เศรษฐกิจจีนไตรมาสสาม โตช้า ชะลอตัวลงเหลือ 4.9%

เศรษฐกิจของจีนเติบโตเพียง 4.9% ในไตรมาสที่สามของปี 2564 ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่อ่อนแอที่สุดในรอบปี เนื่องจากประเทศต้องเผชิญกับวิกฤตด้านพลังงานครั้งใหญ่ การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน และปัญหาหนี้ที่ทวีความรุนแรงขึ้นในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เกินขนาด

ข้อมูลจากสำนักสถิติแห่งชาติของจีนชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจของจีนได้รับผลกระทบจากความท้าทายมากมายในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

ประเทศจีนกำลังอยู่ในช่วงวิกฤตด้านพลังงานที่ส่งผลกระทบต่อผลผลิตของโรงงานและนำไปสู่การตัดไฟในบางพื้นที่ ปัญหาดังกล่าวได้รับแรงหนุนจากความต้องการเมื่อต้นปีนี้สำหรับโครงการก่อสร้างที่ต้องใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและขัดแย้งกับการไล่ตามเป้าหมายที่ทะเยอทะยานของปักกิ่งในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โรงงานบางแห่งได้ลดกะเนื่องจากการปันส่วนพลังงาน ราคาถ่านหินอยู่ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• จีน ประสบปัญหาพลังงานขาดแคลน ตัดไฟโรงงานอุตลุด
• ยาน "เสินโจว-13" ทะยานไปนอกโลก ภารกิจสำคัญสร้างสถานีอวกาศแห่งแรกของจีน
• โตโยต้า เผย ชิปขาดแคลนจำเป็นต้องลดการผลิตลง 1.5 แสนคัน

สินค้าคงคลังที่เพิ่มขึ้นและความล่าช้าในการจัดส่งยังส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตรายเล็กในจีนซึ่งขณะนี้กำลังได้รับผลกระทบด้านเงินสด และทำให้พวกเขาต้องลดการผลิตหรือสูญเสียคำสั่งซื้อ

วิกฤตหนี้ของกลุ่มบริษัท Evergrande ของจีนที่ต่อสู้ดิ้นรนได้ก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงในการแพร่กระจายไปยังภาคอสังหาริมทรัพย์ขนาดยักษ์และเศรษฐกิจในวงกว้าง

อสังหาริมทรัพย์ร่วมกับอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องคิดเป็นสัดส่วนมากถึง 30% ของ GDP ของประเทศ การล่มสลายของ Evergrande อาจทำให้นักลงทุนและผู้ซื้อหวาดกลัวในขณะที่กิจกรรมการขายอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้างชะลอตัวลง การผิดสัญญาที่อาจเกิดขึ้นโดยนักพัฒนาอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการเติบโตและก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อเสถียรภาพทางการเงิน

อย่างไรก็ตาม ทางการได้พยายามระงับความกลัวเกี่ยวกับปัญหาเหล่านั้นที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจ

ธนาคารประชาชนแห่งประเทศจีน กล่าวว่า Evergrande จัดการธุรกิจผิดพลาด แต่ความเสี่ยงต่อระบบการเงินนั้น "ควบคุมได้"

ฟู หลิงฮุย โฆษกสำนักงานสถิติแห่งชาติ กล่าวว่า "การจัดหาพลังงานที่ตึงตัวเป็นเพียงระยะหนึ่ง และผลกระทบต่อเศรษฐกิจสามารถควบคุมได้" บรรเทาความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตพลังงาน

หลิงฮุย ยังชี้ให้เห็นว่าราคาพลังงานทั่วโลก "เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว" ตั้งแต่ต้นปี และเตือนว่าอุปทานพลังงานและถ่านหินในจีนยังตึงตัวอยู่ อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่าวิกฤติการณ์ดังกล่าวจะ "บรรเทาลง" เนื่องจากรัฐบาลได้ดำเนินมาตรการเพื่อควบคุมปัญหา ตัวอย่างเช่น เมื่อต้นเดือนนี้ จีนสั่งให้เหมืองถ่านหินเพิ่มการผลิต

จีนยังคงเดินหน้าบรรลุเป้าหมายการเติบโตประจำปีที่กำหนดโดยปักกิ่งมากกว่า 6% ในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2021 GDP เติบโตขึ้น 9.8% จากปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่การระบาดใหญ่ของโควิด19 รุนแรงที่สุด

แต่ทางการยังคงเตือนถึงความกังวลที่รออยู่ข้างหน้า ฟู หลิงฮุย ตั้งข้อสังเกตว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ "ยังคงไม่แน่นอนและไม่สม่ำเสมอ"

"ความท้าทายในการรักษาเศรษฐกิจให้ดำเนินไปอย่างราบรื่นได้เพิ่มขึ้น" โฆษกสำนักงานสถิติแห่งชาติ กล่าวเสริม