

เงินรูเบิลพุ่งขึ้นชั่วครู่หลังจากการประกาศที่น่าตกใจสู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ที่ 95 รูเบิลต่อ 1 ดอลลาร์ แม้ว่าราคาจะขยับขึ้นแต่ยังคงต่ำกว่า 100 ลดลงมากกว่า 22% นับตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง :

• "วลาดิเมียร์ ปูติน" ประธานาธิบดีรัสเซีย มีสินทรัพย์เท่าไหร่ ?
• ญี่ปุ่น เตือน เสี่ยงไฟดับคืนนี้ 2 ทุ่ม เหตุขาดแคลนพลังงานหลังเหตุแผ่นดินไหว
• OPEC ประกาศเตือน โลกเสี่ยงขาดแคลนน้ำมัน เตรียมรับราคาน้ำมันแพงกระฉูด

ราคาขายส่งก๊าซในยุโรปบางแห่งสูงขึ้นถึง 30% ในวันพุธ ราคาขายส่งก๊าซอังกฤษและดัตช์พุ่งขึ้น

ก๊าซของรัสเซียคิดเป็น 40% ของการบริโภคทั้งหมดของยุโรป การนำเข้าก๊าซของสหภาพยุโรปจากรัสเซียในปีนี้ผันผวนระหว่าง 200 - 800 ล้านยูโร (7,300 - 29,500 ล้านบาท) ต่อวัน

"แน่นอนว่ารัสเซียจะยังคงจัดหาก๊าซธรรมชาติตามปริมาณและราคา ซึ่งแก้ไขในสัญญาที่สรุปไว้ก่อนหน้านี้การเปลี่ยนแปลงจะมีผลกับสกุลเงินที่ชำระเท่านั้น ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นรูเบิลรัสเซีย " ประธานาธิบดีปูติน กล่าว

โรเบิร์ต ฮาเบ็ค (Robert Habeck) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของเยอรมนี ระบุว่า ขอเรียกร้องของประธานาธิบดีปูติน เป็นการละเมิดสัญญา ทำให้ประเทศรายอื่น ๆ ที่ซื้อก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียสะท้อนประเด็นดังกล่าวด้วย

รัฐบาลโปแลนด์ ระบุว่า "สิ่งนี้ถือเป็นการละเมิดกฎการชำระเงินที่รวมอยู่ในสัญญาปัจจุบัน" และเสริมว่าโปแลนด์ไม่มีความตั้งใจที่จะลงนามในสัญญาฉบับใหม่กับแก๊สพรอม (Gazprom) บรรษัทพลังงานข้ามชาติของรัสเซีย หลังจากที่ข้อตกลงที่มีอยู่จะหมดอายุลงในสิ้นปีนี้

ธนาคารรายใหญ่ไม่เต็มใจที่จะซื้อขายสินทรัพย์ของรัสเซีย ซึ่งทำให้ความต้องการของประธานาธิบดีปูตินมีความซับซ้อนมากขึ้น

โฆษกของบริษัทก๊าซเอ็นเนโก (Eneco) ของเนเธอร์แลนด์ ซึ่งซื้อก๊าซ 15% จาก วิงก๊าซ (Wingas GmbH) บริษัทลูกของ Gazprom ในเยอรมนี กล่าวว่า บริษัทมีสัญญาระยะยาวในสกุลเงินยูโร ระบุว่า "เรานึกไม่ถึงว่าเราจะตกลงเปลี่ยนเงื่อนไขนั้น"

ตามข้อมูลของ Gazprom การขายก๊าซธรรมชาติในยุโรปและประเทศอื่น ๆ ณ วันที่ 27 ม.ค. เป็นสกุลเงินยูโรกว่า 58% ในขณะที่เป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็น 39% ของยอดขายรวม และสเตอร์ลิงประมาณ 3% สินค้าโภคภัณฑ์ที่ซื้อขายทั่วโลกส่วนใหญ่ทำธุรกรรมในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ หรือยูโร ซึ่งคิดเป็นประมาณ 80% ของทุนสำรองสกุลเงินทั่วโลก

อเล็กซานเดอร์ นิโคลอฟ (Alexander Nikolov) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของประเทศบัลแกเรีย กล่าวว่า "ไม่มีอันตรายสำหรับอุปทาน (ก๊าซ) เราได้ตรวจสอบแล้ว มีคู่สัญญาทางการเงินในบัลแกเรียที่สามารถรับรู้ธุรกรรมในรูเบิลได้เช่นกัน เราคาดหวังการกระทำทุกประเภทที่ใกล้จะถึงสิ่งที่ไม่ปกติ แต่สถานการณ์นี้ได้มีการหารือกันแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีความเสี่ยงสำหรับการชำระเงินภายใต้สัญญาที่มีอยู่"

บริษัทหลายแห่ง รวมถึงบริษัทน้ำมันและก๊าซรายใหญ่ Eni, Shell และ BP, RWE และ Uniper ซึ่งเป็นผู้นำเข้าก๊าซรัสเซียรายใหญ่ที่สุดของเยอรมนี ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น

ลีออน อิซบิกกี (Leon Izbicki) ที่ปรึกษาของเอเนอร์จีแอสเป็กส์ (Energy Aspects) บริษัทที่ปรึกษาด้านพลังงานของ กล่าวว่า "ยังไม่ชัดเจนว่าลูกค้าชาวยุโรปจะเปลี่ยนการชำระเงินเป็นรูเบิลได้ง่ายเพียงใดเมื่อพิจารณาจากขนาดของการซื้อเหล่านี้"

อย่างไรก็ตาม อิซบิกกี ระบุว่า ธนาคารกลางของรัสเซียสามารถจัดหาสภาพคล่องเพิ่มเติมให้กับตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าและธนาคารในยุโรปสามารถจัดหาเงินสกุลรูเบิลที่จำเป็นได้